ฉันจะมา รีวิวWarriors of Future ผลงานของปีะเทศที่ไม่แพ้ชาติใดเลย  CG และนี่ก็คือหนังฮ่องกงที่เพิ่งจะสร้างปรากฏการณ์เขย่าบ็อกซ์ออฟฟิศมาหมาด ๆ กับหนังแอคชั่นไซไฟฟอร์มใหญ่ Warriors of Future นักรบแห่งอนาคต

ที่เป็นการประชันบทบาทของทีมนักแสดงระดับแม่เหล็กของวงการ ตัวพ่อตัวแม่ยกขบวนกันมาเต็ม ๆ อีกทั้งยังใส่คอนเซ็ปต์ล้ำโลกในอนาคตออกมา พร้อมกับงานออกแบบซีจีที่ไม่น้อยหน้าใคร รับรองได้เลยว่าเรื่องนี้ต้องสนุกมากแน่นอน สามารถเข้ารับชมหนังได้ที่ ดูหนังออนไลน์

รีวิวWarriors of Future หนัง ผจญภัยล่าขุมทรัพย์ แอ๊คชั่นจัดเต็ม โครตมัน

Upload Image...

รีวิวWarriors of Future หนังที่ลงส้ราง 45 ล้าน

อย่างแรกที่ฉันอยากจะพูดถึงก็คือหนัง Warriors of Future แอ็คชั่นไซไฟการทุนสร้าง 45 ล้านเหรียญสหรัฐของฮ่องกงที่ฉายโรงบ้านเขาตอนเดือนสิงหาคมปี 2022 กำกับโดยนักทำวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ Ng Yuen-fai เป็นการกำกับเรื่องแรกของเขา ซึ่งก็ทำให้หนังเรื่องนี้เน้นหนักไปจุดขายฉากไซไฟเต็มกระหน่ำทั้งเรื่อง แทบไม่มีฉากไหนเลยที่ไม่พึ่ง CG ซึ่งผลงานที่ออกมาก็นับว่าดีใช้ได้ แต่ต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วนครึ่งแรกกับครึ่งหลังว่ามีความต่างกันมากพอสมควร

ในครึ่งแรกตัวเรื่องพยายามขายแนวหน่วยทหารใส่ชุดรบในอนาคตสู้กับเอเลี่ยนที่ นอกจากจะมีต้นไม้ยักษ์ที่เป็นตัวหลักของเรื่อง ก็ยังมีพวกเอเลี่ยนสัตว์ประหลาดที่วิ่งเพ่นพ่านในตึกร้างแถวนั้นด้วย ซึ่งทั้งสองอย่างนี้บอกเลยว่าดูแล้วค่อนข้างหลอกตาเป็น CG แบบพวกคัทซีนเกมมากกว่า มีความลอย ๆ เน้นสู้เร็ว ๆ กล้องเหวี่ยงไปมากลบรายละเอียด CG จนดูแล้วมึน ๆ ชวนอ๊วก ถ้าหากจะรับชมเรื่องนี้สามารถรับชมได้ที่ ดูWarriors of Future

แล้วการออกแบบสัตว์ประหลาดในเรื่องก็จีนมาก การเคลื่อนไหวเหมือนหมาล่าเนื้อปราดเปรียว ชวนดูสับสันมากไม่น้อย แต่ตัวเป็นแนวแมลง ลายบนตัวออกจีนๆ เหมือนจะให้ดูเป็นลายแบบมังกรหรือสัตว์ในเทพนิยายจีนอะไรเทือกนั้น ซึ่งมันไม่ค่อยเข้ากันเลย แล้วก็ยังไม่มีที่มาที่ไปอะไร เหมือนตั้งใจยัดมาให้มีฉากแอ็กชั่นฟัดกับเอเลี่ยนเท่านั้นอะ อันนี้แล้วแต่ความรู้สุกของส่วนบุคคลเท่านั้นนะ

Upload Image...

ไหนเมื่อเราพูดถึงครึ่งฉากแรกกันแล้ว ส่วนครึ่งหลังฉากแอ็กชั่นหันไปสู้กับหุ่นยนต์ทหารที่ออกไล่ล่าพวกพระเอก ซึ่งพอตัดความเป็นสัตว์ประหลาดเอเลี่ยนออกไป CG ที่ดูแบบเกมจ๋ามากในตอนแรกกลับดูดีขึ้นมาก มีโชว์ฟังก์ชั่นสู้รบของชุดเกราะทหาร

การเก็บรายละเอียดของชุดกับหุ่นก็สวยสมจริง แต่ฉากต่อสู้ยังคงมีความเร็วเหวี่ยงกล้องไปมา มีการปะทะต่อยเตะตัวๆ กับหุ่น เหมือนหนังบู๊ที่คนใส่เกราะชกกับหุ่นกันดุ้นๆ รวมถึงฉากขับรถหนีหุ่นยักษ์ไล่ล่ายาวนานที่ทำออกมาสนุกตื่นเต้นเลย เรียกว่าจากที่ครึ่งแรกดูแล้วน่าเบื่อจะหลับ มาครึ่งหลังนี่ปลุกให้ตื่นตาดูได้จนจบสบายๆ เลย

แต่ถึงยังไงตัว CG จุดขายของเรื่อง รีวิวนักรบแห่งอนาคต จะทำได้ดีน่าชื่นชม แต่บทกลับเข้าขั้นแย่ในหลายๆ อย่าง ตั้งแต่พล็อตเรื่องที่ลวก ๆ ง่ายๆ แค่ทีมพระเอกต้องฉีดไวรัสเข้าแม่ของพืชต่างดาวให้ได้ ซึ่งก็เปิดมาแบบเล่าเกริ่นเรื่องในยุคนั้นสั้น ๆ แล้วก็เข้าภารกิจเลย ดูเหมือนไวทันใจดีก็ใช่ แต่มันกลับไม่ได้ให้รายละเอียดที่ทำให้ดูแล้วน่าเชื่อถือเลยว่าทำอย่างนี้ ๆ จะช่วยโลกไว้ได้ ตัวเรื่องก็พยายามยัดเยียดดราม่าเด็กน้อยกำพร้าแม่ที่เจอระหว่างทำภารกิจให้พระเอก

นึกถึงลูกสาวตัวเอง แล้วก็หาเรื่องตัดซีนบิ้วให้เศร้านึกถึงเด็กเป็นช่วงๆ ระหว่างเจอเรื่องคับขัน ซึ่งมันไม่เข้ากันเลยจริงๆ นอกจากนี้ยังมีทหารหนุ่มทะเลาะกับแฟนตามมาในภารกิจกู้โลก แต่กลับทำตัวงี่เง่าปอดแหกเป็นภาระตลอดเรื่อง หน้าตาลุคก็ไม่เข้ากับความเป็นทหาร เหมือนบทจงใจยัดมาให้คนดูรำคาญ

เพื่อจะให้เขามีซีนเป็นฮีโร่นิดๆ ท้ายเรื่อง แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยจริงๆ และยิ่งตัวละครทหารหญิงที่เป็นคนคุมภารกิจนี่ยิ่งลุคไม่ได้ การแสดงไม่ผ่านเลยดูแข็งๆ ซึ่งแสดงโดย Carina Lau เป็นโปรดิวเซอร์เรื่องนี้ด้วย

ส่วนตัวเอกของเรื่อง 3 คนก็พยายามทำให้มีปมดราม่าปูมหลังที่ว่าทั้ง 3 คนสนิทกันมานานแต่ต้องมาทะเลาะแตกคอกัน แต่ได้กลับมาร่วมภาระกิจกู้โลกที่ช่วยประสานรอยร้าวความสัมพันธ์ให้กลับมา ซึ่งก็เหมือนใส่มางั้นๆ แถมยังออกแนวตลกซะมากกว่าเมื่อต้องนั่งทะเลาะกันในช่วงคับขันชี้ชะตาโลกแบบนี้ สามารถติดตามการรีวิวเรื่องนี้ได้ที่ รีวิวหนังดัง

เรื่องนี้ครองตำแหน่งหนังรายได้สูงในฮ่องกง

เรื่องนี้ นักรบแห่งอนาคต ทำให้เรารู้สึผงาดกับการขึ้นครองตำแหน่งหนังฮ่องกงที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลเรื่องใหม่ล่าสุด กับรายได้กว่า 80 ล้านเหรียญฮ่องกง หลังจากที่ออกฉายมาในช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นี่คือหนังแอคชั่นไซไฟฟอร์มใหญ่ที่ใช้ทุนสร้างเกือบ 2 พันล้านบาท ที่เป็นฝีมืองานสร้างของผู้กำกับ อู๋ซวนฮุ่ย ที่ขึ้นมาชิมลางสร้างหนังเรื่องนี้ หลังจากที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการกำกับเทคนิคพิเศษมาหลายปี

ถึงแม้ว่าผู้กำกับจะมีประสบการณ์งานเบื้องหลังมาค่อนข้างหลายปี แต่เมื่อต้องมาหยิบจับสร้างหนังขนาดมหึมาขนาดนี้ ดูเหมือนว่าจะมีอัตราที่ใหญ่เกินตัวเขาไปสักหน่อย แม้ว่าหนังจะวางคอนเซ็ปต์และสตอรี่มาค่อนข้างดี แต่กลับน่าเสียดายที่หลายองค์ประกอบในหนังดีไม่ค่อยกลมกลืนไปในทิศทางเดียวกันเท่าไหร่ มีความไซไฟที่พยายามเดินรอยตามฝั่งฮอลลิวูด แต่ก็ยังทำออกมาได้ค่อนข้างห่างชั้นอยู่พอประมาณ ไม่ถึงกับขั้นเทพมากมายอะไรขนาดนั้น

Upload Image...

การสร้างและโปรดักชั่นของ Warriors of Future จะไม่ได้ย่ำแย่อะไรเลย แต่ก็ยังไม่ใช่งานสร้างที่สมบูรณ์ที่เพียงพอ แอบเสียดายที่หนังไม่สามารถคุมโทนความเป็นไซไฟได้อย่างหมด ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบรรยากาศล้ำ ๆ แห่งโลกอนาคตในหนังที่ยังพบรอยต่อให้เห็นบ่อย ๆ ฉากบู๊และฉากไซไฟยังวนเวียนอยู่ในเซฟโซนค่อนข้างเยอะ และไม่ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมได้มากเท่าไหร่ เพราะล้วนแต่เป็นสิ่งที่เคยเห็นมาแล้ว

จุดเด่นของเรื่องนี้

แน่นอนว่าจุดเด่นที่หนังเรื่องนี้ นักรบแห่งอนาคต pantip ทำได้ดีก็คืองานออกแบบสัตว์ประหลาด ที่ถือว่าเป็นการงัดสกิลดีเด่นของผู้สร้างมาใช้ได้อย่างเป็นประโยชน์ สิ่งมีชีวิตประหลาด ๆ ที่หนังได้ใส่เข้ามานั้น มาพร้อมกับงานสร้างที่ค่อนข้างละเอียดและขับอารมณ์ความกลัวได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าเมื่อนำเอาองค์ประกอบซีจีกับมาผูกเข้ากับฉากการแสดงของนักแสดงจะยังไม่ค่อยสมูทลื่นไหลมากเท่าไหร่สักเท่าไหร่ก็ตาม

Upload Image...

เอาจริง ๆ เลยนะฉัอยากจะบอกว่า แค่เห็นชื่อ กู่เทียนเล่อ กับ หลิวชิงหวิน เป็น 2 นักแสดงใน Warriors of Future เรื่องนี้ ก็ร้องว้าวได้แล้วนะ เพราะนี่คือตำนานพระเอกหนังฮ่องกงเลยทีเดียว ได้ซุปตาร์ระดับนี้มาประชันบทบาทกันก็ถือว่าเรียกแขกได้เป็นอย่างดี หนังยังมี ฟิลิป เคียง  และ หลิวเจียหลิง หรือ จางเจียฮุย มาร่วมสมทบ เพิ่มความสมบูรณ์ และความน่าสนใจให้กับหนังฮ่องกงเรื่องนี้ เต็มไปด้วยนักแสดงระดับเทพมารวมตัวกันโดยแท้

แต่กระนั้น Warriors of Future Netflix นักรบแห่งอนาคต ก็ยังไม่ค่อยมีน้ำหนักที่หนักแน่นเพียงพอในด้านโครงการของเรื่องราว แม้ว่าทุกจุดจะเต็มไปด้วยสูตรสำเร็จแบบเดิม ๆ คอนเซ็ปต์ค่อนข้างดี แต่การขยายรายละเอียดและการเล่าเรื่องยังไม่สามารถทำให้รู้สึกเข้าถึงได้สักเท่าไหร่ ทั้งภารกิจและเหตุการณ์ต่าง ๆ ของหนังยังไม่มีอะไรให้น่าจดจำได้สักเท่าไหร่ ก็ออกมาเป็นหนังแอคชั่นไซไฟดูเอามันส์ ๆ เพลิน ๆ เรื่องหนึ่ง แล้วแต่มุมมองของแต่ละคนที่จะมอง

หนังแนวไซไฟที่ไม่ธรรมดา

ฉัะนจะบอก่าหนัง นักรบแห่งอนาคต Netflix มาในแนวไซไฟแอคชั่น เหล่าตัวเอกคือนักรบแห่งโลกอนาคตที่ต้องรับมือกับพืชจากต่างดาว ภารกิจล่าสุดคือบุกเข้าไปวางยาเพื่อหยุดการเจริญเติบโตของเจ้าพืชชนิดนี้ก่อนที่มันจะกลืนกินเมือง ซึ่งก็แน่นอนว่าปฏิบัติการของพวกเขาย่อมไม่ง่าย นอกจากความร้ายกาจของสัตว์ประหลาดแล้ว พวกเขายังต้องเจอกับแผนร้ายบางอย่างที่มีคนอยู่เบื้องหลังด้วย

จะว่าไปหนังก็ไม่ได้ย้ำแย่เหมือนที่บางคนบอกนะ มันก็จริงอยู่ที่มันอาจไม่ได้สดใหม่อะไร ดูแล้วนึกถึง Final Fantasy The Spirits Within บวกเข้ากับ Transformers และ Aliens มีวิ่งหนีสัตว์ประหลาด ตีกับหุ่น มีตัวละครเด็กมาเพิ่มความอ่อนโยนและเป็นโจทย์เพิ่มความลุ้น และสารพัดเหตุการณ์เสี่ยงตายประเภทตัวละครไปอยู่ในพื้นที่ที่จะหล่นแหล่ไม่หล่นแหล่ ซึ่งแม้มันจะไม่ได้เจ๋งมากมาย แต่ก็ดูได้เรื่อย ๆ ถ้ามองในแง่ของความระทึกไซไฟก็ถือว่าน่าพอใจ

งานเทคนิค CG ถือว่าโอเคตามอัตภาพ มีไม่เนียนบ้างแต่โดยรวมถือว่าทำได้ดี ที่ชอบหน่อยคือฉากซากปรักหักพังของเมืองที่ทำออกมาสมจริงดี ดูแล้วเชื่อว่าพวกตัวเองบุกไปยังพื้นที่รกร้างจริงๆ แล้วก็ชวนให้หายใจไม่ทั่วท้องเป็นพักๆ ว่าพื้นที่เหล่านั้นจะมีตัวอะไรแอบซ่อนอยู่หรือไม่ ก็ดีที่หนังไม่ได้น่าเบื่ออะไรยังคงมีความน่าค้นหาอยู่

Upload Image...

อย่างที่บอกแหละว่าพลังสำคัญที่ช่วยหนุนหนังเรื่องนี้ นักรบแห่งอนาคต สปอย ไว้ได้ก็คือดาราที่เล่นกันได้ดีตามมาตรฐาน กู่เทียนเล่อกับหลิวชิงหวินนี่หายห่วง พวกเขาถึงจุดที่สามารถเล่นได้ทุกบท และมักจะเป็นกระดูกสันหลังให้หนังแต่ละเรื่องที่พวกเขาเล่น ส่วนจางเจียฮุยก็มาแบบนิ่ง ๆ วางมาดไม่น่าไว้วางใจ อาจไม่ถึงกับเด่นแต่ก็โอเค ส่วนหลิวเจียหลิงก็ออกแนวนิ่งเหมือนกัน ถ้ามองในแง่การแสดงก็อาจดูเหมือนเธอไม่ค่อยได้ทำอะไร แต่ถ้ามองจากบทแล้วว่ามันก็ไม่แปลกที่เธอจะดูนิ่งเบอร์นั้น

แต่รายที่เพิ่มรสชาติให้กับหนังต้องยกให้ Philip Keung ชอบพี่เขานะ แล้วก็ยินดีกับพี่เขาด้วย จำพี่เขาได้จากบทม่งติ้งกั๊วะ แห่ง เปาบุ้นจิ้น ขุนศึกตระกูลหยางทั้ง 2 ภาค นับไปนับมาก็ 28 ปีเข้าไปแล้ว สมัยก่อนพี่เขาออกแนวบทสมทบเล็ก ๆ แต่มาระยะหลังนี่บทที่พี่เขาได้เริ่มเด่นขึ้น แม้จะออกแนวสบทบอยู่แต่ก็มีบทมากขึ้น แล้วพี่เขาเล่นดีด้วยเลยเป็นที่จดจำ ถือว่าพี่เขามาได้ไกลอยู่ และกับเรื่องนี้ลีลากวนบาทาของเขาก็เพิ่มความเพลินให้หนังได้พอตัว

รีวิวWarriors of Future ภาพยนตร์ไซไฟคืออะไร

เพื่อมีคนอาจจะภาพยนตร์ Warriors of Future สปอย ไซไฟคืออะไร ไม่ต้องกังวลเพราะว่าเราจะเป็นคนบอกท่านเอง คือ ภาพยนตร์บันเทิงคดีวิทยาศาสตร์หรือภาพยนตร์ไซไฟ เป็นแนวภาพยนตร์อย่างหนึ่งซึ่งเป็นบันเทิงคดีวิทยาศาสตร์ กล่าวคือมีการอาศัยอุปกรณ์หรือปรากฏการณ์หรือฉากหลังที่เป็นการจินตนาการขึ้น

โดยอิงวิทยาศาสตร์ที่ยังไม่ใช่วิทยาศาสตร์โดยทางการปัจจุบัน เช่น สิ่งมีชีวิตนอกโลก โลกต่างดาว ประสาทสัมผัสพิเศษ และการเดินทางข้ามเวลา เป็นต้น รวมถึงสิ่งที่เป็นอนาคต เช่น ยานอวกาศ หุ่นยนต์ ไซบอร์ก การเดินทางระหว่างดวงดาว หรือเทคโนโลยีอื่นๆ บ่อยครั้งภาพยนตร์ไซไฟถูกใช้เพื่อขับเน้นประเด็นทางสังคมหรือการเมือง หรือเพื่อสำรวจประเด็นทางปรัชญา เช่น ความเป็นมนุษย์

แนวภาพยนตร์เช่นนี้มีอยู่ตั้งแต่สมัยภาพยนตร์เงียบ ตั้งแต่การใช้เทคนิกภาพพิเศษโดยจอร์จ เมลีแยร์ ใน A Trip to the Moon ในปี 1902 ต่อมาจนถึง Metropolis ในปี 1927 ซึ่งเป็นภาพยนตร์ไซไฟขนาดยาวเรื่องแรก ในช่วงคริสตทศวรรษ 1930-1950 ภาพยนตร์ไซไฟยังถูกมองว่าเป็นภาพยนตร์ทุนต่ำแบบเกรดบี

จนกระทั่งสแตนลีย์ คูบริก ทำ 2001 A Space Odyssey ในปี 1968 ออกฉาย ภาพยนตร์แนวนี้จึงได้รับการยอมรับอย่างจริงจังมากขึ้น ตั้งแต่ปลายคริสตทศวรรษ 1970 หลังจากความสำเร็จของ Star Wars ภาพยนตร์ไซไฟทุนสร้างสูงที่มีเทคนิกพิเศษน่าตื่นตาก็ได้รับความนิยมอย่างมากจนมาถึงปัจจุบัน

Upload Image...

ถ้าให้อธิบายแบบเข้าใจแจ๋มแจ้งเลยก็คือ ไซ ไฟ หรือ บันเทิงคดีแนววิทยาศาสตร์  หรือภาษาอังกฤษว่า Science fiction หรือย่อ ๆ Sci-Fi นั่นเองโดยภาพกว้าง ๆ ก็คือ เรื่อง Warriors of Future หนัง ที่จินตนาการขึ้นมาไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบสื่อใดๆก็ตาม จะเป็น นวนิยาย ภาพยนตร์ การ์ตูน หรือสื่อบันเทิงอื่น ๆ ฯลฯ

โดยเน้นการนำเสนอมุมมองเกี่ยวกับ วิทยาศาสตร์ วิทยาการ หรือเทคโนโลยีก้าวล้ำ อันส่งผลกระทบต่อบุคคลหรือต่อสังคมโลก หลักเกณฑ์ที่จะพิจารณาว่า สื่อบันเทิงนั้นๆ มีความเป็นไซ-ไฟ หรือไม่ โดยกว้างๆแล้วถ้าหากมีส่วนผสมขององค์ประกอบเชิงวิทยาศาสตร์หรือเทคโนโลยี อย่างใดอย่างหนึ่งใน 4 หัวข้อล่างนี้แล้ว ก็พอจะจัดได้เป็น ไซ ไฟ แต่จะเป็นไซ-ไฟเข้มข้น หรืออย่างอ่อนๆ ก็เป็นอีกกรณี

1. วิทยาการ เทคโนโลยีสุดล้ำ

ได้แก่การมีสิ่งประดิษฐ์หรือ อุปกรณ์เทคโนโลยี-นวัตกรรมล้ำสมัย อาทิระบบคอมพิวเตอร์ และ หุ่นยนต์ และ อาวุธยุทโธปกรณ์ ฯลฯ หรือองค์ความรู้วิทยาการล้ำยุคอย่างนาโนเทคโนโลยี พันธุวิศวกรรม การโคลนิ่ง ปัญญาประดิษฐ A I เป็นต้น

2. สิ่งมีชีวิตพิเศษเหนือธรรมดาหรือลี้ลับ

อาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตประหลาดนอกโลก อาทิ มนุษย์ต่างดาว สัตว์ประหลาดต่างดาวหรือสิ่งมีชีวิตพิเศษที่เกิดขึ้นภายในโลกเอง ซึ่งมักเกิดจากการทดลองทางวิทยาศาสตร์ หรือการกลายพันธุ์วิวัฒนาการตามธรรมชาติ อันอาจมีพลังอิทธิฤทธิ์พิเศษ หรือแม้ทำนองเป็นสิ่งมีชีวิตลี้ลับมองไม่เห็นตัวตนแต่เป็นรูปแบบพลังงาน หรือวิญญาณ ไปจนถึงกรณีของ พระเจ้า!

3. การเดินทางท่องอวกาศ-ท่องกาลเวลา

การเดินทางออกนอกโลกเพื่อปฏิบัติภารกิจบางอย่าง หรือการสำรวจอวกาศยังต่างดาวอื่นๆหรือแม้กระทั้งการเดินทางผ่านกาลเวลาแบบ ย้อนอดีต ท่องอนาคต หรือมิติคู่ขนาน

4. ระบบสังคมและสิ่งแวดล้อมใหม่แห่งโลกอนาคต

ผลกระทบจากวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่อวิถีผู้คนในสังคมหรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเชิงสิ่งแวดล้อมหรือภัยธรรมชาติ ระบบเศรษฐกิจ ระบบการเมือง หรือแม้แต่ประเด็นทางศาสนา และ ลัทธิความเชื่อ ฯลฯ ซึ่งอาจเป็นโลกใหม่อันศิวิไลซ์สวยงาม หรือ โลกหม่นหมอง สังคมอันเลวร้ายจากสงคราม โรคภัย ก็สุดแท้แต่

ประเภทของ Sci-Fi

ถ้าหากจะแบ่งประเภทของไซ ไฟต่างๆแล้ว ในเชิงวิชาการย่อมมีวิธีแบ่งกันได้หลากหลายหมวดหมู่ ก็แล้วแต่ว่าจะใช้เกณฑ์อะไรในการแบ่ง แต่ในที่นี้จะสรุปแบบรวบรัดเข้าใจง่ายที่สุด ขอจัดเป็น 3 ประเภทกว้างๆ โดยพิจารณาจาก กรณีความเข้มข้นของการคำนึงหรือการอ้างอิงหลักความเป็นจริงเชิงวิทยาศาสตร์ ในเรื่องราวของสื่อไซ ไฟนั้นๆมาเป็นเกณฑ์ในการแบ่ง ดังนี้

1. Hard Sci-Fi หรือ ไซ ไฟหนักๆ

ซึ่งHard Sci-Fi เป็น Sci-Fi ที่มีองค์ประกอบรวมทั้งบรรยากาศต่างๆ ออกมาค่อนข้างสมจริงสมเหตุสมผล ให้ความสำคัญกับการอ้างอิงในหลักการหรือทฤษฎีเชิงวิทยาศาสตร์ตามความเป็นจริงค่อนข้างเคร่งครัดมากเป็นพิเศษ เทคโนโลยีหรือสิ่งประดิษฐ์ต่างๆที่ประกอบในเรื่องจึงน่าเชื่อถือ ทั้งมีแนวโน้มสามารถเป็นไปได้จริงสูง อาทิ เครื่องมือ อุปกรณ์ ยานอวกาศ ยานพาหนะต่างๆ ฯลฯ แต่กระนั้นต้องไม่ลืมว่า สมจริงยังไงก็ยังเพียงเรื่องที่จินตนาการแต่งขึ้นอยู่นั่นเอง

โดยมากอาจไม่เน้นการบู๊แอคชั่นมากนัก มักจะออกแนวดราม่ามากกว่า ทั้งอาจไม่มีนวัตกรรมล้ำหลุดโลกรูปแบบแฟนตาซีตื่นตาตื่นใจ หรือกระทั่งอาจจะไม่มีการปรากฏตัวของมนุษย์ต่างดาว สิ่งมีชีวิตสัตว์ประหลาดใดๆเลย แต่จะไปเน้นที่การนำเสนอแนวคิค การตั้งข้อสังเกต หรือการสะท้อนนัยยะหนัก ๆ อันเป็นการกระตุ้นความคิดให้ผู้เสพได้ไปจินตนาการต่อเอง ทั้งบางเรื่องอาจมีการนำเสนอที่ออกมาดูล้ำลึกจนเข้าใจยาก เลยเรียกอีกอย่างว่าเป็น ไซ-ไฟ ปรัชญา ตัวอย่างภาพยนตร์ไซ ไฟ จึงอาจเป็นยาขมสำหรับคนทั่วไป แต่เป็นที่ถูกอกถูกใจต่อกลุ่มคนรักแนวไซ-ไฟ จริงๆ

2. Soft Sci-Fi หรือ ไซ ไฟกลางๆ กึ่งๆแฟนตาซี

ประเภทนี้จินตนาการอาจมีความเป็นไปได้จริงเชิงทฤษฎีวิทยาศาสตร์อยู่พอควร แต่ก็มีความเป็นแฟนตาซีมากขึ้นกว่า Hard Sci Fi ไปอีกระดับSoft Sci Fiจึงมีความยืดหยุ่นของบรรยากาศ เนื้อเรื่อง และตัวละคร สามารถใส่ลูกเล่นจินตนาการเพ้อฝันได้มากยิ่งขึ้นด้วย โดยไม่ต้องคำนึงถึงหลักความเป็นจริงอย่างเคร่งครัดเกินไป ตัวอย่างภาพยนตร์ อาทิ Star Gate และ Star Trek และ Blade Runner และ Gattaca และ  Alien และ The Matrix และ Inception, Prometheus เป็นต้น ซึ่งมักจะต้องมีฉากแอคชั่น ผจญภัย หรือการปรากฏตัวของมนุษย์ต่างดาว

ซึ่งในสิ่งมีชีวิตประหลาด กระทั้งเทคโนโลยีรูปแบบหลุดโลกประกอบด้วยบ้างในระดับหนึ่ง อันเป็นสีสันดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี จึงเป็นธรรมดาที่ Soft Sci-Fiค่อนข้างเป็นที่นิยมกว่า Hard Sci-Fi ด้วยมีความสนุกสนานมากกว่า และเข้าใจง่ายกว่านั่นเอง ทั้งบางเรื่องก็ยังคงมีแฝงความลุ่มลึก ให้แง่คิดหนักๆ มีความเป็น ไซ-ไฟปรัชญา อยู่บ้างด้วยเช่นกัน

3. Sci-Fi Fantasy หรือ ไซ-ไฟเพ้อฝันเต็มขั้น

ไซ-ไฟแฟนตาซี เป็นไซ-ไฟที่ไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงความถูกต้อง หรือต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นไปได้จริงตามหลักการทางวิทยาศาสตร์มากนัก หรือแทบไม่ต้องคำนึงถึงเลยก็ได้ เรียกว่ามโนกันไปได้เต็มที่ แต่กระนั้นถึงเรียกว่าเพ้อฝัน ในความเป็นไซ ไฟ ก็ย่อมมีความสมเหตุสมผลในบริบทของเรื่องหรือกฏเกณฑ์ที่อุปโลกน์ขึ้นมาในท้องเรื่องอยู่นั่นเอง ไม่งั้นก็จะหลุดไปเป็นเประเภทแฟนตาซี เชิงเทพนิยายเวนมนตร์คาถาไป

และก็ไม่ได้หมายความว่าแค่เพ้อฝัน มิอาจเป็นไปได้จริงเลยซะทีเดียว เพราะวิสัยทัศน์ไอเดียหลายๆอย่างในไซ ไฟแฟนตาซี ก็แปลกใหม่ให้แรงบันดาลใจต่อวิทยาศาสตร์ ส่งผลเป็นเทคโนโลยีนวัตกรรมในโลกความเป็นจริงในเวลาต่อมาได้มากมาย ไม่แพ้ Hard Sci-Fi หรือSoft Sci-Fi

แต่ด้วยความเป็น ไซ ไฟแฟนตาซี จึงไปเน้นที่การสร้างเรื่องให้สนุกสนานชวนติดตาม ตัวละครมีเอกลักษณ์โดดเด่น ทั้งเน้นฉากบู๊แอคชั่นผจญภัยอลังการเป็นหลักมากกว่า โดยใช้องค์ประกอบ-บรรยากาศของความเป็นวิทยาศาสตร์เป็นเพียงส่วนส่งเสริม ให้มีความโดดเด่นน่าสนใจยิ่งขึ้นเท่านั้น

ภาพยนตร์ Warriors of Future นักแสดง และสื่อบันเทิงไซ-ไฟส่วนใหญ่จึงมักเป็นประเภท Sci-Fi Fantasy ด้วยมีโอกาสประสบผลสำเร็จในเชิงพาณิชย์มากกว่านั่นเอง อาทิ ภาพยนตร์ดังเป็นที่นิยมทั่วโลก Star Wars, Back to the future และ Terminator และ Pacific Rim และ Godzilla หรือ ภาพยนตร์แนวซุปเปอร์ฮีโร่อย่าง X-Men และ Ironman,Batman และ Superman และ The Avengers ฯลฯ และรวมถึงเรื่องนี้ด้วย

หนังเรื่องนี้สนุกหรือไม่

มาถึงแม้ว่าการดูแลและควบคุมหนังเรื่องนี้ นักรบแห่งอนาคต เน็ตฟิก จะมีประสบการณ์การทำงานมาหลายด้านนับไม่ถ้วน ที่ประสบความสำเร็จมากมายนั้นเอง แต่เมื่อต้องมาหยิบจับสร้างหนังขนาดมหึมาขนาดนี้ ดูเหมือนว่าจะมีอัตราที่ใหญ่เกินตัวเขาไปสักหน่อย แม้ว่าหนังจะวางแนวคิดและสตอรี่มาค่อนข้างดี แต่กลับน่าเสียดายที่หลายส่วนประกอบในหนังดีไม่ตรงกับแบบแผนสักเท่าไร มีความไซไฟที่พยายามเดินรอยตามฝั่งฮอลลิวูด แต่ก็ยังทำออกมาได้ค่อนข้างห่างชั้นอยู่พอประมาณ

ในส่วนด้านงานโปรดักชั่นของ Warriors of Future ถือว่าไม่เลวเลย แต่ก็ยังไม่ใช่งานสร้างที่สมบูรณ์แบบอะไรขนาดนั้น แอบเสียดายที่หนังไม่สามารถคุมโทนความเป็นไซไฟได้อย่างหมด ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบรรยากาศล้ำ ๆ แห่งโลกอนาคตในหนังที่ยังพบรอยต่อให้เห็นบ่อย ๆ

ในส่วนฉากบู๊และฉากไซไฟยังวกไปวนมาอยู่ในขอบเขตออกซะเยอะไปหน่อย และไม่ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมได้มากเท่าไหร่ เพราะล้วนแต่เป็นสิ่งที่เคยเห็นมาแล้ว ใครที่ชอบดูหนังแนวไซไฟโลกอนาคตบอกได้เลยว่าเรื่องนี้ตอบโจทย์แน่นอน

Upload Image...

อย่า ๆ พึ่งคิดว่าเรื่องนี้ นักรบแห่งอนาคต พากย์ไทย มีจุดที่น่าสนใจแค่นี้ ยังมีอีก ถึงแม้หนังจะมีจุดที่ไม่ลงตัวสักเท่าไรแต่ก็มีจุดเด่นที่หนังเรื่องนี้ทำได้ดีก็คืองานออกแบบสัตว์ประหลาด ที่ถือว่าเป็นการงัดสกิลดีเด่นของผู้สร้างมาใช้ได้อย่างเป็นประโยชน์ สิ่งมีชีวิตประหลาด ๆ ที่หนังได้ใส่เข้ามานั้น มาพร้อมกับงานสร้างที่ค่อนข้างเนียนทุกจุดและบับอารมณ์คนดูได้เลย ถึงแม้ว่าเมื่อนำเอาองค์ประกอบซีจีกับมาผูกเข้ากับฉากการแสดงของนักแสดงจะยังไม่ค่อยสมูทสักเท่าไหร่

เอาเป็นว่าหนังเรื่องนี้ Warriors of Future ยังไม่ใช่หนังไซไฟสมบูรณ์แบบสักเท่าไร แต่ก็ยังดีที่ได้ Actor มากฝีมือหลายคน มารับบทและทำให้ตัวหนังน่าดูยิ่งขึ้น ประเด็นของหนังอาจจะน่าสนใจ แต่ยังนำเสนอไปในรูปแบบสูตรสำเร็จที่ยังไม่น่าดึงดูดใจเท่าที่ควร หนังยังค่อนข้างขาดองค์ประกอบบางส่วนไป แต่ก็จัดว่าเป็นที่เปิดดูได้เรื่อย ๆ แต่ยังไม่มีอะไรให้น่าจดใจแบบที่คิดจะกลับมาเปิดดูซ้ำอีก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *