รีวิว Star Wars: The Rise of Skywalker นั้นถือว่าเป็นหนังที่มีฐานแฟนคลับทั่วโลกเยอะมากๆ รวมถึงในประเทศไทยและโดยเฉพาะอเมริกาที่ต้องบอกว่าเป็นฐานที่ใหญ่ที่สุดของเค้าเลย และมีคนดูเยอะมากๆ ทำรายได้ที่นั้นได้เยอะมากเป็นอันดับ 1 ของโลกในหลายๆภาคครับ และในครั้งนี้จะเป็นการปิด ไตรภาค ที่เริ่มโดยภาค 7 ที่ทาง  ‎J. J. Abrams‎  กำกับ และ ต่อเนื่องมาจนถึงภาค 9 คือภาคล่าสุดที่อยู่ในโรงตอนนี้นั้นเอง ซึ่งต้องบอกก่อนตั้งแต่ ภาค ล่าสุด มาถึงภาค 7 นั้นห่างหายไปนานมาก และเป็นการกลับมาที่หลายๆคนรอคอยและได้เสียงตอบรับดีมากจริงๆ และ กำกับโดยทาง  ‎J. J. Abrams‎  นั้นเอง แต่พอมาภาคต่อที่ 8 The Last Jedi นั้นได้มีการเปลี่ยน ผู้กำกับมาเป็นทาง Rian Johnson

ซึ่งก็มีเสียงตอบรับแปลกๆด้านแฟนคลับพอสมควรเพราะ ฉีกจาก 7 และ แนวทางของ Star Wars อย่างมากจริงๆ และมีหลายๆคนนั้นไม่ชอบ และพวกนี้มันจึงส่งผลมาถึงตัว Star Wars 9 ที่ทาง  ‎J. J. Abrams‎  กลับมากำกับและเป็นเหมือนการมาสานต่อภาค 8 หรือ หาทางลงให้กับหนังว่าจะเอาแนวไหนยังไง และ มันกลายเป็นการ Play Safe สุดๆของหนังภาคต่อครั้งนี้ และอาจจะทำให้ทาง Disney พยายามเน้นเอาปลอดภัย เอาใจแฟนๆ จนบางทีมันทำให้อะไรหลายๆอย่างพัง และ มีหลายๆจุดที่น่าเสียดายมากจริงๆ ต้องบอกก่อนว่าโดนส่วนตัวนั้นติดตามมาตลอดครับ แต่ภาคนี้โดยรวมนั้น น่าเสียดายและน่าผิดหวังในการเล่าเรื่อง และการปิดไตรภาค ของชุดนี้จริงๆ ดูหนัง

เนื้อเรื่องของเรื่องนี้นั้นก็ยังคงวนเวียนอยู่กับทาง เรย์ และ ไคโร เร็น ครับ จะเน้นหนักกว่าเดิมไปอีกแต่นี้ขนาดเน้นหนักแล้วมันยังทำได้น่าผิดหวังอย่างมาก เนื้อเรื่องในภาคนี้มันกลับไปเฉยแบบสุดๆและเหมือนไม่พยายามฉีกแนวจนมันเหมือนการฉายซ้ำๆไปเปลี่ยนตัวละคร ซึ่งจริงๆในภาค 8 นั้นถือว่าดีมากๆที่กล้าฉีกแนวไปซะที แม้ว่าจะจบแบบไม่สนใจอะไรเกินไปหน่อยก็ตาม แต่พอมาอันนี้มันกลับมาวนเวียนแต่เรื่องราวเดิมๆครับแน่นอนว่ามันเหมือนเป็นปัญหาหนักจริงๆที่จะทำยังไงใหมันต่อกับ 8 ก็แอบเห็นใจพอสมควร แต่พอมาดูหนังมันกลับใช้เวลา 2 ชั่วโมงไปกับอะไรก็ไม่รู้ ที่ไม่มีความสมเหตุสมผล และบางอันก็ใช้เวลาเกินจำเป็นรวมถึงปมอะไรต่างๆ แม้จะได้เฉลยแต่ก็ไม่ได้มีการพัฒนาอะไรเลย รวมถึงฉากหลายๆอันยัดๆแปะๆเข้ามา เอาใจแฟนๆจนหนังไม่มีความต่อเนื่องหรือเข้ากันได้เท่าไรและแน่นอนว่าเหมือนกับหาทางลงยาก เลยเอาใจแฟนมันไปเลยเต็มที่อะไรอยากเห็นใส่เข้ามาจนมันเกิดเป็นอะไรแบบนี้ครับ หนังเลยไม่ได้มีความเป็นหนังเลยแต่ก็ยังดีว่าจบได้ดีอยู่บ้างในช่วงหลังๆแต่ช่วงต้นยันมาท้ายเรื่องนั้นน่าผิดหวังมากๆ

หนังไม่มีเวลาเลยสำหรับตัวละครแต่ละตัว หนังรีบรัดเกินไปหมด ไม่ทันจะเข้าใจหรือเล่าเรื่องหรืออินก็เปลี่ยนแล้ว เพราะต้องใส่ฉากเอาใจแฟนๆเข้ามานู้นนี้ครับ เท่าที่ดูและรู้สึกแบบนี้จริงๆ แต่ขอไม่โทษ ผกก JJ คนเดียว ครับมันมีผลหลายๆอย่าง ทั้งตัวค่าย Disney เอง การดำเนินเรื่องของภาคที่แล้ว การสานต่อ การคิดภาคจบ มันมีผลกันทั้งหมด ไม่มีใครผิดแบบเต็มๆเพราะมันเหมือนเอาหนังคนละเรื่องมาสานต่อเอาหนังที่ร้าวแตกไปอีกแนวเอามาต่ออีกแนวยังไงก็ไม่ไหลลื่น และความกลัวของค่ายที่ไม่กล้าฉีกแบบเดิมก็ส่งผลทำให้มันออกมาแบบนี้ครับ รีวิวหนัง

นักแสดงในเรื่องนี้อาจจะพูดถึงการแสดงอะไรได้ไม่เยอะเ พราะหนังมันไวและไม่ได้ส่งให้นักแสดง ได้แสดงได้เต็มที่เท่าไรครับ และตัวละครนั้นเยอะมากๆและเหมือนจะจัดการได้ไม่ดีเท่าที่ควรเลยทำให้นักแสดงเกือบทุกคนไม่ได้แสดงออกมาได้เต็มที่หรือให้เราได้อินไปกับบทนั้นเท่าไรครับ ส่วนตัวนักแสดงหลักๆนั้นที่จะเน้นๆคงจะเป็น ทางของ เรย์ ( เดซี่ ริดลีย์ ) และ ไคโร เร็น ( อดัม ไดรเวอร์ ) ซึ่งแน่นอนว่าบทนั้นจะส่งให้นักแสดงมากกว่าคนอื่นๆแต่ก็ยังถือว่าน้อยและไม่ได้เน้นเท่าที่หวังไว้ มันแลดูบางเบาอ่อนไปมากๆ 

และการที่นักแสดงเข้ามาเยอะๆแต่จัดการไม่ดีเลยทำให้มันเบาบาง ปลิวๆไปไม่มีน้ำหนักจริงๆ และรวมถึงมิติ ของตัวร้ายที่ไม่ดีเท่าที่ควร และ ไม่น่าจะเป็นแบบนี้ ไม่มีน้ำหนักอะไรเลย และไม่น่าเล่นกับตัวละครนี้มากเท่าไร และการเล่าเรื่อง เหตุผลอะไรของมันนั้นไม่ค่อยมีน้ำหนักจริงๆ จนบางทีอาจจะไม่ต้องใส่ตัวนี้มาก็ได้ไม่ได้มีพลังการแสดงเท่าที่ควรครับ และไม่มีฉากให้จดจำหรือมีอิมแพ็คอะไรเลยหลังจากดูหนังจบแล้วมันแบบว่างเปล่า จบแล้วก็จบไป ไม่มีตัวละครเด่นๆที่ควรค่าแก่การจดจำเลยจริงๆครับ

รีวิว Star Wars: The Rise of Skywalker มีดีตรงไหนบ้าง

งานภาพ เรื่องนี้นั้นต้องบอกว่ายังคงเอกลักษณ์ของตระกูลหนังนี้ได้อยู่แน่นอนแหละทาง JJ เค้าเป็นสาวกตัวจริงงานภาพอะไรนั้นไม่มีปัญหาเลยทั้งการเข้าฉาก การถ่ายมุมมองอะไรนั้นมันคือ StarWars เลยจริงๆ ส่วนงานโทนสีอะไรสวยงามเหมือนเดิม และยังคงมีแสงแฟลชอยู่บ้างตามสไตล์พี่เค้า แต่ไม่ได้เยอะเกินจำเป็นแบบเรื่องก่อนๆแล้ว งาน CG นั้นเนียนสมจริงครับ และมิติของภาพนั้นทำได้ดี ทางผมนั้นได้ดูในแบบ IMAX 3D เรื่องของมิติภาพนั้นสวย เน้นความลึกของภาพมากกว่า แต่ไม่มีฉากแบบพุ่งๆ ทะลุจอ หรือ จะเป็นฉากขยายของหนังเลยในโรง IMAX แอบเสียดายนิดหน่อยครับ 

ในด้านของเพลงประกอบนั้นยังคงทำได้ดีจากทาง  john williams  ที่ทรงพลังและคุ้นเคยกันดีครับเป็นการพัฒนาเสียงให้มันทรงพลังและอิงตามฉากแต่ละฉากของหนังได้ดี แม้จะเป็นซาวด์ที่เราคุ้นเคยกันแต่มีการปรับเปลี่ยนพอสมควรครับ แน่นอนว่ามันส่งผลต่ออารมณ์ของหนังได้ดีและลุ้นไปกับฉากนั้นๆได้ครับ งานภาพและเสียงเรื่องนี้เลยไม่ได้มีจุดให้ติอะไรและยังคงประทับใจได้เสมอครับ

ถ้าในแง่ของความสนุกดูแบบไม่สนใจอะไรมากนัก ความสนุก ตื่นเต้น ว้าวๆ เอาใจคนดู Entertain ของมันแน่นอนว่าดีกว่า ภาค 8 ครับแต่เรื่องของความลงตัวความกล้าฉีกอะไร และแปลกใหม่ของ 8 ยังคงทำได้ดีกว่าสำหรับตัวผมนะ ภาคนี้มันไม่ได้แย่ถ้าคนชอบดูหนัง บันเทิง อะไรทั่วไป แต่พอมันมาเป็นหนัง STARWARS มันกลับทำได้ผิดหวังและไม่ควรใช้ชื่อนี้ในหลายๆอย่าง ความสมเหตุผมของตัวละครและอีกมากมาย แน่นอนแหละว่าเอาใจแฟนๆได้แต่มันกลับกลายเป็นไม่ใช่หนังที่ดีเลยแม้แต่น้อย กลายเป็นหนังบันเทิง อวกาศที่เล่าเรื่องเร่งๆแต่ก็มีการแทรกแอคชั่น อะไรมาเอาใจ และปิดด้วยที่หลายๆคนน่าจะเดากันได้ มันเลยธรรมดาเกินไปจริงๆและแฟนๆหลายคนอาจจะผิดหวังครับ. ดูหนังออนไลน์ 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *