รีวิวทิดน้อย หนังที่ได้ชุปตาร์อันดับ 1 ในประเทศไทย อย่างอั้มพัชราภา และพระเอกมือหนึ่งสุดหล่ออย่างอนันดา เอเวอริงแฮม และตลกแนวหน้าของไทยอย่างเท่ง เถิดเทิง ได้มาแสดงเรื่องราวความรักสามเศร้าให้เราได้รับชมในเรื่องนี้ เรามาดูกันว่าเรื่องราวจะดราม่าและตลกฮาท้องแข็งมากแค่ไหน ไปลุ้นกัน สามารถเข้ารับชมหนังฟรีได้เลยที่ ดูหนังออนไลน์
รีวิวทิดน้อย หนังไทย เรื่องราวความรัก โรแมนติก สามเศร้า ที่ออกแนวตลกฮา
รีวิวทิดน้อย ผู้กำกับของเรื่องนี้คือใคร
แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ต่อมาส้มเช้งน้องสาวได้ช่วยไปขอเบอร์โทรกับตลกที่ชื่อว่าบังแหลก บังแหลกได้ฝากให้เท่งได้เข้าร่วมกับคณะตลกมะกอกสามตะกร้า ของเบญโล โดยเท่งทำงานอยู่หลายตำแหน่งตั้งแต่เด็กขนอุปกรณ์ มือกลอง
ซึ่งเรื่องนี้ ทิดน้อย ผู้กำกับ ได้ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ ในฐานะผู้กำกับเคยผ่านงานมาแล้วทั้ง เท่ง โหน่ง คนมาหาเฮีย เท่ง โหน่ง จีวรบิน และแคท อ่ะ แว่บ ที่ล้วนประสบความสำเร็จด้านรายได้เป็นอย่างดี
อละฉันขอพูดถึงความสามารถของเขา เกิดเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2509 ที่ตรอกหางคลอง ถนนหลวงพ่อโตอำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย มีบิดาชื่อดิเรก พงษ์สุวรรณ มารดาชื่อรำภา แพรบุตรเป็นลูกคนที่ 3
จากพี่น้องทั้งหมด 6 คน มีพี่ชาย 2 คน และน้องสาว 3 คน โดยน้องสาวคนแรกคือ ส้มเช้ง สามช่า ครอบครัวมีฐานะยากจน เท่งจบการศึกษาประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนเทศบาลสวรรคโลก แล้วออกมาฝึกลิเกกับคณะของญาติ
โดยเริ่มที่บทพระเอกแต่ต่อมาผันมาแสดงเป็นบทตลกซึ่งเหมาะกับตนเองมากกว่า โดยใช้ชื่อทางการแสดงว่าพงษ์ เม็ดพริกต่อมาได้ออกมาถีบสามล้อรับจ้างอยู่พักหนึ่งจึงกลับมาเล่นลิเกอีกครั้ง อย่าลืมไปติดตามการรีวิวของเราได้ รีวิวหนังทั้งหมด ครบจบที่เดียว รีวิวหนังครบทุกแนว
เท่งเล่นลิเกอยู่หลายปีจึงเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ทำงานตั้งแต่ล้างจานได้รายได้วันละ 50 บาท เก็บตั๋วตามงานวัดหรือสวนสนุก ขายเสื้อผ้า ขายก๋วยเตี๋ยว ทำอยู่แบบนั้นเกือบ 3 ปีเต็ม แล้วก็มาเล่นลิเกในกรุงเทพนาน 5 ปี ก่อนจะมาตั้งคณะตลกร่วมกับพี่ชายกร
จนในที่สุดก็ได้เล่นเป็นตลกประจำคณะ บังแหลกได้ตั้งชื่อให้ใหม่ว่าตู้ โดยมาจากการเล่นตลกที่พริ้ว เหมือนกับ ตู้ ดิเรก เท่งอยู่คณะมะกอกสามตะกร้าได้ระยะหนึ่ง ก็ย้ายไปคณะสีแดงและเพื่อน, คณะยอดธง เทียนชัย คณะชูศรี เชิญยิ้ม ตามลำดับ ในชื่อ ตู้ เชิญยิ้ม โดยนำชื่อมาจาก ตู้ ดิเรก อมาตยกุล ที่กำลังมาแรงในขณะนั้นโดยบังแหลกเป็นผู้ตั้งให้
ต่อมาก็ออกมารวมตัวกับเพื่อนตั้งคณะใหม่ชื่อ เพื่อนอิสระ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่ง หม่ำ จ๊กมก ชักชวนไปร่วมคณะด้วย จึงทำให้เท่งได้มาเล่นตลกในคณะหม่ำ จ๊กมก ก่อนจะได้มีโอกาสได้เข้าไปอยู่บริษัทเวิร์คพอยท์ฯ ของ ปัญญา นิรันดร์กุล
ทิดน้อย เต็มเรื่อง ในรายการแรก คือ รายการฮากลางแดด ก่อนที่เท่ง จะได้รับบทบาทให้มาร่วมแสดงรายการ ระเบิดเถิดเทิง ปัญญา นิรันดร์กุลเปลี่ยนชื่อให้ใหม่เป็น เท่ง เถิดเทิง ซึ่งเป็นชื่อที่คนทั่วไปรู้จัก โดยรับบทเป็น เท่ง นักเลงประจำซอย
ซึ่งเป็นคาแรกเตอร์ที่เป็นที่จดจำได้อย่างดีของผู้ชม นอกจากนี้ เท่งก็ยังได้รับบทเป็นตลกลูกคู่ของหม่ำ จ๊กมก ในรายการ ชิงร้อยชิงล้าน Super Game ก่อนที่ต่อมาจะกลายมาเป็น แก๊งสามช่า ในที่สุด ถือเป็นหนึ่งในสองสมาชิกรุ่นก่อตั้งของแก๊งสามช่าและยังเล่นภาพยนตร์ไทยอีกหลายเรื่อง
และในอีกชื่ออย่าง เท่ง เถิดเทิง ก็คือนักแสงตลกที่สามารถข้ามความสำเร็จจากวงการทีวีสู่วงการภาพยนตร์ได้อย่างสวยงามทั้งงานสร้างชื่ออย่าง มือปืนและโลกและพระและจันทร์ จนถึง หลวงพี่เท่งที่สามารถสร้างรายได้ระดับปรากฎการณ์ได้ทั้งคู่
และหลังจากทิ้งทวนงานกำกับไป 8 ปี พี่เท่ง เถิดเทิงก็กลับมาอีกครั้งกับงานกำกับครั้งใหม่อย่างทิดน้อยหนังที่ขอหยิบตำนานแม่นาคพระโขนงมาเล่าใหม่ในมุมมองของคนแอบรักอย่างตัวละครทิดน้อยที่ถูกมอบหน้าที่ คนตาบอดเพราะความรัก เรียกได้ว่านี่จะเป็นงานหนัง ทิดน้อย ตลกปนโรแมนติกเรื่องแรกในพอร์ตโฟลิโองานกำกับของเขา
เรื่องย่อของเรื่องนี้
ฉันต่อที่เรื่องราวของเรื่องนี้เลย กลัวคนอ่านจะรู้สึกเบื่อหน่าย ซึ่งเรื่องราวของเรื่องนี้เริ่มที่ ณ ทุ่งพระโขนง สาวงามอย่าง นาค พัชราภา ไชยเชื้อ เป็นที่หมายปองของหนุ่ม ๆ มากมายรวมถึง มาก อนันดา เอเวอริงแฮม หนุ่มหล่อบึกบึนแห่งทุ่งพระโขนง
และ ทิดน้อย เท่ง เถิดเทิง ชายหนุ่มที่มีตาไว้มองเพียงแต่นาคผู้เดียว และเป็น มาก ที่ได้ใจนาคไปครอบครองแต่หลังจากเขาถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร
ทางทิดน้อยเลยต้องรับหน้าที่คอยดูแลนาคที่กำลังท้องแก่ และในช่วงเวลานี้ที่จะพิสูจน์ใจว่าระหว่างรักแท้ของมาก กับ รักแท้แท้ของทิดน้อย ใครจะได้ครอบครองหัวใจของนาคกันแน่
หลังจากดูหนังแล้วคงไม่ผิดนักหากจะบอกว่าบทหนังของ ทิดน้อย เรื่องย่อ ดูจะเป็นการต่อยอดจากละครสามช่าไม่ต่างจากงานชิ้นก่อน ๆ ทั้งการนำตำนานที่คนรู้จักอยู่แล้วมาผูกเรื่องเข้าไปแบบหลวม ๆ และมีซีนทีเล่นทีจริงที่หลายคนคิดถึงจากรายการชิงร้อยชิงล้าน
พอคนดูไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องราวอะไรมากนักก็เป็นโอกาสของพี่เท่งเขาล่ะที่จะใส่มุกเข้ามาไม่ยั้ง ซึ่งพี่เท่งก็ใช้บริการจากบรรดานักแสดงตลกที่เป็นพันธมิตรกันทั้งรุ่นเก๋าอย่างพี่โหน่ง หรือ น้าถั่วแระ เชิญยิ้ม ไปจนถึงรุ่นใหม่อย่าง แจ๊ค แฟนฉัน และ รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น ที่มาสร้างสีสันให้หนังได้เป็นอย่างดี
ยัง ๆ มีความเป็นจุดเด่นที่ชวนให้เหล่าแฟน ๆ ของนักแสดงชวนน่าสนใจมากไปอีกคือ ไฮไลต์จุดขายของหนังจริง ๆ คือการเอา อนันดา เอเวอริงแฮม ที่ไม่ค่อยปรากฎตัวในหนังตลกแนว ๆ นี้มาประกบคู่กับ อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ
นางเอกซุปตาร์ที่ร้างจอไปนานกลับมารับบท แม่นาค อีกรอบหลังจากแสดงในเวอร์ชันละครไปเมื่อ 24 ปีที่แล้วก็ทำให้ทิดน้อยมีแนวทางชัดเจนว่ากลุ่มเป้าหมาย
คือบรรดาแฟนคลับอั้ม รวมถึงคนที่เคยดูหนังที่อนันดาเล่นแล้วอยากเห็นเขาเล่นบทตลกบ้างก็ทำให้หนังดูมีสิ่งที่ชวนติดตามไม่น้อยเลยทีเดียวล่ะ
เพียงแต่ งานกำกับของพี่เท่งก็ยังไม่สามารถทำให้อั้มและอนันดา เก็ตกับการเล่นมุกแบบด้นสดหรือการปล่อยจอยไหลไปกับบทแบบเดียวกับนักแสดงตลกรับเชิญมากมายบนจอได้ เลยทำให้ภาพรวมเองก็ออกมาไม่กลมกล่อมนัก
และนักแสดงหลักก็ดูจะพยายามแสดงในส่วนที่เล่าเรื่อง ทิดน้อย รายได้ แต่ด้วยงานกำกับที่ไม่ได้เน้นการคุมแอ็กติ้งก็ทำให้ภาพรวมการแสดงของทั้งคู่ออกมาดูไม่จืดจนเหมือนนักแสดงฝีมือตกอย่างเห็นได้ชัด
ส่วนนักแสดงตลกก็เอามาสร้างสีสันแบบไม่ได้มีผลกับเรื่องราวเท่าไหร่นัก มิหนำซ้ำคงต้องยอมรับล่ะว่าหากจะประเมินในฐานะหนังตลกเองก็ยังเป็นหาจังหวะที่จะทำให้คนดูขำได้ยาก
เพราะการเอาโนว์ฮาว การเล่นมุกไปเรื่อยแบบละครสั้นสามช่ามาใช้กับหนังชั่วโมงครึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาเลยกลายเป็นหนังที่ล้นไปทุกส่วนจนบาลานซ์ระหว่างความตลกกับความโรแมนติกอย่างที่มันอยากเป็นไม่ได้
นางเอกของเรื่อง
ใคร ๆ ก็คุ้นเคยกับ พัชราภา ไชยเชื้อ อยู่แล้วใช่หรือไม่ แต่ยังไงฉันขอพูดถึงความเป็นมาของชุปตาร์ผู้ที่ความสวยฆ่าไม่ตาย พัชราภา ไชยเชื่อ ชื่อเล่น อั้ม เกิดเมื่อวันอังคารที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2521 ที่โรงพยาบาลเพชรเวช กรุงเทพมหานคร
ทางพื้นเพครอบครัวเป็นชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา มีชื่อตามสูติบัตรว่า ไข่มุก ไชยเชื้อ ซึ่ง ไข่มุก มาจากลักษณะผิวพรรณที่ขาวผุดผ่อง แต่พระบอกว่า ข ไข่ไม่ดีเลยเปลี่ยนมาเป็น พัชราภา ในภายหลัง และเดิมมีชื่อเล่นว่า แนน
ทิดน้อย นางเอก และต่อมาคุณแม่ของเธอเรียกติดปากว่า อั้ม เพราะชอบทานทุกอย่างที่แม่ป้อน โดยเธอเป็นบุตรสาวคนเดียว ของ นายวรวุฒิ ไชยเชื้อ และ นางสุภาพร ไชยเชื้อ
ในส่วนของการการศึกษา อั้ม พัชราภา จบการศึกษาระดับอนุบาล จากโรงเรียนอนุบาลธนินทร ดอนเมือง กรุงเทพฯ ระดับประถมศึกษา จากโรงเรียนสตรีวรนาถ บางเขน ระดับมัธยมศึกษา จากโรงเรียนดัดดรุณี จังหวัดฉะเชิงเทรา และระดับอุดมศึกษา จากคณะนิเทศศาสตร์ สาขาประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยรังสิต เมื่อปี พ.ศ. 2543
อั้ม พัชราภา เข้าสู่วงการบันเทิงเมื่อปี พ.ศ. 2540 โดยเริ่มต้นจากการประกวด MissHack 1997 หรือที่คนทั่วไปรู้จักในนาม สาวแฮ็คส์นั่นเอง ซึ่งอั้มได้รับรางวัลชนะเลิศ และเป็นสาวแฮ็คส์คนแรก ของเวทีประกวดนี้
และอั้มอยู่ภายใต้การดูแลของชายแฮ็คส์ ซึ่งเป็นฝ่ายโปรโมชันของแฮ็คส์ในขณะนั้น ต่อมาอั้มได้เรียนแอ็คติ้งกับ ต้อย ชาติชาย แก้วสว่าง และได้แนะนำให้พาไปรู้จักกับผู้ใหญ่ที่ไฟว์สตาร์ ซึ่งตอนนั้นกำลังจะเปิดกล้องภาพยนตร์เรื่อง เสือ โจรพันธุ์เสือ
ทิดน้อย นักแสดง ชายแฮ็คส์จึงพาอั้มเข้าไปแคส แต่ว่าตอนนั้นบุคลิกของอั้มยังไม่เหมาะกับบทจึงไม่ได้โอกาส ต่อมาชัด แทนกาย ก็พาอั้มเข้าไปที่บรอดคาซท์ แต่จังหวะละครตอนนั้นยังไม่ลงตัว และต่อมาก็มาพบกับแก้ว พรีเมียร์
จากนั้นแก้วจึงแนะนำให้อั้มไปเป็นนักแสดงช่อง 7 โดยการนัดทางช่องให้ เพื่อนำอั้มไปลงเทป และส่งไปให้คุณแดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์ ดูเพื่อพิจารณา
และอั้มจึงได้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัด สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เอาแค่คร่าว ๆ ก่อนนะเพราะเยอะมากกกก แต่ก็ถือว่าเรื่องนี้เป็นอะไรที่เลือกนักแสดง ได้เข้ากับบทบาทอย่างมาก
นักแสดงสุดหล่อของเรื่อง
และต่อด้วยหนุ่มหล่อของเรื่อง ที่ใคร ๆ ก็ต่างหลงรักเพราะหล่อวัวตายควายล้มเลย อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม เกิด 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2525 ชื่อเล่น จ่อย เป็นนักแสดงลูกครึ่งออสเตรเลีย ลาว เข้าวงการบันเทิงเมื่ออายุ 14 ปี
ทิดน้อย พระเอก โดยคำชักชวนของมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ กับภาพยนตร์เรื่องแรก อันดากับฟ้าใส และ 303 กลัวกล้า อาฆาต หลังจากไม่มีผลงานบันเทิงระยะหนึ่ง ได้กลับมาอีกครั้งกับละครเรื่อง ทะเลฤๅอิ่ม ของหม่อมน้อย หลังจากนั้นก็มีผลงานการแสดงเรื่อยมา
จนใน พ.ศ. 2547 อนันดาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลผลงานบันเทิงยอดเยี่ยมประจำปี พ.ศ. 2547 หรือ สตาร์เอนเตอร์เทนเมนต์อวอร์ดส 2004 จากเรื่อง ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ และจากภาพยนตร์เรื่อง Me Myself อนันดาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลถึง 6 สถาบัน
ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2550 ถึง พ.ศ. 2551 อนันดามีผลงานการแสดงภาพยนตร์ถึง 10 เรื่อง และในปี พ.ศ. 2552 อนันดาได้รางวัลด้านการแสดงในสาขานักแสดงนำจาก 6 สถาบัน จากผลงานภาพยนตร์เรื่อง แฮปปี้เบิร์ธเดย์
ทางด้านธุรกิจ ได้ร่วมทำธุรกิจกับ ตั้งบริษัท เฮโล โปรดักส์ชั่น รับทำงานอีเวนต์เกี่ยวกับงานศิลปะ อีกทั้งยังเคยมีธุรกิจร้านอาหารกึ่งผับกึ่งรีสอร์ตที่เกาะเสม็ด อนันดายังได้ร่วมลงทุน รับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ และยังเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับโฆษณาจักรยานยนต์ ซูซูกิ รุ่น มาโช โชกุน 125 และเป๊ปซี่ แม็กซ์
เกิดในประเทศไทย เป็นลูกชายของจอห์น เอเวอริงแฮม ช่างภาพชาวออสเตรเลีย กับแก้วสิริ สมพร หญิงชาวลาว ปัจจุบันอนันดาถือสัญชาติไทย เดิมถือสัญชาติออสเตรเลีย เขาใช้ชีวิตในวัยเด็กอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย
หลังจากนั้นกลับมาประเทศไทยเมื่ออายุได้ 9 ปี เข้าศึกษาที่โรงเรียนบางกอกพัฒนา และกลับไปบริสเบนระหว่างปิดภาคเรียนที่ประเทศไทย สมัยเด็ก ๆ เป็นคนดื้อมาก เรียนหนังสือเก่งแต่ไม่ยอมเรียน จนเมื่ออายุได้ 13 ถึง 14 ปี โดนไล่ออกจากโรงเรียน
เลยทำให้คุณพ่อต้องการดัดนิสัยโดยจะส่งไปเรียนโรงเรียนประจำที่ประเทศอินเดีย แต่มีวันหนึ่งขณะรอเดินทางไป ทิดน้อย อนันดา ได้ช่วยงานร้านอาหารอินเดียชื่อ หิมาลัย ชา ช่า ที่บิดาเปิดอยู่ย่านสุริวงศ์ ได้พบมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ เข้ามาถามว่าต้องการเป็นดาราหรือไม่
และด้วยความที่ไม่อยากไปอินเดียจึงตอบตกลง อนันดาจึงเข้าสู่วงการบันเทิงโดยเริ่มงานกับแกรมมี่ เป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ จากนั้นก็ได้มีผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกคือ อันดากับฟ้าใส เอาแค่คร่าว ๆ ก่อนนะถ้าอยากรู้มากกว่านี้พวกเธอต้องไปหาเอง 555
รีวิวทิดน้อย มุมตลกที่ถูกใจคนดู
บอกเลยว่าฉันชอบความมุมตลกที่ถึงแม้ว่าคนอาจจะคาดเดาได้ว่าจะเล่นแต่ก็ยังตลก ฮา ท้องแข็งอยู่ดี และไม่เพียงมุกตลกที่เล่นอะไรก็ดูผิดจังหวะเท่านั้น แม้แต่ไอเดียที่เป็นจุดขายอย่างการเอาทิดน้อยมาเป็นตัวละครศูนย์กลางในการเล่าเรื่องก็กลับเล่าได้สะเปะสะปะเหมือนไม่รู้ว่าจะวางมันไว้ตรงไหน
จะให้คนดูลุ้นว่า ทิดน้อย สปอย จะเอาชนะใจนาคยังไงก็ดันให้คาแรกเตอร์ทิดน้อยดูไม่ค่อยฉลาด เข้าข้างตัวเองและแสดงความเห็นแก่ตัวออกมาเรื่อย ๆ หรือจะให้คนดูซาบซึ้งกับความเสียสละของทิดน้อยและทำให้เห็นความรักที่มั่นคงของเขา หนังก็กลับไม่ได้ให้น้ำหนักกับเรื่องราวในส่วนนี้มากพอเสียด้วย
และปัญหาสำคัญของหนังนี้ เลยคือการที่พี่เท่งยังยึดติดกับรสนิยมการดูหนังของตนเอง จนทำให้จังหวะจะโคนการเล่าเรื่องของมันดูเชื่องช้า ย่ำกับที่ และไม่ตอบโจทย์ในการพาผู้ชมยุคใหม่เข้าโรงไปฮากับหนังสักเท่าไหร่
และที่ถือว่าไม่สนใจความเปลี่ยนแปลงของสังคมเลยก็คือบทเดือนของ รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น ที่ยังคงเป็นมุมมองผู้ชายในยุคเบบี้บูมที่เห็นกะเทยเป็นสิ่งแปลกปลอมและหมั่นลวนลามผู้ชายจนดูน่ากลัว
และกล่าวสรุปอย่างโหดร้ายที่สุด การเอาหนังทั้งเรื่องความยาว 105 นาที ที่เล่าเรื่องยืดยาวและมุกตลกไม่ทำงานกับคนดูไปเทียบกับคลิปตลก ๆ ที่มีความยาวเพียงไม่กี่วินาที
ก็คงไม่ต้องบอกหรอกนะว่าระหว่างการเสียเงินซื้อบัตรชมภาพยนตร์ในยุคที่เศรษฐกิจฝืดเคืองกับการเปิดคลิปตลกในแอปต่าง ๆ แถมดูได้ทุกที่ ผู้ชมที่ต้องการความบันเทิงแบบทันทีจะเลือกแบบไหน
และพล็อตการดำเนินเรื่อง ทิดน้อย อั้ม อาจจะต้องบอกตรง ๆ ว่า สามารถเดาทางในการดำเนินเรื่องได้ตั้งแต่ต้น จนถึงปลายทางของเรื่อง ด้วยการนำเอาพื้นฐานของเรื่องเครือจักรวาลนางนาก มาเล่าเรื่องโดยเพิ่มตัวละครของเรื่องนี้ ลงไปเท่านั้น
และมันอาจจะมีความแปลกใหม่ในฉากของตัวละครทิดน้อย แต่หากตัดตัวละครนี้ออกไป เหมือนเรากำลังรับชมนางนากในอีกเวอร์ชันเลยก็ว่าได้
เรื่องราวความรักของตัวละคร
ทว่าแกนของเรื่องสื่อสารในส่วนของความรักแท้ แท้ ออกมาได้อย่างไหลลื่น เพราะไม่ใช่เพียงแค่ความสัมพันธ์ของสามตัวละครเท่านั้น แต่ยังมีอีกหนึ่งตัวละครที่มีความรักแท้ แท้ ไม่แพ้กัน
และมันจึงเป็นการเล่าให้เห็นมุมมองความรักที่ถึงแม้ไม่ได้ครอบครอง เพียงแค่ได้ดูแล และอยู่ใกล้เธอก็พอแล้ว ซึ่งระยะเวลาในการดำเนินเรื่องถือว่ากระชับพอสมควร และสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้อย่างง่ายไม่ซับซ้อนมากนัก เป็นความสนุกแบบธรรมชาติให้ได้ผ่อนคลายไปอย่างครบรส
และจังหวะการตัดต่อ และการลำดับเรื่องราวในภาพยนตร์ ทิดน้อย pantip ทำออกมาได้อย่างนุ่มนวล และลื่นไหลเป็นอย่างดี มการแบ่งลำดับในการเล่าเรื่องพาร์ทหลัก พาร์ทรองของตัวละครได้ดี มีความหนักเบาของอารมณ์สลับกันไป
และมีจุดเชื่อมโยงของแต่ละฉาก ให้ได้เห็นว่าตัวละครนั้นคือใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร และเพื่ออะไร มีเป้าหมายของตัวละครวางไว้อย่างชัดเจน อีกทั้งการใส่มุกตลกเข้ามามีการจัดสรรลำดับให้ผู้ชมสามารถยิ้มตามออกมาได้อย่างเป็นระยะ ผสานไปกับความดราม่าแบบกลมกล่อม
และด้านการแสดงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนจับตามอง ด้วยการได้นางเอกระดับต้นของเมืองไทย อย่างอั้ม พัชราภา มารับบทเป็น นาค ซึ่งเธอสามารถแสดงความสดใส และสวยหวานผู้เป็นสาวงามในยุคนั้นออกมาได้ดี
และมีความคอมเมดี้อยู่ในตัวเองประมาณหนึ่ง และ อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม รับบทเป็น มาก ชายหนุ่มผู้หลงรักนาคอย่างเต็มหัวใจ พร้อมไปกับ เท่ง เถิดเทิง รับบทป็น ทิดน้อย เป็นทั้งนักแสดง และผู้กำกับที่เต็มที่ในทุกฉาก และเป็นตัวชูโรงของภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่ถือว่าแกนความตลกอยู่ที่เขาเลยจริง ๆ
ตามต่อกันด้วยนักแสดงสมทบคับคั่งตลอดทั้งเรื่อง ทิดน้อย เท่ง ขนมาในทุกแขนงไม่ว่าจะเป็นนักสดงตลก นักแสดงมากฝีมือมากมาย ที่เข้ามาสร้างสีสันในแต่ละฉากได้อย่างเฮฮา
ถึงแม้จะมาเพียงเวลาสั้น ๆ แต่ก็ทำเอาเรียกรอยยิ้มได้ดีเช่นกัน พวกเขาอาจจะไม่ได้มีบทบาทที่สาดเข้ามามากมาย แต่ก็เป็นจุดที่ทำให้เราได้ต่อเติมการดำเนินเรื่องให้สมบูรณ์ความสนุกมากยิ่งขึ้นนั้นเอง ใครที่ชอบดูหนังโรแมนติก ตลกของไทย เรื่องนี้ไม่ควรพลาดเลยนะ