มาทุกคนวันนี้ฉันจะมา รีวิวบึงกาฬ และจะพามาดูความพยายามของไทย ที่ผลักดันและกลับมาเปิดตัวการตลาดหนังสัตว์ประหลาดแบบไทย ๆ ชื่อเรื่องว่า บึงกาฬ ซึ่งคนส่วนใหญ่ชอบคิดว่าหนังของไทยไม่ค่อยสนุกใครที่คิดแบบนี้ลองเปิดใจดูหน่อยดีไหม เดี๊ยวนี้ไทยได้พัฒนาการสร้างหนังต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอย่างมากมีหลายเรื่องที่สนุก เรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ใคร ๆ ก็บอกว่าเป็นความสำเร็จของไทยด้วย

เพราะนี่คืออีกหนึ่งความหวังของวงการไทจู กับหนังที่ใคร ๆ ก็เฝ้ารอคอย เพราะใช้เวลาสร้างมายาวนานถึง 5 ปี ที่โฆษณาเอาไว้ว่าใช้ทุนสร้างถึง 88 ล้านบาท นับว่าเป็นอีกโปรเจกต์ใหญ่อีกเรื่องของวงการหนังไทย เพียงแต่ว่าผลลัพธ์โดยรวมที่ออกมานั้น หนังเรื่องนี้จะปังหรือพังกันแน่ ไปพิสูจน์กันสิ วันนี้ฉันจะมารีวิวแบบจัดเต็มไม่มีโม้ ทุกท่านสามารถเข้าชมหนังไทยได้ที่ ดูหนังออนไลน์

รีวิวบึงกาฬ เปิดตัว หนังสัตว์ประหลาดไทย แนวสยองขวัญ ปริศนาที่ต้องแก้ไข

รีวิวบึงกาฬ เปิดตัว หนังสัตว์ประหลาดไทย แนวสยองขวัญ ปริศนาที่ต้องแก้ไข

รีวิวบึงกาฬ เรื่องย่อ

บึงกาฬ เรื่องย่อ เรื่องราวเริ่มที่สัตว์ประหลาดยักษ์ในทะเลสาบออกตามหาไข่ของมัน ก็เป็นปกติที่แม่จะหวงลูกของมันแต่สัตว์ประหลาดตัวนี้หวงลูกของมันมาก มันตัวใหญ่น่ากลัว กินเนื้อ โดยเฉพาะเนื้อคน มันออกตามหาไข่จนคนทั้งเมืองต้องอพยพหนีตาย

ซึ่งแนวหนังสัตว์ประหลาดเรื่องนี้ดูน่าจะเป็นแนวน่าขวัญผวาของวงการหนังไทย ยิ่งถ้าว่าเป็นแนวหนังสัตว์ประหลาดยักษ์ด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่เพราะการสร้างภาพนั้นก็ยากตามไปด้วย จะหลบมุมกล้องเอาตลอดก็เป็นไปไม่ได้ ครั้นจะให้เห็นตัวก็ออกแบบฉากยาก

เพราะขนาดตัวของมันบังคับให้ไม่ทำหุ่นขนาดใหญ่ก็ต้องพึ่งพาซีจี ไม่ว่าจะแบบไหนก็ใช้เงินทุนมหาศาล และเสี่ยงกับการโดนหาว่าภาพหลอกตาถ้าทำไม่ถึงทั้งนั้น พูดถึงก็รู้สึกสงสารคนทางทีมงานของเรื่องนี้ที่พยายามแทบตายสุดท้ายไม่เห็นค่า

แต่ก็เอาเถอะยังไงฉันคิดว่าเรื่องนี้ก็ยังสนุกอยู่ดี และดีใจที่ทางทีมงานได้สร้างภาพยนตร์ออกมาสำเร็จไปด้วยดี สามารถอ่านรีวิวหนังเรื่องอื่น ๆ เพิ่มเติม ได้ที่ รีวิวหนังไทย

รีวิวบึงกาฬ เรื่องย่อ

The Lake บึงกาฬ ฉันบอกได้เลยพวกเราควรที่จะก็ต้องยอมรับในความกล้าของผู้กำกับ วิษณุพงษ์ ลีทองคํา ที่เคยมีผลงานแนวระทึกขวัญเรื่อง The Maid สาวลับใช้ เรื่องนี้ก็ทำออกมาได้ดีเหมือนกันฉันยังชอบและติดใจเรื่องนี้เลย และมาขอยกระดับความหวาดผวาในหนังแนวไคจู หรือสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ในเรื่องนี้ ถือว่าเป็นก้าวที่ทะเยอทะยานไม่น้อย

ทั้งการไปดึง จอร์ดู เชลล์ Jordu Schell นักออกแบบสัตว์ประหลาดในหนัง Cloverfield 2008 และ Avatar 2009 มาช่วยสร้างสัตว์ประหลาดในบึงใหญ่ที่ผสมระหว่างปลาดุก จระเข้ และงู โดยใช้วิสัยทัศน์การนำเสนอที่ได้แรงบันดาลใจจากหนังอย่าง Jurassic Park 1993 หรือ Godzilla 1998 ที่คุ้นตากับฉากสัตว์ร้ายกลางสายฝน

และความมืดดำของค่ำคืนสลับแสงฟ้าผ่าและไฟฉุกเฉินในบรรยากาศเมืองต่างจังหวัดของไทยได้อย่างลงตัว และตอกย้ำว่าผู้สร้างเองก็แม่นยำในการคุมมู้ดและโทนของหนังพอสมควร

รวมถึงการเลือกนักแสดงที่สามารถแบกฉากของตนเองได้ดีทั้ง ออม สุชาร์ มานะยิ่ง ในบทพี่สาวคนโตของบ้านริมทะเลสาบที่พบไข่สัตว์ประหลาด และ อาร์ตี้ ธนฉัตร ตุลยฉัตร ในบทน้องชายของออมที่ล้มเหลวจากเมืองกรุงกลับมาบ้านเกิด และ ปู วิทยา ปานศรีงาม ในบทหัวหน้าตำรวจประจำจังหวัดที่รับผิดชอบตัดสินใจสั่งการทุกอย่าง และ ตุ้ย ธีรภัทร์ สัจจกุล ในบทสารวัตรที่ตามคดีนี้มาแต่แรก

และสุพรรณษา เวชกามา หรือรู้จักกันในนาม ลำไย ไหทองคำ ที่มารับบทลูกสาววัยขบถของตุ้ย แม้รูปลักษณ์ของเธอกับตุ้ยไม่ได้ดูห่างขนาดจะเป็นพ่อกับลูกแต่เอาจริงแล้ว เธอก็ดูไม่ขัดเขินเกินไปที่จะเป็นเด็กมัธยมปลาย น่าจะเป็นว่าตุ้ยดูยังหนุ่มเกินวัยเสียมากกว่า

ภาพยนตร์แนวสัตว์ประหลาด สุดปัง เพราะทีมงานตัดต่อ ดีจริงหรือไม่

และยังมีอีกจุดที่ฉุดรั้งให้ภาพรวมของ The Lake หนังไทย สะพรึงพรั่งพรูดิ่งหนักยิ่งเข้าไปอีก ก็คืองานตัดต่อ Editing และการลำดับการเล่าเรื่องราว Segment ที่ผู้สร้างรับหน้าที่นี้อีกเช่นเดียวกัน กลายเป็นการว่าหนังมีแค่เพียงประมาณ 15 นาทีแรก ที่เปิดฉากขึ้นมาและพอจะสร้างอรรถรสน่าสนใจขึ้นได้ แต่เมื่อมาถึงฉากสั่งน้ำที่ใคร ๆ ต้องจดจำเมื่อได้ดูนั่้งเรื่องนี้ นั่นคือสัญญาณของความสะพรึงเริ่มต้นขึ้นแล้ว

ฉันคิดว่าการตัดต่อหนังเรื่องนี้แทบจะยังไม่ราบเรียบและไม่คล้องจ้องกับเนื้อเท่าที่ควร เท่าไหร่นัก หรือหากจะให้พูดแบบตรงไปตรงมาจริง ๆ แบบไม่มีถนอมน้ำใจ ก็คือจุดนี้คือหายนะของหนังหายนะเรื่องนี้จริง ๆ หนังต้องพังพินาศลงเพราะการลำดับเรื่องที่โดดไปมาบ่อยครั้งจนน่าหงุดหงิด

ซ้ำรายกับมุมกล้องที่พยายามเร้าอารมณ์แต่กลับทำให้ปวดหัวลายตา อีกทั้งยังมีฉากซีนที่ไม่ต่อเนื่อง ตัดฉับไปมาขัดอารมณ์ผู้ชมบ่อยครั้งจนรู้สึกไม่สบอารมณ์เอาสะเลย แทนที่หนังจะดึงอารมณ์ขึงขังให้อยู่กับคนดู กลายเป็นความขบขันมาแทนที่ เพราะงานตัดต่อที่บางจุดไม่น่าจะปล่อยผ่านมาแบบนี้ได้ แต่อย่างน้อยหนังเรื่องนี้ก็ยังมีฉากให้ลุ้นและฉากขับขันที่ชวนหัวเราะอยู่

โดยเฉพาะในหนัง บึงกาฬ หนัง เต็มเรื่อง ที่บรรยากาศแวดล้อม Environment ส่วนใหญ่ในเรื่องนั้น จะต้องมีฉากฝนตกอยู่เกือบจะครึ่งเรื่อง ฉันเลยเกิดความสงสัยว่าหรือสัตว์ประหลาดชอบน้ำจึงถ่ายให้เห็นแต่ฉากฝนเพื่อดึงความน่ากลัว เพราะสถานการณ์พายุเข้าในพื้นที่ แต่น่าขันที่เล่าเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชั่วเวลาเดียวกัน

แต่สลับกันไปมาแต่ละพื้นที่ ภาพตรงนั้นฝนกำลังตกหนัก แต่ตัดภาพมาตรงนี้กลับไม่มีฝน ทั้งที่โลเคชั่นตามท้องเรื่องนั้น ท้องที่ที่เกิดเหตุก็ไม่ได้กว้างขวางอะไรถึงขนาดนี้สภาพอากาศจะแตกต่างกันได้เช่นนี้ ถึงจะเป็นเพียงจุดเล็กน้อยในหนัง แต่กลายเป็นสิ่งที่ขัดอารมรณ์ไปอย่างน่าเสียดายไม่น้อย

ภาพยนตร์แนวสัตว์ประหลาด สุดปัง เพราะทีมงานตัดต่อ ดีจริงหรือไม่

ฮันแน่ทุกคนอย่าพึ่งคิดในแง่ลบว่าไหนบอกหนังเรื่องดีล่ะ ทำไมพูดแต่ข้อเสีย ยัง ๆ เดี๊ยวก่อนกระนั้นก็ใช่ว่า บึงกาฬ หนังออนไลน์ จะเป็นหนังที่ย่ำแย่สาหัสขนาดนั้น เพราะอย่างน้อย ๆ ตัวหนังก็ยังมีข้อดีอยู่เหมือนกัน

และน่าจะเป็นจุดเด่นและจุดดีอย่างเดียวที่เห็นในหนังเรื่องนี้ นั่นก็คือเทคนิคงานสร้างที่ทำออกมาได้ดี และเป็นงานสร้างที่ช่วยยกระดับงานโปรดักชั่นวงการหนังไทยเลยก็ว่าได้ ต้องปรบมือให้ดัง ๆ กับงานสร้างในรูปแบบ Animatronic ผสมผสานกับซีจีเทคนิคพิเศษที่ช่วยค้ำจุนกันได้ดี องค์ประกอบนี้ช่วยเชิดหน้าชูหน้าให้กับหนังเรื่องนี้ได้ดีเด่น

งานสร้างตัวสัตว์ประหลาดเรื่องนี้ค่อนข้างออกมาดี และแปลกใหม่ในวงการหนังไม่นาน เพราะส่วนใหญ่ในสมัยนี้ใคร ๆ ก็จะดีไซน์งานในรูปแบบแอนิเมชั่นกราฟิกกันเป็นหลัก แต่เรื่องนี้ใชหุ่นจำลองเข้ามาผสมผสานด้วย ที่เห็นได้ชัดว่าผู้สร้างมีแรงบันดาลใจ

และเป็นแฟนหนังสัตว์ประหลาดดัง ๆ ของฮอลลิวูด อย่างน้อย ๆ ก็จะต้องเป็นแฟรนไชส์ Jurassic อย่างแน่นอน เพราะนี่คือเทคนิคแบบเดียวกับที่หนังฮอลลิวูดเรื่องดังกล่าวก็หยิบมาใช้ และเรื่องนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จกับการดีไซน์ไทจูในครั้งนี้อย่างน่าพอใจ

ข้อดีของหนังที่น่าชื่นชม

มาเรามาพูดถึงข้อดีของหนังที่น่าชื่นชม ด้วยข้อดีที่ว่ามาที่ผู้สร้างพยายามอย่างยิ่งให้ปรากฏออกมา ประกอบกับเงื่อนไขกรอบจำกัดการทำงานที่พอเข้าใจได้จากผลงานที่สำเร็จแล้ว ทั้งปัญหาเรื่องทุน เวลา การประสานหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น ทุนจีน

และความยากโดยพื้นฐานของหนังสัตว์ยักษ์เป็นทุนเดิม ล้วนเป็นสิ่งที่น่าเห็นใจอยู่แล้ว มันจึงทำให้หนังเรื่องนี้เป็นอะไรที่เราเกลียดไม่ลง แต่ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับว่ามันคือการฝืนทนดูไปพร้อมความหงุดหงิดใจหลายประการตลอดเรื่องเช่นกัน

อาจพูดได้ว่าหนังมี 3 เรื่องสั้นที่น่าสนใจในตัวเองอยู่ในนั้นและคงจะดีถ้าต่างคนต่างอยู่กันไปมากกว่าที่จะเอามารวมกันแล้วดูไม่ส่งเสริมกันอย่างที่เป็น หนังสั้นทั้งสามเรื่องคือ

เรื่องแรก เป็นเรื่องของครอบครัวชาวบ้านชนบทที่มีชีวิตพึ่งพาเกษตรกรรม วันหนึ่งลูกสาวคนเล็กเกิดพบไข่ลึกลับและทำให้เธอรู้สึกพิเศษกว่าใครเธอหวงแหนมันมาก ทว่าไข่ใบนี้ทำให้ชาวบ้านคนอื่นต่างต้องเจอกับการรุกรานของปีศาจร้าย

ไม่เว้นแม้แต่พี่สาวกับพี่ชายของเธอที่สุดท้ายแม้รอดชีวิตได้แต่ก็ต้องติดเชื้อจากเลือดพิษทำให้เชื่อมจิตกลายเป็นส่วนหนึ่งของปีศาจโดยไม่รู้ตัว ครั้งใดที่ชาวบ้านพยายามจะแทงใส่สัตว์ประหลาดมันก็เหมือนแทงใส่ตัวพวกเขาไปด้วยราวคำสาปร้าย

เรื่องสั้นนี้มีทั้งการเปรียบเปรยซ่อนสัญญะและนำเสนอประเด็นถกเถียงเชิงปรัชญาและจริยธรรมที่น่าสนใจ โดยอ้างอิงของเรื่องนี้อาจเป็น The Host 2006 และ Stranger Things 2022

ข้อดีของหนังที่น่าชื่นชม

เรื่องที่สอง เรื่องของสารวัตรที่เป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวหลังภรรยาเสียไปแล้วทิ้งลูกสาวที่กำลังอยู่ในวัยต่อต้านเอาไว้ โดยที่เขาก็อยากดูแลเธอให้ดีที่สุดแต่ด้วยความเป็นผู้ชายแข็งกระด้างและภาระงานตำรวจเขาจึงไม่มีโอกาสเปิดใจคุยกับลูกสาว เลยกลายเป็นความห่างเหินไป

จนกระทั่งบังเอิญที่สองพ่อลูกต้องตกอยู่ท่ามกลางการจู่โจมของปีศาจร้ายอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้พวกเขาได้รู้ว่าต่างฝ่ายต่างรักกันมากเพียงใด หนังมีโอกาสเปรียบเปรยความรักของพ่อแม่ระหว่างคนกับสัตว์ประหลาดได้อีกชั้นหนึ่งด้วย โดยอ้างอิงของเรื่องนี้อาจเป็น A Quiet Place 2018

และเรื่องที่สาม ว่าด้วยเรื่องของวิทยาศาสตร์และความเชื่อ นายตำรวจใหญ่ที่ดูแลทั้งจังหวัดพบเจอกับสถานการณ์ที่เกินมือ เขาต้องตัดสินใจโดยมีความปลอดภัยของประชาชนที่หวังพึ่งเขาเป็นเดิมพัน เมื่อสิ้นไร้หนทางเขาบอกให้ประชาชนหันหน้าเข้าหาศาสนาเป็นที่ยึดถือสุดท้าย

ในขณะที่อีกทางนักวิทยาศาสตร์ชาวจีนที่มาศึกษาพฤติกรรมสัตว์ร้ายพยายามทำความเข้าใจสังเกตจนหาทางรอดได้และพยายามหาทางบอกกับนายตำรวจ เรื่องสั้นนี้ยังอาจนำเสนอในแง่ของการวิพากษ์อำนาจรัฐกับการแก้ปัญหาได้อีกด้วย โดยอ้างอิงของเรื่องนี้อาจเป็น Shin Godzilla 2016 บอกตรงเลยว่าฉันชอบการสร้างเรื่องราวของเรื่องนี้ บีงกาฬ หนัง สปอย นะมีความเล่าเรื่องราวแหวกแนวหลายเรื่อง

ผู้กำกับของเรื่องนี้มีความคิดที่ซับซ้อน

ซึ่งเอาเข้าจริงนะฉันก็ไม่รู้หรอกว่าผู้สร้างคิดอะไรแบบนี้ไว้ไหม แต่สังเกตจากร่องรอยของตัวหนัง บึงกาฬหนังรีวิว นั้นพอจะคาดคะเนได้ จึงเห็นทั้งโอกาสที่มันอาจเป็นได้ รวมถึงพอเดาได้ว่าผู้สร้างอยากจะทำอะไรคิดภาพแบบไหนในหัวกับฉากที่หยอดมาแบบนี้แต่ไม่ได้สานต่อ

คือดูแล้วทั้งสามเรื่องมีประเด็นและเส้นเรื่องที่แข็งแรงมากพอ บางอย่างอาจไม่ใหม่มีเดินไปตามสูตรบ้างแต่ก็เห็นร่องรอยแห่งการต่อยอดอย่างมีชั้นเชิงได้ ทว่าพอเอาสามเรื่องนี้มาทำเป็นหนังยาวเรื่องเดียว มันเต็มไปด้วยแผลตัดแต่งตัดต่อเหมือนซากศพของแฟรงเกนสไตน์ที่ขาด ๆ เกิน ๆ ไม่สมประกอบก็ไม่ปาน

และหนำซ้ำผู้สร้างยังประเมินขนาดของหนังผิดอย่างร้ายแรงมากกกก เราพออนุมานได้ว่านี่เป็นเหตุการณที่สั่นสะเทือนทั้งจังหวัดอย่างรวดเร็วโดยภัยร้ายนั้น มาจากภูเขาและทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ดูลึกลับ แต่ถ่ายภาพมาเหมือนบึงหรือสระในสวนสาธารณะมากกว่าฉากนี้ผิดหวังมากเอาดี การเล่าด้วยภาพก็มีภาพกว้างน้อยมากจนเล่าเรื่องแทบไม่ได้

พวกต้องหลบมุมกล้องพวกฉากสัตว์ประหลาดนั้นพอเข้าใจได้บ้างแต่เวลาไปจับภาพพวกคนก็เล่นแต่ภาพแคบหมดจนไม่ได้พักสายตา จะว่าวางแผนการสร้างผิดพลาดจนไม่มีพวกฉากเปิดสถานที่หรือให้คนดูเข้าใจพื้นที่ภาพรวม Establishing Shot มากพอ

หรือเป็นความจงใจให้ดูอึดอัดก็ตอบยาก แต่บกพร่องเรื่องการเล่าเรื่องนั่นเป็นผลลัพธ์ที่ตามมาแน่นอน เรื่องราวของเรื่องนี้ดีนะแต่การถ่ายทำพลาดย่างแรงเลยทุกคน

ผู้กำกับของเรื่องนี้มีความคิดที่ซับซ้อน

อีกฉากที่ฉันงงกับผู้กำกับมากและไม่เข้าใจการถ่ายทำของเขาซึ่งฉากที่พยายามเล่าเรื่องราวในปี 2560 ตามท้องเรื่องที่เป็นยุคของไอโฟน 7 เข้า 8 ทำไมจังหวัดนี้ผู้คนเหมือนไม่รู้จักว่าโทรศัพท์มือถือหรือการถ่ายคลิปลงโซเชียลมีเดียคืออะไร แทบจะใช้วิทยุไร้สายคุยกันเอาด้วยซ้ำ จะบอกเป็นโลกแฟนตาซีก็ใส่อ้างอิงความสมจริงมาหนักแน่นเกินไป พลอยทำให้ข้อสรุปตอนท้ายดูเบาปัญญาไปด้วย

และการคุมหนัง the lake บึงกาฬ พากย์ไทย ที่ทำได้ดีก็ยังมีรอยแหว่งประหลาด ๆ เช่น ฉากฝนตกกับฟ้าแจ้งแทบจะตัดสลับกันเลยราวกับอยู่คนละโลกทั้งที่จังหวัดเดียวกัน ถ้ามองถึงอารมณ์หนังทำเป็นฉากฝนตกทั้งเรื่องน่าจะเข้ากันกว่าเสียอีก

รีวิวบึงกาฬ แบบตรงไปตรงมา

มายังไม่พอกับข้อเสียของเรื่องนี้ บึงกาฬ หนัง ถือได้ว่าฉันตอกย้ำซ้ำร้ายไปอีกว่าโครงเรื่องจากการผสมร่างไม่แข็งแรงแล้ว การตัดต่อเล่าเรื่องยิ่งดูแย่ไปอีก หลายฉากขาดความต่อเนื่องทางอารมณ์ เช่น ภาพแรกตัวละครอาจสั่นกลัวราวสติจะหลุดแต่พอตัดภาพที่สองตัวละครยืนนิ่งไร้อารมณ์ไปเสียแล้ว คนดูก็จะไบโพลาร์ตามเอานะ 5555

ยัง ๆ มันยังมีที่หนักกว่านั้นหนังขาดความต่อเนื่องทางลำดับเหตุผล คือหลายฉากโดดไปมา เหมือนมันขาดสักหนึ่งหรือสองฉากที่ต้องมีเชื่อมอยู่เสมอเลย สมมติว่า ปกติต้องเล่า A B C แต่หนังมักจะตัดแบบ A C แล้วปล่อยให้ B เป็นหน้าที่คนดูใส่เข้าไปเอง คือถ้ามันจงใจทำเพื่อสร้างชั้นเชิงมันก็ดูเก๋ดี

แต่พอมันก็เดินไปตามสูตรหนังมาตรฐาน เราจึงรู้สึกเหมือนคนสร้างโยนความรับผิดชอบให้คนดูมากไปว่า เราเจอข้อจำกัดเยอะถ่าย B มาใส่ไม่ได้ แต่พวกคุณก็น่าจะเติมกันเองได้เนอะ ซึ่งพอมันเยอะ ๆ

เข้าแทบทั้งเรื่องมันเลยเหมือนเราไปดูคอนเสิร์ตที่นักร้องร้องประโยคหนึ่งแล้วก็ชอบหันไมค์มาให้เราร้องแล้วก็ดึงกลับไปร้องประโยคหนึ่งสลับไปแบบนี้ และดันทำอย่างนี้ทั้งคอนเสิร์ต แน่นอนเพลงนี้เรารู้เนื้อเราร้องได้ เพลงก็เพราะดี แต่เจอแบบนี้มันชวนน่าหงุดหงิดใจมากเสียกว่า

รีวิวบึงกาฬ แบบตรงไปตรงมา

และมันยังมีบางจุดของหนังเองก็เว้นข้ามไปจนเราไม่เข้าใจเจตนาของหนังเลยก็มี โดยเฉพาะพวกปมที่เป็นจุดสำคัญทั้งหลาย อย่างสัตว์ประหลาดคืออะไร มันล่าเหยื่อจากอะไรมองเห็นได้กลิ่นหรือได้ยิน มีพฤติกรรมยังไง

การติดเชื้อแล้วจิตใจเชื่อมกันคืออะไรแล้วจะส่งผลอย่างไรต่อไป รัฐใช้อำนาจตามท้ายเรื่องได้อย่างไร การเดินทางของตัวละครของตุ้ยคืออะไรเพราะเขาเห็นอะไรรู้อะไร สรุปแล้วสัตว์ประหลาดต้องการอะไรแน่ ทั้งหมดที่เห็นนั้นคือเป็นข้อข้อสงสัยของฉันเอง

แต่ยังไงก็เถอะเรื่องนี้ก็เต็มไปด้วยปริศนา ที่ว่าไปตามจริงก็เหนื่อยจะหาคำตอบหลังจากต้องนั่งจินตนาการฉากมาเชื่อมช่วยหนังตลอดทั้งเรื่อง และสุดท้ายก็ไม่ได้อยากจะรู้ขนาดนั้นแล้วด้วย ลืมตัวหนังไปแล้วเหลือทิ้งไว้แค่ว่าครั้งหนึ่งหนังไทยเราลองทำอะไรใหม่ ๆ ให้ชื่นใจพอแล้วและหนังเรื่องนั้นชื่อ บึงกาฬ

คนส่วนใหญ่ก็บอกว่าบึงกาฬ ก็ยังพร่องไปมาก เนื่องจากวิธีการตัดต่อ ที่น่าเวียนหัว ยังไม่รวมไปถึงฉากหลังในช่วงเวลากลางคืนที่ฝนตกอยู่ตลอดเวลา ยิ่งทำให้ผู้ชมต้องยิ่งเพ่งตาไปกับจอภาพยนตร์

แต่ถึงอย่างนั้นพอหนังเล่าไปเล่ามา เดี๋ยวก็พื้นแห้ง เดี๋ยวก็พื้นเปียก จนเราอาจจะกล่าวได้ว่า ความต่อเนื่อง ในการถ่ายทำฟุตเทจตั้งแต่แรกก็น่าจะ ไม่ละเอียด มาตั้งแต่ขั้นตอนดำเนินงานแล้ว

น่าเสียดายที่เรามองเห็นความตั้งใจของผู้กำกับอย่าง ลี ทองคำ ในการพัฒนาตัวซีจีไอ สัตว์ประหลาด ความพยายามจะเล่าความสัมพันธ์ของคนจังหวัดบึงกาฬ แต่เมื่อทุกอย่างหลอมรวมกันแล้วกลับได้ผลที่ไม่ค่อยน่าพอใจนัก หรือจะมีภาค 2 กันนะ ทุกคนคิดว่าไงคะ

ภาพยนตร์เรื่องนี้มีจุดเด่นที่ทุกคนมองไม่เห็น

ยังไงก็ตามหนัง บึงกาฬ หนัง สรุป สัตว์ประหลาดไทยฟอร์มยักษ์ที่ผู้สร้างกล้าคิดกล้าทำ และทำได้ดีมากในครึ่งแรก เนื้อเรื่องเต็มไปด้วยฉากสัตว์ประหลาดออกอาละวาดแบบไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น และการทำ CG ที่เข้ากับความเป็นไปได้ของทุนสร้างไทย แต่ในครึ่งหลังเรื่องราวกลับไปเน้นที่ Animatronics ที่ดูยอดเยี่ยม แต่ขาดการเคลื่อนไหวที่ดี จนกลายเป็นหุ่นเชิดที่ทำได้แค่เพียงคำรามเท่านั้น

ผสมกับฉากวุ่นวายของชาวเมืองที่เหมือนจะยืดเยื้อไม่ไปไหนและจบเรื่องโดยไม่มีเหตุผลอธิบายมารองรับได้ดีพอ ก่อนที่สุดท้าย แตะกับการเฉลยที่มาของสัตว์ประหลาดที่ผสมผสานระหว่างความเชื่อโบราณกับศาสนาไทยที่แม้จะดูลึกลับและน่ากลัว แต่ก็มีความเขินอายที่ทิ้งตอนจบให้งงเช่นกัน แต่ตัวหนังก็ไม่ได้แย่หรือเลวร้ายแต่อย่างใด เพียงแต่อาจพลาดเป้าที่ควรจะเป็น

และเรื่องนี้ได้กระดับวงการหนังไทย ด้วยเทคนิคพิเศษแบบเดียวกับ Jurassic        ตัว ไทจู ใช้เทคนิค Animatronics คือ ใช้หุ่นยนต์จำลอง ผสม CG คล้ายกับการสร้าง ทีเร็กซ์ ในแฟรนไชส์หนังเรื่อง Jurassic

ถือเป็นการยกระดับ วงการหนังไทยไปอีกขั้น เพื่อความสมจริง โดยได้รับการดีไซน์จาก นักเทคนิคพิเศษชื่อดัง จากฮอลลิวู้ด  จอร์ดู เชลล์”  ที่เคยฝากผลงานไว้ใน Avatar หรือ Hellboy  ด้วย และหลายๆฉากทำดี ถ้าดูไปเผินๆ มีความเทียบเคียง ได้กับหนังสัตว์ประหลาดของญี่ปุ่นเลย

ภาพยนตร์เรื่องนี้มีจุดเด่นที่ทุกคนมองไม่เห็น

และเรื่องยังได้มีความสนใจอีกอย่างคือการที่แฝงคติสอนใจที่คมคาย ตัวหนังทิ้งคำคมไว้ว่า จริงๆแล้ว คนกับสัตว์เดียรัจฉาน อาจไม่ได้แตกต่างกันเลยหาก มนุษย์ไร้ซึ่ง สติ เพราะไม่ว่าจะคน หรือ สัตว์ ต้องการทำทุกอย่าง เพื่อความอยู่รอด ดำรงเผ่าพันธุ์ รักษาชีวิตครอบครัว

รวมนักแสดงมากฝีมืออย่างคับคั่ง มาแสดงเรื่องนี้นักแสดงมากฝีมือเยอะมากมาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวนำโดย ตุ้ย-ธีรภัทร์ สัจจกุล , ออม-สุชาร์ มานะยิ่ง , อาร์ตี้-ธนฉัตร ดุลยฉัตร , ปู-วิทยา ปานศรีงาม  และ วันใหม่ ฉัตรบริรักษ์ ที่มาร่วมถ่ายทอด ช่วยทำให้เรื่องราวแปลกประหลาดนี้ มีความน่าสนใจได้ตลอดเรื่อง

สุดท้ายฉันอยากจะบอกว่าอยากให้คนไทย ไปสนับสนุน ดูหนังเรื่องนี้กันเยอะๆ เพราะใช้เวลาสร้าง ถึง 5 ปี   ทุนสร้างถึง 80 ล้านบาท ร่วมทุนระหว่าง 2 ประเทศ ไทย – จีน  มี  2 เวอร์ชั่นทั้งไทย และ จีน แต่บอกหน่อยว่า เนื้อหาสองภาค จะต่างกันเล็กน้อยด้วยนะ สร้างบรรทัดฐานใหม่ของหนังไทย

ที่แม้สุดท้ายคุณดูแล้ว ชอบไม่ชอบ ไม่เป็นไร ก็สามารถดูก่อน แล้วออกมา ติชม วิจารณ์กันอย่างสร้างสรรค์ได้  เพื่อการพัฒนาของวงการหนังไทยต่อไป เพราะหนังจะสนุกหรือไม่สนุก สุดท้ายมันอยู่ที่ความคิดของแต่ละคน และ ประสบการณ์ ยังไงฉันก็ยังจะบอกว่าห้ามพลาดที่จะรับชมผลงานภาพยนตร์ของไทย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *