ฉันจะมา รีวิวThe Ritual ซึ่งเรื่องนี้เป็นหนังแนวสยองบนเน็ตฟลิกซ์อีกเรื่อง ที่ต้องบอกว่าน่าสนใจเกินคาด ด้วยความที่เนื้อเรื่องและโปรดักชั่น แม้จะไม่มีดาราดังมาจูงใจเลยสักนิด ก็ตาม แต่ก็ทำให้จดจ่อกับหนังได้อย่างน่าประหลาดใจ หนังยังได้รับรางวัลด้านเอฟเฟกต์ยอดเยี่ยมจากเวที British Independent Film Award 2017 อีกด้วย จึงเป็นหนังสยองสไตล์อินดี้ที่ดูดีทีเดียว
ซึ่งเรื่องนี้จะพยายามทำให้เราเห็นภาพยามเมื่อต้องไปเดินป่าตามเส้นทางธรรมชาติ เคยสงสัยไหมว่าถ้าหากเดินออกนอกเส้นทางลึกเข้าไปในผืนป่าอันกว้างใหญ่ ในนั้นมีบางสิ่งรอคอยอยู่หรือเปล่า บางที่ฉันก็แอบคิดอะไรแบบนี้อยู่เหมือนกันนะ 555
และถ้าหากใครชอบการเดินป่าและเดินเตร่ออกนอกเส้นทาง ปลอดภัย ที่เจ้าหน้าที่ได้กำหนดเอาไว้ ลองมารับชมหนังสยองขวัญ เรื่องนี้กันก่อนดีกว่า เชื่อว่าอาจทำให้บางคนเปลี่ยนความคิดของตัวเองกันเลยทีเดียว และเราลองมาลุ้นไปพร้อมกันด้วยว่าเรื่องนี้จะออกมาน่ากลัวขนาดไหน สามารถเข้ารับชมหนังไม่โฆษณาได้แบบฟรี ๆ ที่ ดูหนังออนไลน์
รีวิวThe Ritual หนัง สัมผัสอาฆาต วิญญาณสยอง เรื่องราวของป่าหลอนชวนระทึก
รีวิวThe Ritual สร้างจากนิยาย
อย่างแรกเลยที่ฉันรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือ เรื่องนี้ The Ritual ชอบใช้ฉากหลังของประเทศสวีเดนได้รสชาติแปลกใหม่ดี โดยเฉพาะป่าสนทึบที่เหมือนจะโปร่งแต่ก็อึดอัดแอบหลอน ๆ และระหว่างต้นก็มีช่องว่างให้รู้สึกมีบางอย่างซ่อนเร้น
และแอบเฝ้ามองเราอยู่ตลอดด้วย และไอ้การถ่ายป่าได้สวยสยองนี่เองล่ะ ที่เป็นตัวเอกสำคัญให้ผู้กำกับ เดวิด บรักเนอร์ ที่เคยผ่านงานสยองในตอน Amateur Night ของหนังอย่าง V H S ในปี 2012 มาใช้สร้างบรรยากาศสยองให้มีความน่าจดจำมาก ๆ อีกด้วยล่ะ
หนังสร้างจากนิยายของ โจ บาร์ตัน และ อดัม เนวิลล์ เล่าเรื่องของเพื่อนชายหนุ่มใหญ่ 4 คนที่นัดกันไปเดินป่าเพื่อผ่อนคลาย และพักใจหลังการจากไปของเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่ม แต่ทริปท่องเที่ยวก็กลายเป็นความสยองทันที เมื่อพวกเขาเปลี่ยนแผนเดินลัดเข้าป่าแทนที่จะเดินอ้อมตามทางที่แผนที่บอกไว้
และในอีก 6 เดือนต่อมาเพื่อนทั้ง 4 คนที่เหลือจึงตัดสินใจเดินทางไปเที่ยวพักแรมที่ป่าชายแดนสวีเดนและนอรเวย์ เพื่อไปทำพิธีกรรมไว้อาลัยเพื่อนที่จากไป ระหว่างจะเดินทางกลับ เพื่อนคนหนึ่งเกิดอาการขาแพลง ต้องได้รับการรักษาด่วน แต่เส้นทางที่จะเดินไปหาชุมชนนั้นมันคือเส้นทางที่ไกล คนหนึ่งเลยแนะนำให้เดินไปทางลัดคือเดินเข้าป่า สามารถเข้ารับชมเรื่องนี้ได้แบบไม่เสียเงินได้ที่ ดูThe Ritual
ป่าเต็มไปด้วยเรื่องราวลี้ลับ ความไม่น่าไว้วางใจและความน่ากลัวมากมาย ระหว่างทางได้เจอกับการขีดเขียนสัญลักษณ์บนต้นไม้เต็มไปหมด เจอซากศพของหมีตัวใหญ่ถูกควักท้องแขวนเอาไว้บนต้นไม้ด้วย พวกเขาทั้งสี่คนไม่รู้ว่า ทั้งหมดนั้นเกิดจากฝีมือของใคร
ในคืนนั้นเพื่อนทั้ง 4 คนตัดสินใจนอนพักในกระท่อมร้างกลางป่า แต่หารู้ไม่ว่าในกระท่อมนั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวอาถรรพ์ การกระทำพิธีบูชาหุ่นจำลองที่พวกเขาไม่รู้ว่าคืออะไร แล้วทั้ง 4 คนก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
พอตื่นเช้ามาทั้ง 4 คนมีอาการแปลก ๆ เช่นบางคนอยู่ในร่างเปลือยเปล่า บางคนสวมบูชาหุ่นฟางจำลอง บางคนตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว บางคนมีรอยกรงเล็บขนาดใหญ่บนหน้าอก ที่เลวร้ายที่สุด กระท่อมร้างกลางป่านี้นำพวกเขาทั้ง 4 คนลงลึกเข้าไปในความทรงจำอันโหดร้ายในอดีตของตัวเอง
พวกเขาออกจากกระท่อมร้างแห่งนั้น แล้วรีบเดินมุ่งหน้าเข้าไปในป่า จากนั้นก็เริ่มทะเลาะกัน ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจผิดพลาดที่เดินเข้ามาในป่า การตัดสินใจผิดพลาดที่นอนในกระท่อมร้าง
และโดยเฉพาะการโทษเพื่อนคนหนึ่งที่ปล่อยให้ เพื่อนต้องตายในร้านมินิมาร์ทโดยไม่ได้ช่วยอะไรเลย จนกลายเป็นสาเหตุที่ทั้ง 4 คนต้องเดินทางมาพบกับสิ่งร้าย ๆ นี้ จากนั้นทุกค่ำคืนก็จะมีคนที่ต้องตายไปทีละคน
และที่นั่นพวกเขาก็พบซากสัตว์ที่ตายอย่างทารุณปักไว้บนยอดไม้ ทั้งสัญลักษณ์แปลก ๆ ตามต้นไม้ที่สื่อถึงพิธีกรรมของพวกแม่มดตามชื่อเรื่องด้วย และนั่นคงไม่สำคัญเท่าเสียงร้องประหลาดจากแมกไม้ลึกที่ชวนฉงนว่าคือสิ่งใด สามารถติดตามการรีวิวของเราเรื่องอื่น ๆ ได้ที่ รีวิวหนังดัง
ความน่าสยดสยอง
เรื่องนี้ The Ritual เรื่องย่อ ก็สยดสยองสุด ๆ และคงเป็นผลข้างเคียงที่ส่งผลโดยตรงต่อเพื่อนแต่ละคนให้มีพฤติกรรมแปลกประหลาด รวมถึงบาปกรรมในอดีตที่ปรากฏรูปกายมาหลอกหลอนแต่ละคนด้วย แล้วนอกจากบรรยากาศที่สวยปนความรัหวาดระแวงแล้ว
หนังยังค่อย ๆ เผยปริศนาอย่างลงตัว และการเปิดตัวของต้นเสียงปริศนา ในช่วงท้ายของหนังก็สมกับรางวัลเอฟเฟกต์ยอดเยี่ยมดังร่ำลือจริง ๆ แปลกและดูสมจริงมาก ๆ โดยรวมนี่เป็นหนังที่ด้านอารมณ์อาจชวนให้นึกถึงหนังสยองในป่าหลาย ๆ แต่ด้วยฉากหลังที่แปลกตาของสวีเดน เอาเข้าจริง ๆ
หนังถ่ายในโรมาเนียอยู่เหมือนกันนะที่ฉันรู้สึกได้ และการดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งปีศาจและป่า ก็ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ควรปักหมุดไว้ดูกับเพื่อน ๆ ยามดึกเลยทีเดียว
หนังสยองขวัญเรื่องนี้ น่าจะทำให้คนดูรู้สึกได้ สัมผัสอาฆาต วิญญาณสยอง ซึ่งจัดว่าเป็นหนังสยองขวัญที่ทำออกมาได้ดีมาก มันเต็มไปด้วยปริศนา ความสงสัยและความหวาดกลัวที่กระตุ้นต่อมจินตนาการให้น่าสะพรึงได้อย่างยอดเยี่ยม
และนอกจากนี้ สัมผัสอาฆาต วิญญาณสยอง เรื่องราวยังเข้มข้นขึ้นอย่างมากจากการสร้างตัวละครเอกที่มีความ ขัดแย้งภายในจิตใจของตัวเองสูง จนทำให้รู้สึกอยากจะร่วมเดินทางไปด้วย จนกระทั่งถึงจุดจบของเรื่องราวทั้งหมดและให้เราได้เห็นสัตว์ประหลาดในหนังสยองขวัญ ที่เรื่องนี้เองก็ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง
ส่วนเนื้อหาเองก็ไม่ได้ใช้ความตกใจแบบฉาบฉวย ผู้กำกับฉลาดมากในการค่อย ๆ สร้างแรงกดดันให้กับคนดู จนเกิดความตึงเครียด พร้อมกับแก่นของเนื้อเรื่องที่จบลงด้วยสิ่งที่มากกว่าเพียงแค่คำว่าหวาดกลัวเท่านั้น
ในส่วนของจุดด้อย หนังสยองขวัญเรื่องนี้ อาจไม่ใช้หนังสยองขวัญแบบคนที่อยากเสพความหวาดกลัวแบบสุดขั้ว กับบรรยากาศของป่าอันน่าสยองที่ทำได้ดีมากจนเกินไปเสียจนเด่นกว่านักแสดงเสียอีก
ถึงแม้ชื่อเรื่องนี้ สัมผัสอาฆาตวิญญาณสยอง โดยเฉพาะภาษาไทย เมื่ออ่านแล้วคิดว่าน่าจะเป็นหนังผีสยองขวัญ แต่แท้จริงแล้วความสยองขวัญนั้นไม่ได้เกิดจากผีแต่อย่างใด แต่เกิดจากความกลัวของคนทั้ง 4 คนในขณะอยู่ในป่า
แต่ก็ไม่ว่าจะเป็นเสียงแปลก ๆ สิ่งที่พบเห็นที่ไม่รู้ความหมาย และในความน่ากลัวที่สุดคือ เรื่องน่ากลัวจะขึ้นเกิดขึ้นทุกค่ำคืนในช่วงเวลาที่ทุกคนนอนหลับ ซึ่งหนังสามารถถ่ายทอดความกลัวเหล่านั้นมาสู่คนดูได้อยู่หมัด เราดูแล้วเราก็กลัวตามคนทั้ง 4 คนไปด้วย
ประวัติของผู้เขียน
เรามาพูดในส่วนของหนังเรื่องนี้ รีวิวสัมผัสอาฆาตวิญญาณสยอง ที่ถูกดัดแปลงมาจากหนังสือนิยายชื่อดังที่เขียนโดย โจ บาร์ตัน และ อดัม เนวิลล์ นั่นเอง ซึ่งโลเคชั่นส่วนใหญ่ของหนังเรื่องนี้ก็จะใช้ฉากของป่าสนที่มีความสวยงามปนความอึดอัดของประเทศสวีเดนเกือบตลอดทั้งเรื่องเลย
ซึ่งเดิมทีถ้าเราได้ยินชื่อเรื่องภาษาไทยแล้ว เราอาจจะคิดว่ามันเป็นหนังผีสยดสยองอย่างแน่นอน แต่จริงๆแล้ว หนังเรื่องนี้มันเป็นเรื่องราวสยองขวัญที่เกิดขึ้นจากความกลัวภายในจิตใจของตัวละครหลักทั้ง 4 ตัวตอนที่อยู่ในป่าสนนั่นเอง อีกทั้งหนังเรื่องนี้ยังเล่นเรื่องราวเกี่ยวกับจิตวิทยาได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือมักจะเอาเรื่องราวอันเจ็บปวดในอดีตมาหลอกหลอนตลอดเวลาที่เรากลัวหรือตอนที่เราจิตใจอ่อนแอ
และแน่นอนว่าต้องมีคนสงสัยว่า โจ บาร์ตัน และ อดัม เนวิลล์ พวกเขาคือใครแน่นอน เดี๊ยวฉันจะบอกให้ฟัง เริ่มที่ อดัมเนวิลล์ หรือเรียกว่าอดัม LG Nevill เขียนสยองขวัญเหนือธรรมชาติที่รู้จักกันในหนังสือของเขาพิธีกรรม ก่อนที่จะเป็นนักเขียนเต็มเวลา เนวิลล์ทำงานเป็นบรรณาธิการ เขาชอบเขียนเรื่องสยองขวัญเหนือธรรมชาติ เป็นที่รู้จักจากหนังสือ The Ritual ก่อนที่จะมาเป็นนักเขียนเต็มเวลา เนวิลล์ทำงานเป็นบรรณาธิการ
หลังจากตีพิมพ์นวนิยายหลายเล่มผ่าน Pan Macmillan และ St. Martin’s เนวิลล์เลือกที่จะตีพิมพ์นวนิยายเรื่อง The Reddening ในปี 2019 ด้วยตัวเอง จากเหตุผลต่างๆ เนวิลล์ระบุว่าเหตุผลของเขามีทั้งเรื่องการเงินและความคิดสร้างสรรค์ เนื่องจากเขาต้องการอิสระมากขึ้นในการทำการตลาดและบรรจุหีบห่อผลงานของเขา นวนิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์ภายใต้สำนักพิมพ์ Ritual Limited ซึ่งเขาสร้างขึ้นในปี 2559
สัมผัสอาฆาต วิญญาณสยอง ผู้เขียน และคนต่อไป โจเซฟ แอนโทนี หรือ โจอี บาร์ตัน เขาเกิดเมื่อวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 1982 เป็นอดีตนักฟุตบอลชาวอังกฤษ เคยเล่นในพรีเมียร์ลีกกับแมนเชสเตอร์ซิตี และนิวคาสเซิลยูไนเต็ด รวมถึงเคยติดทีมชาติอังกฤษ ปัจจุบันเล่นเป็นผู้จัดการทีมให้กับบริสตอล โรเวอส์ ในอีเอฟแอลลีกทู
บาร์ตันเกิดในฮายตัน เมอร์ซีย์ไซด์ เติบโตในครอบครัวชนชั้นแรงงาน เขาเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี ในปี ค.ศ. 2002 หลังจากผ่านระบบเยาวชนของสโมสร เขาลงแข่งในฐานะทีมรุ่นใหญ่ โดยใน 5 ปีที่อยู่กับสโมสร ลงแข่ง 150 นัด เขาลงแข่ง
ซึ่งในฐานะนักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2007 อย่างไรก็ตามเขาได้รับคำวิจารณ์จากเพื่อนร่วมทีม ต่อมาเขาย้ายมาอยู่กับสโมสรฟุตบอลนิวแคสเซิลยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 5.8 ล้านปอนด์ ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2007
และในอาชีพนักฟุตบอลของเขาที่ผ่านมา ได้เกิดข้อพิพาทและปัญหาด้านวินัยอยู่หลายครั้งถูกตัดสินว่ามีความผิดในการใช้ความรุนแรง 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ค.ศ. 2008 เขาถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน จากเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายและทะเลาะวิวาท นอกร้านแม็กโดนัลด์ ในลิเวอร์พูลซิตีเซนเตอร์ ซึ่งบาร์ตันถูกจองจำอยู่นาน 77 วัน ก่อนที่จะถูกปล่อยตัวเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 2008
และเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2008 เขายังได้รับคำพิพากษารอการลงโทษ หลังจากเขายอมรับในเหตุทำร้ายร่างกาย อดีตเพื่อนร่วมทีม อุสมาน ดาโบ ในระหว่างการฝึกซ้อมเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 2007 เหตุการณ์นี้เป็นผลทำให้เขายุติอาชีพนักฟุตบอลกับแมนเชสเตอร์ซิตี ใน 3 วันหลังจากถูกปล่อยตัว เขาถูกปรับเงินโดยสมาคมฟุตบอลอังกฤษ จากการทำร้ายร่างกายดาโบ[
สัตว์ประหลาดของเรื่องคืออะไร
คือฉันสงสัยมากว่าสัตว์ประหลาดของเรื่องนี้ สัมผัสอาฆาต วิญญาณสยอง เรื่องย่อ คืออะไร ซึ่งฉันคิดว่าทุกคนก็น่าจะสงสัยเหมือนกัน 555 เลยอยากจะเขียนให้อ่าน ซึ่งสัตว์ประหลาดในเรื่องนี้มีชื่อว่า Moder หรือ โมเดอร์ เป็นชื่อที่มาจากภาษา นอร์ส ที่แปลว่า แม่ ตัวนี้มีเป็นสัตว์ประหลาดจากหนังสยองขวัญเรื่องนี้
ซึ่งในเรื่อง Moder เป็นสัตว์ประหลาดที่น่าขนลุก เพราะมีดีไซด์ที่สุดโต่ง โดยรูปลักษณ์ที่น่าเกลียดน่ากลัวของมันดูคล้ายกวางขนาดมหึมา มีร่างกายที่เต็มไปด้วยพืชที่ปกคลุม ส่วนหัวแทนที่ด้วยลำตัวท่อนบนของมนุษย์ที่มีแขนทั้งสองข้างยื่นออกมาเป็นเขากวาง มีแขนทั้งสองข้างยื่นออกมาจากคาง ตรงกลางคางเป็นช่องดำมืด และมีลูกตาดวงโตสีเหลืองอร่าม
ซึ่งตัวนี้ Moder นั้นเป็นยักษ์โยทันตระกูลหนึ่ง และด้วยที่เป็นลูกนอกสมรสของ เทพโลกิ จึงมีพลังพิเศษที่สามารถทำให้มันสามารถสร้างภาพมายาได้เช่นเดียวกันกับพระบิดาของมัน โดยในเรื่องจะเห็นว่ามันใช้พลังทำให้ตัวเอกสับสน
และตกอยู่ในวังวนที่มันสร้างขึ้น และมันสามารถทำให้สาวก หรือผู้ติดตามของมันเป็นอมตะไม่มีวันตายได้ แต่ร่างกายก็ยังเสื่อมโทรมตามกาลเวลา ทำให้ร่างกายต้องทุกข์ทรมานแม้ว่าจะยังไม่ตาย
ในส่วนจุดอ่อนของ Moder ก็คือมันมีกายเนื้อที่สามารถบาดเจ็บได้ และพ่ายแพ้ต่อผู้ที่สามารถเอาชนะความกลัวภายในจิตใจได้ ซึ่งรวมไปถึงไม่สามารถออกจากอาณาเขตป่าของมันได้ พูดง่าย ๆ ถ้าหากเราบังเอิญไปเจอกับเจ้า Moder ในป่าเข้าล่ะก็ ฉันขอแนะนำให้ทุกคนวิ่งออกจากป่าสุดชีวิตครับเพื่อให้พ้นจากอาณาเขตของมัน แล้วทุกคนจะรอดค่ะ 5555
ในตามตำนานหรือในภาพยนตร์ Moder คือ ลูกนอกสมรสของเทพโลกิ เป็นJötunn หรือ ยักษ์เทพของชาวสวีเดน ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีเลือดของยักษ์ที่เกี่ยวพันกับกับความลึกลับของป่า จึงทำให้ยักษ์ตนนี้มีฤิทธิแบบเดียวกับโลกิ บิดาของมัน คือสามารถสร้างภาพมายา หลอน ลวงตาให้บิดเบี้ยวได้
และModer มีถิ่นพำนัก อยู่ในเขตป่าทางตอนเหนือของสวีเดน และได้รับการยกย่องนับถือ จากลัทธิ ชนเผ่าโบราณในป่านั้น โดยมันมักจะคอยสอดส่อง สะกดรอย ติดตามนักท่องเที่ยวที่หลงเข้ามาในถิ่นป่าพำนักนี้
แล้วจะเลือกสาวกโดยการ ทำเครื่องหมาย บนหน้าอกจากคนที่มี อดีตอันทุกข์ ทรมาน มีบาดแผลทางใจ เจ็บปวดทางอารมณ์ เพื่อที่จะได้เสนอทางรอดและมอบชีวิตอันเป็นนิรันดร์ให้ โดยแลกกับการก้มหัวยอม เป็นสาวกที่เคารพเลื่อมใสบูชาในตัวมัน ดั่งเช่นคนในลัทธิที่อยู่ในป่า ที่ยังคงจมอยู่กับความเจ็บปวดในอดีต
แต่หากแม้ไม่ยอมบูชา มันก็จะมอบความตายให้ และหากใครก็ตามที่ไม่ถูกเลือก ไม่ถูกทำเครื่งอหมายบหน้าอก หรือขัดขวาง ก็จะถูกทรมาน จนตายแล้วจับแขวนบนต้นไม้ ให้ดูคล้่ายกับการถูกบวงสรวง
ถึงแม้ว่า Moder จะมอบความเป็นอมตะให้กับเหล่าสาวกได้ แต่ความอมตะดังกล่าวก็ไม่สามารถหยุดพวกเขาจากความแก่ชรา เห็นได้จากผู้อาวุโสของลัทธิที่มีสภาพไม่ต่างจากมัมมี่ที่ยังมีชีวิตอยู่
แต่ในทุกครั้งก่อนจะปรากฎตัว เหยื่อจะถูกแสดงให้เห็นว่ายังจมอยู่กับ ความรู้สึกผิด ในอดีต และเป็นคนที่แบกความรู้สึกผิดนั้นเอาไว้ วิธีเอาชนะมันคือ ต้องเผชิญหน้าสู้กับอดีตแล้วยอมรับมันให้ได้ ไม่ก้มหัวต่อความเจ็บปวด
และจะไม่ปล่อยให้อดีตนั้นตามหลอกหลอนอีก และมันนั้นจะเคลื่อนไหวได้รวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ ข้อจำกัด ที่เห็นก็คือ มันไม่สามารถออกจากขอบเขตของป่าสน สู่โลกภายนอกได้ ในฉบับหนังสือ อ้างอิงว่า ชื่อ Moder มาจาก motherใน ภาษาอังกฤษ หรือภาษานอร์สโบราณ โดยมีลักษณะเป็น หญิงชราผู้มีเท้าเป็นแพะ
สัมผัสอาฆาต วิญญาณสยอง สัตว์ประหลาด และนวนิยายของ Adam Nevill อธิบายว่า Moder เป็นสิ่งมีชีวิตที่เหมือนมนุษย์แพะตัวเมียที่มีคุณสมบัติของมนุษย์บางอย่าง จะเห็นได้ชัดว่า Moder เป็นผู้หญิง แพะยักษ์ ลูกผสมมนุษย์เพศหญิง และไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับโลกิ เลย ซึ่งแตกต่างอย่างมากกับภาพยนตร์ ที่ Moder เป็น ลูกสาวนอกสมรสของเทพโลกิ
ซึ่ง David Bruckner ได้สร้างภาพ ของ Moder ที่แตกต่างออกไป ให้ดูเป็นเอกลักษณ์และน่าสะพรึงกว่าในนิยายมาก โดยแนวคิดนี้มาจากการศึกษาลงไปในตำนานของเทพนอริส ที่กลุ่มยักษ์ Jötnar ต่าง ๆ มี รูปจำแลงในบางครั้งที่ถูกนำเสนอด้วยคุณลักษณะของมนุษย์และสัตว์ผสมกัน เป็นความลึกลับที่นำเสนอออกมาบนเงามืดดำ คลุมเครือไม่กระจ่างชัด
เป็นยังไงบ้างล่ะกับเจ้า Moder สัตว์ประหลาดที่มีศักดิ์เป็นถึงลูกของเทพ น่าขนลุกพอหรือยังครับ ถ้าหากว่ายังแล้วล่ะก็ ยังมีสัตว์ประหลาดตัวอื่นอีกที่น่าขนลุกขนพองรออยู่เพียบ ถ้าทุกคนพร้อมแล้วล่ะก็มาพบกับสถัตว์ประหลาดตัวต่อไปได้เลยนะ
รีวิวThe Ritual เป็นหนังสยองขวัญที่ดี
ยังไงก็ตามก็ถือได้ว่าเรื่องนี้ สัมผัสอาฆาต วิญญาณสยอง สปอย เป็นหนังที่ดีเรื่องหนึ่ง โดยเฉพาะในส่วนของบรรยากาศสุดหลอนแห่งผืนป่าที่บอกเลยว่าทำให้ขนลุกหลายต่อหลานครั้ง ทำให้หนังเรื่องนี้ เป็นหนึ่งในผลงานที่อยากให้แฟนหนังสยองขวัญลองเปิดดูสักครั้ง และหลังจากที่ดูจนจบแล้วอาจทำให้หลายคนอาจไม่อยากไปเที่ยวป่ากันอีกนานเลยทีเดียว
ซึ่งโดยทั่วไปแล้วหนังผีสยองขวัญแนวจิตวิทยา มักใช้ประเด็นเรื่องราวความทรงจำอันเจ็บปวดในอดีต กลับมาหลอกหลอนตัวละครสำคัญ ในยามที่เขามีจิตใจอ่อนแอหรือตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจ
ซึ่งหนังเรื่องนี้ได้นำเสนอสิ่งนี้ออกมาได้ดีพอสมควร หนังทำให้เรางุนงงสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับ 4 คนที่อยู่ในป่า สงสัยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นจริงหรือเป็นเพียงจินตนาการ หรือเกิดจากความฝันกันแน่ ไอ้ความคลุมเครือทั้งหมดนั่นแหละคือเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้อย่างแท้จริง
และหนังแสดงเรื่องราวคู่ขนานระหว่างการหลอกหลอนที่เกิดขึ้นควบคู่กันระหว่างสิ่งอาถรรพ์เหนือธรรมชาติ และเรื่องราวเลวร้ายในความทรงจำของตัวละครได้ออกมาอย่างดี มีมุมมองที่น่าสนใจ ราวกับผู้กำกับต้องการแสดงให้เห็นว่า สิ่งเลวร้ายที่ค้างคาใจในอดีต มันก็คือการที่เรายังหลงอยู่ในความทรงจำของเราเองนั่นแหละ
และหาทางสลัดความทรงจำอันเลวร้ายนั้นออกไปไม่ได้สักที ความทรงจำนั้นมันยังมืดมนรกชัฎ ไม่ต่างกับการที่เราเดินหลงเข้าไปในป่า ที่มีแต่เรื่องราวอันลี้ลับไม่อาจหาทางออกได้ แต่เมื่อใดเราปล่อยวางกับความทรงจำอันเลวร้ายนั้น เราก็หาทางออกจากป่าได้เช่นกัน
หนังเรื่องนี้สอดแทรกเรื่องราวทางคติชนวิทยาไว้อย่างเต็มเปรี่ยม โดยเฉพาะชื่อเรื่องคือ The Ritual หมายถึงพิธีกรรม ในเรื่องนี้ เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมทางศาสนาโบราณ พฤติกรรมของศาสนาชาวพื้นเมือง พิธีกรรมที่เกี่ยวกับภูตผีปีศาจ
ที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับเทพของชาวนอร์เวย์ เรื่องราวเกี่ยวกับคติความเชื่อของผู้คนยุคเก่ากับการบูชาสิ่งเหนือธรรมชาติ พลังอำนาจที่คุ้มครองป่า การบูชาสังเวยสิ่งมีชีวิตให้กับสิ่งเหนือธรรมชาติเพื่อความอุดมสมบูรณ์
ซึ่งหากใคร ชอบลีลาของหนังที่มีแนวทางเป็นหนังสยองขวัญจิตวิทยา ที่กำกึ่งว่าอะไรกินอะไรเท็จ หรือใครที่ชอบเรื่องราวทางคติชนวิทยาเหล่านี้อยู่เป็นทุน เชื่อว่าดูหนังเรื่องนี้อย่างสนุกสนาน แต่หากใครต้องการเห็นผีตัวเป็น ๆ ออกมาหลอกหลอนแล้วตั้งจังหวะความตกใจตลอดทั้งเรื่อง ฉันก็เชื่อว่าน่าจะผิดหวังจากการดูหนังเรื่องนี้นะ เพราะมันทำให้ฉันไม่ได้นอน 555
บรรยากาศของป่าที่ชวนขนหัวลุก
เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ The Ritual สปอย สยองขวัญที่ได้ใช้บรรยากาศของป่ามาเป็นส่วนช่วยในการเล่าเรื่อง ซึ่งจุดเด่นของเรื่องก็คือตรงนี้แหละ เพราะว่าตัวเรื่องสามารถทำให้ป่าโปร่ง ๆ ดูลึกลับ และ ไม่น่าไว้ใจ ขึ้นมาได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว แต่ถึงแบบนั้นเราก็ยังสามารถเสพความงดงามของธรรมชาติผ่านมุมกล้องสวย ๆ ได้เช่นกัน
แต่ฉันก็แอบรู้สึกน่าเสียดายนิดหน่อยที่เรื่องกลับใช้บรรยากาศของป่า และ ความสติแตก และ ความรู้สึกผิดทางจิตใจของตัวละครต่าง ๆ ได้ไม่สุด จนทำให้ตอนท้าย ๆ ของเรื่อง หนังได้เปลี่ยนโทนเรื่องของตัวเองจากการเป็นเรื่องราวลึกลับสยองขวัญ กลายไปเป็นหนังต่อสู้กับสัตว์ประหลาดแทนซะอย่างงั้น แต่ถึงจะเปลี่ยนโทนไปความลุ้นระทึกที่มันควรจะเป็นในหนังแนวนี้ก็ยังคงมีอยู่อย่างครบถ้วน
และเรื่องนี้สามารถทำให้เรารู้สึกหมดห่วง เพราะว่าเจ้าสัตว์ประหลาดในเรื่องนั้นสามารถทำออกมาสมจริง และ ยังดูหลอนใช้ได้เลยทีเดียว ซึ่งเพราะความที่สมจริงของเอ็ฟเฟ็คนี้แหละที่ทำให้หนังเรื่องคว้ารางวัลเอฟเฟกต์ยอดเยี่ยม
และที่ฉันสัมผัสได้ว่าเรื่องนี้พยายามทำให้เรารู้สึกต้องคอยลุ้นว่าไอตัวที่พยายามฆ่าพระเอกเป็นตัวอะไร และบรรยากาศในป่าสเปนที่สวยงามมาก คือป่าในหนังมันสวยจริง ๆ ฉันชอบมาก แต่ถ้าคุณจะดูเรื่องนี้ต้องรู้เนื้อเรื่องให้ได้น้อยที่สุด
มีสิ่งที่ฉันอยากจะเตือนก็คือ ห้ามดูภาพในกูเกิลเด็ดขาด เพราะมันเป็นการสปอยเต็ม ๆ เลย 555 และข้อเสียคือนักแสดงที่ยังแสดงไม่ค่อยสุด แต่ถือว่าอยู่ในระดับดี ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความน่าค้นหาอยู่ตลอดทั้งเรื่อง และฉากตุ้งแช่ก็พอมีอยู่บ้างแต่ไม่ได้เยอะแบบหนังผี