รีวิวทฤษฎีสีฟ้า อนิเมะที่ถูกสร้างจากหนังสือ ดูแค่ตัวอย่างก็รู้สึกถึงเรื่องราวที่สดใสและน่ารักมาก ๆ มีความโลกสวยแต่ก็อยู่ในความเป็นจริง เป็นเรื่องราวของหญิงสาวมหาลัยปี 1 ที่จับพลัดจับผลูได้ไปเข้าชมรมการบิน
และเธอต้องเผชิญกับความกลัวโดยการต้องขึ้นบินครั้งแรกนั้นเอง เรามาดูกันว่าเรื่องนี้จะสร้างเรื่องราวออกมาได้น่าสนใจมากแค่ไหน ท่านสามารถเข้ารับชมหนังฟรี ไม่มีสะดุด ภาพคมชัด ไม่เสียค่าใช้จ่าย รับชมที่ ดูหนังออนไลน์
รีวิวทฤษฎีสีฟ้า อนิเมะ ที่สร้างจากหนังสือการ์ตูน แนวการผจญภัยบนท้องฟ้า
รีวิวทฤษฎีสีฟ้า จากมังงะ
เรื่องนี้ รีวิวBlue thermal ก็คงเป็นงานที่ต้องตาต้องใจใครหลาย ๆ คนตั้งแต่แรกเห็นสำหรับภาพยนตร์อนิเมชั่นที่ดูแค่ตัวอย่างหรือโปรเตอร์ก็สัมผัสถึงความน่ารักสดใสได้เลย ซึ่งหลังจากที่ได้ดูตัวอย่างก็ต้องยอมรับว่าน่าสนใจไม่น้อย
กับการนำเสนอเรื่องราวของการบินบนฟ้าด้วยเครื่องร่อน ที่สัมผัสได้ถึงความสุขและแรงบันดาลใจที่ตัวภาพยนตร์ต้องการจะสื่อออกมา จาก Telecom Animation Film เป็นสตูดิโอแอนิเมชันของญี่ปุ่นที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2518 สามารถติดตามการรีวิวของเราได้เลยที่ รีวิวหนังทั้งหมด การ์ตูนครบทุกแนว ไม่ว่าจะเป็นแนว ตลก รัก ดราม่า ผจญภัย แฟนตาซี อนิเมะ อ่านได้ฟรี
และปัจจุบันอยู่ในเครือของ TMS Entertainment บริษัทผลิตซีรีส์โทรทัศน์ ภาพยนตร์ และวิดีโอแอนิเมชันต้นฉบับ OVA สตูดิโอที่อยู่เบื้องหลังงานจากสตูดิโอชื่อดังอย่าง Ghibli Studio
และหลายเรื่อง ทั้ง Spirited Away และ The Cat Returns และ The Wind Rises รวมถึงภาพยนตร์โคนันเดอะมูฟวี่อีกหลายภาค ซึ่งคราวนี้ Blue Thermal จะเป็นผลงานการผลิตด้วยตัวเองเป็นเรื่องแรกของสตูดิโอ
และเรื่องนี้เป็นผลงานมังงะของ อาจารย์ Ozawa Kana ด้วย หลาย ๆ ท่านอาจจะยังรู้จักท่านนี้ไม่ดีพอ ฉันถือโอกาสนี้แนะนำท่านเป็นเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับเหล่าสแฟนอนิเมะ
ภาพยนตร์อนิเมะ Blue thermal ที่ดัดแปลงโดย Telecom Animation Film เปิดฉายในญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2565 มาซากิ ทาจิบานะ เป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ รวมถึงเขียนบทภาพยนตร์ร่วมกับนัตสึโกะ ทากาฮาชิ ออกแบบตัวละครโดย Miho Tanino
ในส่วนดนตรีประกอบโดย Shōgo Kaida วงเปียโนร็อคสมาชิกสี่คน SHE’S แสดงเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Blue Thermal และเพลงประกอบ Beautiful Bird ระหว่างการอภิปรายของ Anime NYC นั้น Eleven Arts ได้ให้ลิขสิทธิ์ภาพยนตร์เรื่องนี้สำหรับการเผยแพร่ในอเมริกาเหนือ
ตัวละครหลักของเรื่องนี้
ตัวละครของเรื่องนี้ Blue thermal ตัวละคร บอกได้เลยว่าน่ารักแถมทุกตัวเลย แถมยังได้นักพากย์ที่เหมาะกับบุคคลิกของตัวละครของเรื่องนี้มาก ถือได้ว่าทางทีมงานของเรื่องนี้เลือกเหล่าทีมงานพากย์เสียงของเรื่องนี้ได้ดีมาก ๆ
ตัวละครแรก คือ Tsuru Tamaki พากย์โดย Hotta Mayu ความเป็นมาของนักพากย์ เกิดเมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2541 ที่จังหวัดชิงะ เป็นนักแสดงชาวญี่ปุ่น เธอได้รับบทนำในภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันปี 2022 และดัดแปลงเป็นภาพยนตร์เรื่อง Welcome to the Occult Forest
และพากย์เสียงบทนำของทามากิ สึรุในภาพยนตร์ ทฤษฎีสีฟ้า มังงะ แอนิเมชั่นเรื่อง Blue Thermal ในปี 2022 บทบาทสนับสนุนของเธอ ได้แก่ Ai Hayasaka ในภาพยนตร์เรื่อง Kaguya-sama: Love Is War ในปี 2019 และ Hina ในละครไทกะของ NHK ในปี 2022 เรื่อง The 13 Lords of the Shogun
ในจังหวัดชิงะ หลังจากไปโตเกียวเพื่อเข้าร่วมการออดิชั่นกลุ่มสำหรับบทนำในละครเรื่อง Solomon’s Perjury แต่ไม่สามารถชนะบทนี้ได้ เธอเข้ารับการฝึกการแสดงเพิ่มเติมที่สตูดิโอ Toei Company
ในโตเกียว จากนั้นในปี 2014 เธอก็เข้าร่วมในกิจกรรมออดิชั่นอีกครั้ง จัดขึ้นโดยหน่วยงาน Amuse ซึ่งได้รับรางวัลจากสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม Wowow
ตัวละครที่สอง Kuramochi Jun พากย์โดย Nobunaga Shimazaki ความเป็นมาของนักพากย์ เกิด 6 ธันวาคม พ.ศ. 2531 เป็นนักพากย์ชาวญี่ปุ่นสังกัด Aoni Productions
เขาได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากงาน Seiyu Awards ครั้งที่ 7 และรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากงาน Seiyu Awards ครั้งที่ 15 และก็เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2566 ชิมาซากิได้ประกาศทาง Twitter ว่าเขาได้แต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ใช่คนดัง
ทฤษฎีสีฟ้า ตัวละคร ตัวละครที่สาม Sorachi Daisuke พากย์โดย Enoki Junya ความเป็นมาของนักพากย์ เกิดเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2531 เป็นนักพากย์ชาวญี่ปุ่นสังกัด Atomic Monkey
เอโนกิเกิดที่โตเกียว เขาเริ่มสนใจการแสดงในขณะที่อยู่ในวิทยาลัย หลังจากดู Gurren Lagann เขาก็กลายเป็นนักพากย์ เขาเป็นสมาชิกของคณะผู้สำเร็จการศึกษาระดับที่สามของ Atomic Monkey Voice Actor & Acting Laboratory
เป็นลูกพี่ลูกน้องของเขาคือ Chika Anzai เขาเป็นนักพากย์เสียงพากย์ภาษาญี่ปุ่นของทอม ฮอลแลนด์ ซึ่งเป็นที่รู้จักจากบทบาทของเขาใน Marvel Cinematic Universe ในฐานะสไปเดอร์แมน
เรื่องย่อของเรื่องนี้
ฉัยขอต่อที่เรื่องราวของเรื่องนี้ ทฤษฎีสีฟ้า เรื่องย่อ โดยหนังว่าด้วยเรื่องราวของหญิงสาวมหาลัยปี 1 ที่จับพลัดจับผลูได้ไปเข้าชมรมการบิน โดยหลังจากที่เข้าชมรมและเธอได้ขึ้นบินครั้งแรก เธอก็หลงรักท้องฟ้า
และการบินจนทำให้เธออยากจะทำมันต่อไปเพื่อความฝันและคนรอบข้างที่รักและห่วงใย หนังก็ถือว่ามาแบบพล็อตง่าย ๆ ทั่วไป ไม่ได้หวือหวาซับซ้อน แต่เนื้อในของความเรียบง่าย
ทฤษฎีสีฟ้า พากย์ไทย และความชีวิตชีวาเหล่านั้นก็กลับถ่ายทอดได้มีสีสันความร่าเริง ชอบช่วงแรกที่มันถ่ายทอดชีวิตเด็กมหาลัยได้ชวนสะท้อนภาพของผู้คนที่เข้ามาในโลกมหาลัยใหม่ ๆ ได้ดีและมีสีสัน
ทาง สึรุ ทามากิ เด็กสาวที่หัวใจโลดเต้นกับชีวิตมหาวิทยาลัยว่า อยากจะมีความรักอันสดใส แต่เมื่อเธอตกหลุมรัก ท้องฟ้า ชีวิตก็กลับพลิกผันครั้งใหญ่ โผบินไปบนท้องฟ้ากว้างเพื่อตามหา สายลมแห่งความสุข
และสิ่งสำคัญที่พบที่ปลายทางนั้นก็คือ สึรุ ทามากิ ผู้ทุ่มเทเวลาให้กับวอลเลย์บอลมาตลอดสมัยมัธยมปลาย ได้ย้ายจากนางาซากิมาโตเกียวด้วยความหลงใหลใน ชีวิตในมหาวิทยาลัยธรรมดา ที่จะได้สนุกกับกิจกรรมชมรมและการมีความรัก
Blue thermal เรื่องย่อ แต่เธอดันทำเครื่องร่อนเสียหายจากอุบัติเหตุบางอย่างตั้งแต่เพิ่งเปิดภาคเรียน จึงต้องมาเป็นเบ๊ให้กับ ชมรมกีฬาการบิน เพื่อชดใช้ค่าเสียหายแทน เธอไม่พอใจกับสภาพแวดล้อมที่ต่างจากชีวิตมหาวิทยาลัยที่วาดฝันไว้
ทว่า ตั้งแต่วินาทีที่ได้บินทะยานขึ้นสู่ ท้องฟ้า ด้วยเครื่องร่อนที่คุราโมจิ ประธานชมรมเป็นคนบังคับ เธอก็หลงใหลในความงดงามนั้นที่แผ่กว้างเต็มสองตา
เรื่องราวปมของตัวละคร
ในครึ่งแรกของหนัง Blue thermal ผู้กำกับ มากที่สามารถเล่าเรื่องราวปมตัวละครให้ผูกเข้ากับเรื่องราวได้น่าสนใจ ทั้งเรื่องราวของความเปราะบางของชีวิตที่เรายืนหยัด การค้นพบความฝันและอยากจะทำในสิ่งที่รัก รวมทั้งมิตรภาพ ครอบครัว
และความห่วงใยจากคนรอบข้าง ที่ผู้คนและสิ่งต่าง ๆ คอยเติมเต็มให้เป็นแรงผลัก แรงใจต่อความฝันให้พุ่งข้างหน้าได้ ซึ่งหนังก็เล่าออกมาได้อย่างน่ารัก อบอุ่น งดงามและชวนประทับใจอยู่ไม่น้อย ผ่านความสัมพันธ์ตัวละครต่าง ๆ เต็มด้วยความมีชีวิตชีวาและสะท้อนหัวจิตหัวใจผู้คนหลายคน
Blue thermal มังงะ แม้ว่าอาจจะเสียดายครึ่งหลังที่ดูเล่าออกมาเร็วและง่ายดายไป ส่วนตัวละครหลายคนก็อาจจะยังไม่ได้รับการสำรวจให้ลงลึกดูมีมิติมากกว่านี้ ซึ่งยังมีหลายอย่างที่รอให้เล่าและเข้าถึงหัวใจของมัน
แต่บางคาแรกเตอร์ก็ถูกอย่างเบาบาง อีกทั้งบทสรุปที่ค่อนข้างเร่งรัดจนขาดอารมณ์บางอย่างในตัวละครไปบ้าง แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังทำหน้าที่เล่าประเด็นต่าง ๆ ได้ครบอยู่ ชอบนิสัยความน่ารักของตัวละครมาก ๆ ที่บางคนอาจมีนิสัยต่างคน แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ยังคอยเยียวยาใจเราอยู่
และอีกอย่างคือการนำเรื่องราวของชมรมการบินที่เกี่ยวกับเครื่องร่อนมาผูกเข้ากับหนัง ทฤษฎีสีฟ้า ผู้กำกับ ได้ลงตัว ซึ่งก็ให้เห็นถึงมุมของเด็กมหาลัยในญี่ปุ่นที่มีความจริงจังในช่วงเวลาของชีวิตมหาลัยที่กลายเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญอย่างมาก
อีกทั้งมุมของการบินและเครื่องบินที่มีเทคนิคและเบื้องลึกที่ไม่เคยได้รู้นัก ส่วนดนตรีของหนังก็กลมกล่อมลงตัว งานภาพก็ทั้งงดงามมาก ๆ ท้องฟ้าสีครามที่อบอุ่นและปลอบประโลมหัวใจตัวละครในจอและคนดูอย่างเราได้เป็นอย่างดี
จนราวกับว่าแม้ชีวิตจะมีเรื่องน่าเศร้าอยู่บ้าง แต่ก็ยังคงมีสิ่งที่งดงามอยู่ในรอบตัว ผู้คนที่ดีต่อเราที่ให้กำลังใจซึงกันและกัน และท้องฟ้าแจ่มใสที่ยังคงมอบพลังดีๆให้เราในชีวิตเช่นกัน
รีวิวทฤษฎีสีฟ้า โทนเรื่องนี้ออกมาแนวสดใส
และฉันชอบมาก ๆ ก็คือโทนเรื่องก็เป็นเหมือนการ์ตูนวัยรุ่นกีฬาทั่วไป เพียงแต่เปลี่ยนจากกีฬาปกติกลายมาเป็นเครื่องร่อน ซึ่งตัวหนังจะค่อย ๆ อธิบายถึงกฎกติกาการแข่งขันจนเราเข้าใจได้ไม่ยาก
ในขณะเดียวกันก็จะเล่าเรื่องราวของตัวละครในเรื่อง ทฤษฎีสีฟ้า สปอย ซึ่งจะมีเน้นไปที่สองคน ก็คือ ซึรุทามะ ตัวเอกที่จะมีภูมิหลังเกี่ยวกับชีวิตวัยรุ่นสมัยมัธยม และครอบครัวที่มีปัญหาจนไม่ลงรอยกับพี่สาว
และอีกด้านก็จะเป็นเรื่องราวของรุ่นพี่คุราโมจิ Ace ของชมรมที่ดูเผินๆ เป็นเหมือนรุ่นพี่อารมณ์ดี ชิลล์ ๆ แต่จริงๆ เจ้าตัวกลับต้องแบกภาระที่หนักหนาสาหัสเอาไว้
และในจุดที่ต้องชมเลยก็คืองานภาพที่สวย โดยเฉพาะฉากเครื่องร่อนที่ต้องอยู่ท่ามกลางท้องฟ้านั้นทำออกมาได้ดี เพลงประกอบของวง SHE’S ที่เป็นร็อคแบนด์จากโอซาก้า ก็ทำออกมาได้เพราะและเข้ากับเนื้อเรื่องมาก ๆ
ถือได้ว่าการเล่าเรื่อง ทฤษฎีสีฟ้า pantip ก็ทำออกมาได้ดี สำหรับคนที่ไม่เคยอ่านคอมมิคเรื่องนี้มาก่อนอย่างฉันที่มีอะไรให้ลุ้นกันตลอดแม้จริงๆ มันจะไม่มีอะไรหักมุมมากนัก ก็เป็นพล็อตแบบการ์ตูนวัยรุ่นเลยแหละ มิตรภาพ ความพยายาม ชัยชนะ ดราม่าหนักๆ และความรัก ที่ผสมรวมกันได้ค่อนข้างดี
แต่ส่วนที่ไม่ชอบก็พอมี คือฉันรู้สึกว่า ตัวอนิเมมันเหมาะที่จะสร้างเป็นทีวีซีรี่ส์มากกว่าหนังโรง เพราะต้นฉบับคอมมิคก็มีตั้ง 5 เล่ม และพอเป็นเรื่องเกี่ยวกับชมรมกีฬาที่มีการแข่งขันระหว่างมหาวิทยาลัย มันก็ย่อมมีตัวละครในเรื่องเยอะมาก
แต่พอเป็นหนัง Blue thermal สปอย โรงมันทำให้มีพื้นที่เล่าเรื่องแค่ไม่กี่คน ส่วนตัวละครรองหลายตัวแม้จะมีคาแรกเตอร์ที่โดดเด่นแต่กลับบทน้อยจนบางทีจบเรื่องแล้วยังไม่รู้ว่าชื่ออะไรก็มี ซึ่งฉันว่ามันน่าเสียดาย
รวมถึงพัฒนาการของตัวเอกคือซึรุทามะที่บางทีก็เหมือนเร่งเกินไปเพราะข้อจำกัดของความยาวหนังโรง ทำให้เราเห็นเธอเก่งขึ้นแบบพรวด ๆ จากเด็กซุ่มซ่ามกลายเป็น Ace ชมรมในชั่วเวลาไม่นาน
ในสำหรับคนดูนะ รวมถึงพัฒนาการความสัมพันธ์ในเรื่องก็ดูเหมือนจะเร่งๆ ในช่วงท้ายไปนิด ซึ่งในคอมมิคน่าจะมีรายละเอียดมากกว่านี้นะ
ฉากที่เป็นท้องฟ้าสีครามสดใสตัดกับทุ่งหญ้าเขียวขจี
อีกจุดหนึ่งที่ฉันคิดว่า ไม่อยากให้พลาดก็คือ เครดิตท้ายเรื่อง Blue thermal อนิเมะ เราจะเห็นชื่อคนไทยหลายคนเลย เพราะถึงแม้ตัวอนิเมจะผลิตโดย Telecom Animation Film เนี้ยแหละเพราะทางสตูดิโอนี้ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยสักครั้งรวมถึงครั้งนี้ด้วยนะ
แต่ก็มีทีมงานซับในหลาย ๆ ประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ NorthStar Studio ซึ่งถ้าฉันจำไม่ผิด จะเป็นสตูดิโอที่อยู่ที่เชียงใหม่ด้วย ถ้าใครได้ดูเรื่องนี้ก็อยากให้สังเกตในช่วงเครดิตท้ายให้ดี อาจจะเจอชื่อคนที่เรารู้จักโดยไม่รู้ตัวก็ได้นะ ตอนนี้หนังก็กำลังจะเข้าแล้ว ถ้ามีโอกาสก็อยากจะแนะนำให้ลองไปดูกัน
blue thermal pantip ในส่วนของรายละเอียดในส่วนต่าง ๆ เช่น ฉากหลังที่เป็นท้องฟ้าสีครามสดใสตัดกับทุ่งหญ้าเขียวขจีที่พร้อมสั่นไหวไปตามแรงลม ซึ่งปรากฏอยู่บ่อยครั้งในเรื่องก็ทำออกมาได้สวยงาม จนรู้สึกเหมือนมีลมร้อนปะทะหน้าเบาๆ ด้วยซ้ำ
จนสัมผัสได้ถึงความใส่ใจของทีมผู้สร้าง หรือแม้แต่ฉากอื่น ๆ อย่างมหาวิทยาลัยเอย บ้านเรือนเอย ที่พักเอย ถึงแม้จะไม่วิจิตรเท่ากับงานของชินไค มาโคโตะ แต่ก็ต้องบอกว่าอยู่ในขั้นที่ไม่ต้องอายใครแน่นอน
และในการออกแบบใบหน้าและการเคลื่อนไหวของตัวละครก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำได้ดีมาก ด้วยใบหน้าของตัวละครทุกตัวที่ดูน่ารัก ลายเส้นมีความละมุน โดยเฉพาะน้องนางเอกที่ต้องยอมในความน่ารักจนอาจจะหลงเสน่ห์ได้ง่าย ๆ เลย
โดยเฉพาะแววตาของน้องที่กลมโต สดใส และใสซื่อ เข้ากับคาแรคเตอร์และตัวเรื่องมาก ๆ ส่วนคนอื่น ๆ อย่างรุ่นพี่หนุ่มแว่นก็น่าจะถูกใจใครหลายคนด้วยเช่นกัน
ในส่วนของการเล่าเรื่อง ทฤษฎีสีฟ้า อนิเมะ ถ้าให้คะแนนแค่ส่วนของอนิเมชั่นนั้น จะให้สิบเต็มก็ดูไม่น่าเกินจริง แต่ต้องยอมรับว่าด้วยการเล่าเรื่องยังไม่สามารถไปถึงจุดที่สมบูรณ์แบบได้ เพราะการเล่าเรื่องดูจะหมกมุ่นกับเรื่องจนเนื้อเรื่องขาดมิติอะไรหลาย ๆ อย่างไป
ทั้งในส่วนของเรื่องราวชีวิตด้านอื่นของนางเอกเอง หรือตัวละครอื่นๆเอง ที่ใส่มาดูเหมือนจะมีบทบาทแต่ก็ไม่ได้มีเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะต้นฉบับที่เป็นมังงะมีทั้งหมด 5 เล่ม
เนื้อเรื่องมิติด้านอื่นๆ อาจจะไม่ถูกนำมาใส่ แต่นั่นก็ไม่สามารถปฏิเสธความจริงที่ว่า เมื่อดูจบแล้ว ความรู้สึกของเรื่องราวที่ได้มันออกจะ ทื่อ เกินไปสักหน่อย ใครที่ชื่นชอบแนวอนิเมะสดใสเรื่องราวการผจญภัยไม่หนักแน่นจนเกินไปเรื่องนี้ไม่ควรพลาดเลย