รีวิวหนัง บุพเพสันนิวาส 2 กลับมาครั้งนี้ในจอภาพยนต์ที่สามารถกวาดรายได้ไปได้ทั่วประเทศไปถึง 392 ล้านบาทกันเลยการันตีได้แล้วว่าใน บุพเพ ภาคนี้นั้นสามารถครองใจคนไทยไปได้อยู่เช่นเดิมเหมือนกับที่ บุพเพสันนิวาส 1 ได้เคยทำให้กลายเป็นละครฮิตติดอันดับ 1 ที่มีคนดูเย่อะที่สุดในประเทศไปได้อีกเช่นเดิมเรื่องราวจะสนุกแและเป็นอย่างไรนั้นไปติดตามกันได้เลยที่ ดูหนังออนไลน์
รีวิวหนัง บุพเพสันนิวาส 2 มีเนื้อเรื่องเป็นมาอย่างไร น่าสนุกไหม
สำหรับท่านใด บุพเพสันนิวาส ๒ คนดูไม่จำเป็นต้องดูภาคแรกมาก่อนก็สามารถดูรู้เรื่อง แต่ถ้าหากเคยดูแล้ว ก็จะเข้าใจในตัวของหนังบางอย่างมากกว่า เช่น cameos และ มนต์กฤษณะกาลี อีกอย่างหนึ่ง หนังเรื่องนี้เหมือนเป็นเรื่องราวของหนุ่มตัวละครใหม่ แล้วพี่หมื่นกับแม่หญิงการะเกดที่กลับชาติมาเกิดนั้นมาเป็นตัวเสริมทัพของพ่อหนุ่มคนนั้นอีกทีเสียมากกว่าครับ
ในชาตินี้นั้น ภพ หรือขุนสมบัติบดี (โป๊ป ธนวรรธน์) เป็นผู้เชื่อในบุพเพสันนิวาสและคอยตามจีบ แม่หญิงเกสร (เบลล่า ราณี) เพราะรูปร่างหน้าตาเหมือนกับนางในฝันที่เขาฝันถึงทุกคืน แต่เกสรไม่เชื่อในบุพเพสันนิวาสเลยแม่แต่นิด เป็นผู้หญิงหัวก้าวหน้า ร่ำเรียนวิชากับบาทหลวงปาลเลอกัวซ์ (โจนาธาน แซมซัน) รวมถึงภาษาอังกฤษ และพอเธอได้พบกับ เมธัส (ไอซ์ พาริส) เธอก็สนใจในตัวเขามากกว่า เพราะเมธัสหน้าฝรั่ง พูดภาษาอังกฤษได้ และใช้ภาษาแปลกเหมือนมาจากอนาคต
เหตุการณ์สำคัญๆ ทางประวัติศาสตร์ไทยยุครัชกาลที่ 3 ที่ตัวละครเอกทั้งสามต้องเข้าไปพัวพัน คือ การเข้ามามีบทบาทของนักธุรกิจชาวต่างชาติคนดังอย่าง นายหันแตร (แดเนียล เฟรเซอร์) เจ้าของห้างฯ แห่งแรกในประเทศไทย ที่เสมือนเป็นหนึ่งในตัวร้ายในหน้าตำราเรียนของวิชาประวัติศาสตร์ไทย
เพราะมีความขัดแย้งทางการค้ากับราชสำนักโดยตรง ซึ่งในหนังหมายถึง เสด็จในกรม (นนกุล ชานน) เกี่ยวกับเรือกลไฟ ‘เอ็กสเปรส’ ที่นำมาเสนอขายแก่สยามประเทศของเรา นอกจากนี้ หนังยังมีบุคคลสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ไทยยุคนั้นคนอื่น ๆ อีก เช่น สุนทรภู่ (นิมิตร ลักษมีพงศ์) และหมอบรัดเล
ในส่วน part ที่เกี่ยวกับความรรักในหนัง บุพเพสันนิวาส 2 เป็นอย่างไรบ้าง
ในส่วนพาร์ทความรักหรือในการจีบกันของพระนางเป็นพาร์ทที่เราไม่อินนัก (ถึงขั้นเบื่อและหาวเลยก็ว่าได้) รู้สึกว่ามันไม่จำเป็นหลายฉาก เหมือนมีไว้เพื่อเซอร์วิซแฟนคลับของคู่จิ้นหรือ ไอซ์ พาริส เสียมากกว่า ในส่วนของพาร์ทประวัติศาสตร์นั้น ซึ่งได้ รอมแพง นักเขียนนิยายจากภาคแรก มาเป็นที่ปรึกษาในภาคนี้ด้วยนั้น ผมค่อนข้างโอเคมากๆ เพราะพยายามนำเสนอประวัติศาสตร์ในแง่มุมใหม่ และการตีความทางประวัติศาสตร์ที่แตกต่างจากตำราเรียน ถึงแม้ยังโลกยังสวยและติดราชาชาตินิยมอยู่มาก แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่หนังไทยเรื่องต่อ ๆ ไปสามารถนำจุดแข็งไปต่อยอดและพัฒนากันต่อไป เพราะผมคิดว่ามันก็สนุกนะครับแต่ในบางเรื่องหนังนั้นพยายามใส่อะไรที่ไม่จำเป็นมามากเกินไปจริงๆ มันจึงทำให้หนังอาจจะมีมุมน่าเบื่อ เพิ่มขึ้นมาบ้าง แต่โดยรวมดีครับ แต่สามารถดีขึ้นกว่านี้อีกได้ ติดตามการรรีวิวหนังอื่นๆ ได้ที่ รีวิวหนังตลก
คงอดชมไม่ได้ว่าพล็อตเรื่อง ฉากต่าง ๆ ถูกรังสรรค์และจัดวางมาอย่างลงตัว เป็นพล็อตเรื่องที่คาดเดาไม่ค่อยได้ ไม่ดูถูกคนดู และมีเสน่ห์ในแง่ที่เต็มไปด้วยมุขตลก แต่ก็เต็มไปด้วยสาระ เกร็ดความรู้ทางประวัติศาสตร์มากเช่นกัน ทั้งยังเป็น 3 นาทีที่ใส่ความเป็นไทยในรัตนโกสินทร์ลงไปได้ราวกับกิ่งทองใบหยก สำหรับใครที่มีความรู้ประวัติศาสตร์ หรืออ่านเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับยุคสมัยนั้นมาบ้าง จะยิ่งสนุกขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปาลเลอกัวซ์ นายห้างหันแตร หมอบรัดเลย์ และสุนทรภู่
ตัวเดินเรื่องอย่าง ภพ , เกสร , และ เมธัส ก็เดินเรื่องได้ดี แทบไม่มีที่ติ โป๊ปเบลล่า คือ นักแสดงที่เหมาะแก่การเป็นคู่พระนางของเรื่องนี้อย่างสมบูรณ์แบบ ดูแล้วสัมผัสได้ถึงความแตกต่างของ พี่หมื่น-น้องการะเกด และ พี่ภพ-น้องเกสร นอกจากนี้ ในภาพยนตร์เรื่องนี้คุณจะได้เห็นพัฒนาการการแสดงอีกขั้นของไอซ์ พาริส อย่างแน่นอน
MVP ของเรื่องนี้ ขอยกให้ อาภู่ (สุนทรภู่) เพราะออกมาไม่บ่อยมาก ทว่าทุกฉากที่ออกมามักสร้างความพีคไม่หยุด บางฉากเล่นมุขง่าย ๆ ที่เราอาจเคยเห็นมาบ้าง แต่ด้วยตัวละคร จังหวะ กรู๊ฟ มันเข้ากันอย่างเพอร์เฟ็กต์จนกลั้นขำไว้ไม่ได้
บทของหนัง บุพเพ 2 เป็นอย่างไรบ้างมารับฟังความคิดเห็นกัน
ในส่วนแง่ของบทและคอนเซ็ปต์นั้น ก็ต้องบอกเลยว่า บุพเพฯ ๒ นี้ยังคงรักษาคอนเซ็ปต์ความเป็นรอมคอมที่หยิบเอาประวัติศาสตร์เก่าๆ และบุคคลสำคัญในสยาม มารวมเข้ากับความเป็น Fiction ได้อย่างค่อนข้างลงตัวนะครับ อาจจะเพราะด้วยรอมแพง เจ้าของบทประพันธ์ เข้ามาเป็นที่ปรึกษา เหมือนเป็นแกนกลางให้กับทีมเขียนบทของ GDH ด้วยครับ ก็เลยยังคงสามารถผสมเรื่องแต่งเข้ากับประวัติศาสตร์ยุครัตนโกสินทร์สมัยรัชกาลที่ 3 ได้ออกมาสนุก น่าสนใจใคร่รู้ และมีจุดเชื่อมโยงถึงกันและกันและกันได้อย่างลงตัว
ในขณะที่ทางฝั่ง GDH เองก็เข้ามายกเครื่องในส่วนของความเป็นนิยายได้สนุกเลย ตอนแรกผู้เขียนแอบกลัวนะครับว่าทั้งสองฝั่งจะบาลานซ์เรื่องออกมาได้สมดุลไหม ซึ่งในองก์แรก ๆ ผู้เขียนที่เคยดูละครมานิดหน่อย ก็ยังพอแอบจับกลิ่นความเป็นละครช่อง 3
โดยเฉพาะพวกไวยากรณ์ทั้งวิธีการเล่าเรื่อง มุกตลก ต่าง ๆ นานา รวมทั้งการพยายามค่อย ๆ ใส่ Eester Egg จากละครบุพเพฯ เข้ามาเป็นจำนวนมากเพื่อเอาใจแฟน ๆ ที่เคยดูละครมาแล้ว และปูเรื่องจากภาคละครให้คนดูรู้เรื่องก่อนด้วย จนผู้เขียนก็แอบเผลอคิดไม่ได้ว่า นี่จะเป็นการยัดเยียดละครลงในหนังดื้อ ๆ หรือเปล่านะ
แต่ก็ยังดีที่ตัวหนังเริ่มค่อย ๆ ฉีกห่างและเริ่มเล่าเรื่องมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ในอีกมุมหนึ่งจะเป็นการปูส่งเข้าเรื่องที่ค่อนข้างช้าเนีอยอยู่เหมือนกัน พอเริ่มเดินเรื่องอย่างจริงจัง ถึงเริ่มจับทางได้ว่า นี่มัน ‘บุพเพสันนิวาส ฉบับ GDH’ จริง ๆ นั่นแหละ ยิ่งใครที่เคยดูหนังหรือซิตคอมมาก่อน เราก็น่าจะพอจับทางความเป็นรอมคอมในแบบของค่ายนี้ได้ แล้วพอมันถูกเล่าด้วยรูปแบบนี้ ผลที่ได้ก็คือ ตัวหนังก็เลยพยายามเล่าประวัติศาสตร์โดยที่ไม่จำเป็นต้องประดิษฐ์แช่มช้อยสวยงาม หรือต้องวางท่าให้เป็นหนังที่ถูกต้องเป๊ะ ๆ หรือพยายามเคารพประวัติศาสตร์ดั่งพระประธานในโบสถ์ หากชอบใจสามารถอ่านร รีวิวหนังดัง ของเราได้อีกมากมาย
รีวิวหนัง บุพเพสันนิวาส 2 ขยายความเรื่องทุนสร้างและงบประมาณ
ด้วยทุนสร้างที่ถือว่าค่อนข้างสูงมาก ตัวหนังก็เลยเล่นใหญ่ใส่เต็มทั้งโปรดักชันที่ทุ่มทุนสร้าง งานเซตติง ฉาก พรอป ที่ถือว่าละเอียดใช้ได้ แม้งานซีจีอาจจะมีลอยนิด ๆ รวมทั้งตัวหนังเองก็ยังวางเรื่องราวใหญ่โต ที่เล่าตั้งแต่การบ้าน (คนรักกัน) ไปถึงเรื่องของการเมืองในประวัติศาสตร์
ทำให้ตัวหนังยาวมากถึง 166 นาที หรือ 2 ชั่วโมง 46 นาทีแน่ะ ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ต้องชมทีมเขียนบทนะครับว่า สามารถรักษาความเป็นแก่นของบุพเพฯ สำหรับแฟน ๆ เอาไว้ได้ดีเลยแหละ คนเป็นแฟน ๆ น่าจะชอบบุพเพฯ ภาคขยายนี้ได้อย่างไม่ยากเย็น
ในขณะที่หนังก็ยังสามารถหยอดมุกฮา โรแมนติก และรายละเอียดเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในประวัติศาสตร์ในแบบฉบับของ GDH เอาไว้ได้อย่างมันมือ เต็มเหนี่ยว และลงตัวมากเสียจนคนที่ไม่เคยดูละครมาก่อน ก็สามารถดูไปด้วยได้แบบเพลิน ๆ และดูรู้เรื่อง พาร์ตฮาก็ได้ฮา พาร์ตโรแมนติกก็ได้ฟิน
โดยเฉพาะคู่โป๊ป-เบลล่านี่ไม่ผิดหวังครับ เข้าคู่กันทีไรก็ได้ฟิน น่ารักน่าหยิกทุกฉากไป โป๊ปก็เล่นทั้งหล่อทั้งตลกได้พอดี ๆ ส่วน เบลล่า ก็มีเสน่ห์มาก สวยขึ้นกล้องสุด ๆ อีกคนที่มีผลต่อเรื่องก็คือ ‘เมธัส’ (พาริส อินทรโกมาลย์สุต) ซึ่งจริง ๆ อีตานี่แหละคือตัวเดินเรื่องที่แท้จริง
โดยรรวมหนัง บุพเพ 2 น่าเข้าไปดูและติดตามเนื้อเรื่องมากน้อยเพียงใด
โดยรวมแล้วหนัง บุพเพสันนิวาส ๒ เป็นภาคขยายพหุจักรวาลของ ละครบุพเพสันนิวาส ในแบบฉบับของ GDH ที่ยังคงกลิ่นอายความเป็นรอมคอมพีเรียดอิงประวัติศาสตร์สไตล์ ‘ออเจ้า’ ได้อย่างสนุกสนาน เป็นหนังแฟนเซอร์วิสที่แฟนละครหลงรัก แต่ก็ยังมีพื้นที่กว้างให้คนที่ไม่เคยดูละครได้ตามทันแบบสนุก ๆ แม้ว่าจะมีความขาด ๆ เกิน ๆ มุกทำงานบ้างไม่ทำงานบ้าง และตัวหนังเกือบ 3 ชั่วโมงที่หลายคนอาจรู้สึกว่ามันยาวเกินไป แต่ก็ถือว่าเป็นความบันเทิงที่เหมาะเอาไว้ดูแบบเพลิน ๆ ได้ฮา ได้ฟินแบบไม่ต้องคิดอะไรเยอะ อ่ะ อย่างน้อยดูแล้วก็น่าจะไม่เบะปากคว่ำแบบพี่กิ๊ก สุวัจนี และยังสามารถติดตามรีวิวอื่นๆได้อีกที่ เว็บรีวิวหนัง