ฉันจะมา รีวิวหุ่นพยนต์ เรื่องนี้อาจจะกลายเป็นประเด็นที่ฮือฮาอย่างหนาหูกันเลยทีเดียว เพราะอยู่ ๆ หนังสยองขวัญเรื่องล่าสุดจาก ไฟว์สตาร์ อย่างเรื่องนี้ ก็เกือบจะไม่ได้ฉายเพราะเสี่ยงไม่ผ่านกองเซ็นเซอร์ของไทย จนแล้วจนเล่าหนังก็ได้ติดเรต ฉ. 20+ มาครอง

เลยกลายเป็นเรตติ้งหนังที่สูงลิบและต้องจำกัดอายุผู้ชมอย่างเคร่งครัดเลยนะ ด้วยความที่หนังอาจจะมีฉากน่ากลัวสยดสยองอยู่ด้วย ว่าแต่หนังเรื่องนี้มีอะไรที่รุนแรงหรือหวาบหวิวอะไรขนาดนั้น เพราะอะไรเรามาดูกันว่าเรื่องราวของเรื่องนี้จะน่ากลัวขนาดไหนเชี่ยว สามารถเข้ารับชมหนังฟรี ได้เลยที่ ดูหนังออนไลน์

ฉันขอเริ่มที่เรื่องราวของเรื่องนี้ หุ่นพยนต์ ก่อนละกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ ธาม ดั้นด้นเดินทางมาหาพี่ชาย ที่วัดบนเกาะดอนสิงธรรม เพื่อแจ้งข่าวร้ายกับการจากไปของพ่อและแม่

และเมื่อธามเดินทางมาถึงก็ได้พบกับ เจษ หลานชายของเจ้าอาวาสคนเก่า และมีข่าวลือว่าพี่ชายของเขาได้หนีหายสาบสูญหลังจากลงมือฆ่าอดีตเจ้าอาวาสจนมรณภาพ

ซึ่งธามเองก็ไม่เชื่อกับข่าวลือพอ ๆ กับการไม่นับถือหุ่นปั้นพ่อปู่สิงธรรมที่ดูเหมือนภูติผีมากกว่าเทพที่คอยปกปักรักษา จนกระทั่งเกิดเหตุอาเพศในหมู่บ้าน

และเมื่อมีหญิงสาวคนหนึ่งสูญหาย สัตว์ร้ายออกเพ่นพ่าน ผีตายโหงออกอาละวาด ชาวบ้านโกรธแค้นเตรียมตั้งพิธีกรรมสาปแช่งถึงมือมืด เตรียมตัวเผชิญหน้ากับความน่ากลัวครั้งใหม่

ถ้าเล่นกับความงมงาย ท้าทายกับศรัทธา ต้องกล้าเผชิญหน้ากับสิ่งที่มองไม่เห็น ซึ่งคนบางคนก็เห็นและบางคนก็ไม่เห็น มันก็น่าไม่ได้น่าแปลกใจอะไรถ้าจะมีคนที่ไม่เชื่อเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้แบบนี้

และเรื่องนี้ยังคงเป็นผลงานของผู้กำกับลูกหม้อของไฟว์สตาร์ อย่าง ไมค์ ภณธฤต ผู้ที่สร้างเฟรนไชส์ พี่นาค เปรี้ยงปังให้กับสตูดิโอแห่งนี้มาตั้งไตรภาคที่ผ่านมา และมาใน หุ่นพยนต์ เรื่องนี้นั้น

อาจจะมีในมุมที่แตกต่างและมุมที่ซ้ำซากเดิม ๆ ตามลายเส้นงานสร้างเก่า ๆ ของผู้กำกับรายนี้ แน่นอนว่าหนังยังคงวนเวียนอยู่กับความสยองที่โดดเด่น ถ้าท่านสนใจที่จะรับชมเรื่องนี้ก็สามารถเข้ารับชมได้แล้ว ที่ ดูหุ่นพยนต์

ในตัวละครพระเณรเหมือน ๆ กับหนังสร้างชื่อของเขา แต่ก็สร้างความแตกต่างด้วยการหยิบเอาประเด็นไสยศาสตร์และศาสตร์มืดมาใช้เป็นประเด็นของเรื่อง

และนี่นั่นเองที่กลายเป็นมาเป็นสาเหตุที่ทำให้ หุ่นพยนต์ เรื่องย่อ เป็นหนังไทยเรื่องล่าสุดที่ได้รับเรต ฉ. 20+ จากกองเซ็นเซอร์หนังของไทย เพราะหนังเรื่องนี้มีแกนเรื่องหลัก ๆ เชื่อมโยงเกี่ยวกับความเชื่อและกระทบต่อพุทธศาสนา

ที่ทางคณะกรรมการได้ให้ความเป็นห่วงว่าหนังจะมีเนื้อหาที่สอดแทรกแนวคิดที่หมิ่นเหม่ต่อเรื่องหนึ่งในสถาบันหลักของชาติ แต่เมื่อได้ลองไปสัมผัสกับตัวหนังจริง ๆ ก็จะได้พบว่าสิ่งที่บางฝ่ายเป็นกังวลนั้น ช่างเป็นแนวคิดที่เซฟซิทีฟมากเกินกว่าเหตุ อันนี้ฉันขอชื่นชมเลยจริง ๆ

และในประเด็นเรื่องของ หุ่นพยนต์ แทบจะไม่ได้เน้นหลักเกี่ยวกับเรื่องพุทธศาสนาอย่างที่คิด เป็นเพียงหยิบเอาเรื่องศาสนามาสอดแทรกเป็นฉากหลังบาง ๆ เพียงเท่านั้น แต่หนังกลับเน้นไปที่ประเด็นความเชื่อ ความน่ากลัว ความสยองขวัญ

รวมทั้งสะท้อนปัญหาและมุมมืดของพุทธพาณิชย์ที่แค่แตะไปเพียงเบา ๆ เท่านั้นเอง เพราะในท้ายที่สุดหนังก็ยังคงสามารถสรุปความผิดชอบชั่วดี และผลแห่งการกระทำของตัวละครตามสูตรสำเร็จอยู่แล้ว ที่เชื่อว่าผู้ชมน่าจะมีวิจารณญาณในการเสพหนังเรื่องนี้ได้ดี ถ้าอยากอ่านรีวิวหนังดี ๆ สามารถติดตามการรีวิวของเราได้เลยที่ รวมรีวิวทั้งหมด

แต่ถึงแม้ว่า รีวิวหุ่นพยนต์ ตัวละคร จะมีประเด็นและแก่นเรื่องที่ค่อนข้างหนักแน่นดี แต่น่าเสียดายไปสักหน่อย เพราะกลายเป็นว่าหนังยังโครงสร้างและองค์ประกอบอื่น ๆ ที่ยังประกอบรวมร่างกันออกมาได้ยังไม่สมบูรณ์แบบสักเท่าไหร่นัก

โดยเฉพาะจังหวะการเล่าเรื่องและการตัดต่อของหนัง ที่มีหลาย ๆ จุดที่เต็มไปด้วยรอยสะดุด ร้อยเรียงได้ไม่เรียบเนียน มีบางช่วงที่เกิดอาการเหมือนหนังตัดปะ ซึ่งนั่นเป็นข้อด้อยที่ทำให้เสียบรรยากาศที่หนังกำลังถ่ายทอดอยู่ไป

ถึงแม้ว่าบทหนังของ หุ่นพยนต์ อาจจะยังไม่ดีเลิศ แต่ก็ไม่ได้ย่ำแย่อะไร ถือว่าเป็นหนังสยองขวัญที่หยิบเอาสูตรสำเร็จมาใช้งานได้เกิดประโยชน์อยู่ เหมือนหยิบเอาเสน่ห์ของ พี่นาค กับหนังไสยศาสตร์ในตำนาน

อย่าง ลองของ มาคลุกเคล้าเล่าในขวดใหม่กับยุคปัจจุบันที่ชวนติดตามแกะรอยหาปริศนาไปกับตัวละครด้วย แม้ว่าในเชิงการสร้างมิติต่าง ๆ ของหนังเรื่องนี้ยังค่อนข้างเบาบางไปอยู่สักหน่อยก็ตาม ซึ่งนั้นก็ส่งผลกระทบไปยังคาแรกเตอร์ตัวละครต่าง ๆ

ในหนังด้วย หนังอาจจะใช้สูตรเดิมที่ใช้บริการนักแสดงดาวรุ่งแทบจะทั้งหมด ภูวิน ภูวินทร์ ถือว่าปลดแอกกับผลงานหนังใหญ่เรื่องแรกของเขา นับว่าการแสดงของเขาทำออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจ

แม้ว่าจะยังไม่ใช่ผลงานที่สมบูรณ์แบบ แต่ก็จัดได้ว่าดีตามมาตรฐาน และน่าเสียดายที่บทของเขานั้นได้รับการถ่ายทอดออกมาค่อนข้างไร้ชั้นเชิงและไม่มีมิติมากสักเท่าไหร่นัก เป็นตัวละครจืด ๆ ที่ดำเนินไปตามโครงเรื่องแบบไม่ออกนอกกรอบเลย

และอัพ ภูมิพัฒน์ ที่ถือว่าเซอร์ไพรส์เบา ๆ กับการพลิกคาแรกเตอร์ในหนังเรื่องนี้ เพราะเขาต้องมารับบทเป็นหนุ่มที่มีภาวะบกพร่องทางสติปัญญา ก็ถือว่าเขาถ่ายทอดและทำมันออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจ

และกลายเป็นตัวละครที่โดดเด่นที่สุดในหนังเรื่องนี้ หุ่นพยนต์ นักแสดง ถึงการดีไซน์การแสดงของเขายังติดการเป็นนักแสดงอยู่ไปน้อยก็ตาม การตีความและนำเสนอบทนี้ของเขายังไม่ค่อยทำให้คนดูเชื่อได้อย่างเต็มที่ แต่นั่นก็อาจจะเป็นลูกเล่นที่หนังซ่อนเอา

ขณะที่นักแสดงคนอื่น ๆ ทั้ง นิก คุณาธิป และ เจมส์ ภูริพรรธน์ หรือ การ์โตว์ ปัณณวิชญ์ ถือว่าทำออกมาได้ตามมาตรฐาน พวกเขาดูกลายจะเป็นบทสมทบหลัก ๆ ของหนังไฟว์สตาร์ยุคนี้ไปแล้ว

แต่อีกคนที่อยากจะชมสักหน่อยก็คือ นาน่า ทสร ที่น่าจะเป็นนักแสดงหญิงหลัก ๆ คนเดียวของหนัง ที่ให้การแสดงที่เกินกว่าที่คิดเอาไว้ทีเดียว ทั้งท่วงท่าและจังหวะการแสดงของเธอ ผนวกกับบทที่ส่งสุด ๆ สามารถถ่ายทอดออกมาได้น่าขนลุกขนพองดี

อะอาจจะมีคนที่ไม่รู้จักภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน รับบท ธาม พระเอกของเรื่องนี้ หุ่นพยนต์ หนัง ฉันถือโอกาสนี้พูดถึงประวัติของเขาเลยล่ะกัน ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน หนุ่มหล่อจากซีรีส์ปลาบนฟ้าที่กำลังเป็นกระแสโด่งดังอยู่ทุกวันนี้เขาคนนี้เป็นเคยมีผลงานผ่านทางหน้าจอทีวีมาแล้วมากมาย

ไม่ว่าจะเล่นซีรีส์เรื่องไหนก็ปังปุริเย่ไปทุกเรื่อง อย่างล่าสุดก็มีผลงานซีรีส์เรื่องปลาบนฟ้าภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน เล่นเป็น ปี นักศึกษาทันตะปีสองที่หมายปองหนุ่มหล่อจากคณะสหเวชอย่างหนุ่มเมืองน่าน

หรือความรักวุ่น ๆ ระหว่างปีที่แอบรักปลาบนฟ้าอย่างเมืองน่านและหมอกคนที่ตามห่วงใยปีเสมอมา เรื่องนี้สนุกมาก ๆ เลย เอาหล่ะเพื่อน ๆ คงอยากจะรู้แล้วว่าภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืนเขาคนนี้เป็นใคร เรามาเปิดประวัติภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน หมอฟันสุดหล่อจากซีรีส์ปลาบนฟ้ากันเลยดีกว่า

เขาเกิดเมื่อ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 ส่วนสูง 178 cm. เลือดกรุ๊ปของเขาคือ AB เขาชอบสี เทา ดำ ขาว อาหารที่ชอบ ข้าวหน้าปลาแซลมอน สเต็กเนื้อ ทงคัทสึ และไม่ทานเผ็ด ของหวานที่ชอบ สตอเบอร์รี่ชีสเค้กคากิโกริ แพนเค้กลาวาช็อคโกแลต หรือไวท์ช็อคโกแลต

กีฬาที่ชอบ บาสเกตบอล และ ว่ายน้ำ รวมไปถึงไอซ์สเก็ต ความสามารถของเขา เดินแบบ และ ร้องเพลง และ เปียโน และเคยศึกษาที่โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัยและโรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี ปัจจุบันเขาคนนี้กำลังศึกษาอยู่ระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

หุ่นพยนต์หนัง pantip ผลงานด้านการแสดงของเขา หนุ่มภูวินทร์ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่มีผลงานทางด้านการแสดงมาเยอะมาก เช่น ซีรีส์ อาตี๋ของผม รับบทเป็นหมอน ซีรีส์ แม่มดเจ้าเสน่ห์ รับบทเป็นน้ำฟ้า ซีรีส์ My bubble tea รับบทเป็นวายฟายน้องชายสุดแสบของโมเด็ม ซีรีส์ The Gifted Graduation รับบทเป็นเติร์ด

และผลงานล่าสุดอย่างซีรีส์เรื่องปลาบนฟ้าหนุ่มภูวินทร์ก็ได้เป็นนักแสดงนำของเรื่องนี้ เขารับบทเป็นปีหนุ่มนักศึกษาทันตะที่ไปแอบรักคนอย่างเมืองน่านหนุ่มสุดฮอตจากคณะสหเวช

แต่มีหนุ่มหมอกนักศึกษาแพทย์ปีสองที่ตามมาขัดขว้างไป ๆ มา ๆ เหมือนกับจะชอบปีเข้าไปซะเอง ผลงานเรื่องนี้ก็คือว่าเป็นผลงานแจ้งเกิดและกลายเป็นที่รู้จักของหนุ่มภูวินทร์กันเลยทีเดียว

นิสัยส่วนตัว หนุ่มภูวินทร์เป็นคนที่น่ารักสดใสและที่สำคัญเขาคนนี้เป็นคนที่ยิ้มสดใสมาก ๆ ใครเห็นเป็นต้องหลงไหลไปกับความน่ารักของเขาคนนี้ อย่างซีรีส์เรื่องล่าสุดหลายคนก็คงโดนตกเพราะรอยยิ้มของเขาคนนี้ ที่สำคัญฝีมือทางด้านการแสดงของเขาคนนี้ก็ทำออกมาได้มาก ๆ

หนุ่มภูวินทร์เปิดเผยว่าเขาแคสงานตั้งแต่อายุ 11 ปี และเคยมาแคสงานทางช่องGMMTV อยู่หลายครั้งกว่าเขาจะแคสงานผ่านต้องใช้ทั้งความอดทนและพยายามมาก ๆ  เขายังเป็นคนที่มีการจัดการเวลา

ในการแบ่งเวลาให้กับการเรียนและการแสดงได้ดีมาก ๆ เพราะเขาคนนี้สามารถสอบเทียบเข้ามหาลัยเพียงอายุ 17 ปีเท่านั้น

และสุดท้ายชื่อเรียกแฟนคลับ วินนี่ของภู มาจากคำว่าวินนี่เดอะพูห์ ถ้าใครหลงเข้าไปในแฮชแท็กนี้ก็จะได้พบกับความน่ารักของภูวินทร์ที่หาทางกลับยาก เพราะเหล่าแฟนคลับได้รวบรวมความน่ารักทุกอย่างของเขาไว้ในแท็กนี้เรียบร้อยแล้ว

หุ่นพยนต์ pantip ฉันถือโอกาสนี้พูดถึงประวัติของพวกเขาเลยล่ะกัน เรามาเริ่มกันที่คนแรกนางเอกของเรื่องนี้ ทสร กลิ่นเนียม รับบท มีนา เอมี่ ทสร กลิ่นเนียม นักแสดงหญิงอิสระที่มีผลงานการแสดงจากซีรีส์เรื่องดัง

คือ เด็กใหม่ ซีชั่น 2 ตอน กำเนิดยูริ ที่ได้รับบทเป็น นาน่า เด็กบ้านรวยไฮโซที่ชอบกลั่นแกล้งและหลอกใช้เพื่อน เป็นซีรีส์ที่โด่งดังทั้งในและต่างประเทศกันเลยทีเดียว ถือว่าเอมี่เป็นนักแสดงหน้าใหม่ก็ว่าได้เลยเพราะมีผลงานการแสดงไม่มาก แต่ฝีมือการแสดงดีเลย

และคนที่สองภูมิพัฒน์ เอี่ยมสำอาง รับบท เต๊ะ อัพ ภูมิพัฒน์ เอี่ยมสำอาง นักแสดงชาวไทย เกิดวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2537 ณ ปีพ.ศ. 2564 จะมีอายุ 27 ปี ก่อนเข้าสู่วงการบันเทิงอัพมีชื่อเสียงจากโลกออนไลน์ในเพจ Chula Cute Boy แชร์รูปของเขา ก่อนที่จะมีโอกาศมาเป็นพระเอกโฆษณา

และเป็นกระแสพูดถึงจากการที่เข้าแสดงโฆษณาไวรัลที่เขาได้ไปขายไอศกรีม ด้วยกระแสที่มีคนพูดถึงเป็นวงกว้างทำให้อัพได้รับการติดต่อให้ไปร่วมรายการเรียลลิตี้ของประเทศเกาหลีใต้

ในรายการ Babel 250 ที่จะนำคนจาก 7 ประเทศมาอาศัยอยู่ด้วยกันแต่มีกฏว่าห้ามพูดภาษาอังกฤษ ให้พูดภาษาบ้านเกิดตัวเองเท่านั้น จนต่อมาอัพก็ได้ก้าวเข้าสู่วงการนักแสดงเต็มตัว

จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาคอินเตอร์ และจบการศึกษาระดับปริญญาโท จากประเทศอังกฤษ ในสมัยที่อัพศึกษาอยู่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยได้รับเลือกให้เป็นจุฬาคฑากรรุ่นที่ 7.1 อีกด้วยนะ

คนที่สาม คุณาธิป ปิ่นประดับ รับบท เจษ คุณาธิป ปิ่นประดับ เกิด 22 มกราคม พ.ศ. 2534 ชื่อเล่น นิก เป็นนักแสดงชาวไทย มีผลงานภาพยนตร์เรื่องแรก ม.6/5 ปากหมาท้าผี ในปี 2556

หุ่นพยนต์ เต็มเรื่อง จบระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่ โรงเรียนบดินทรเดชา สิงห์ สิงหเสนี ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจบที่โรงเรียนมัธยมวัดมกุฏกษัตริย์ จบคณะนิเทศศาสตร์ สาขาวิชาภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เขามีผลงานมากมายให้ชื่นชม

คนที่สี่ ภูริพรรธน์ เวชวงศาเตชาวัชร์ รับบท พระกล้า ชื่อเล่น เจมส์ ชื่อเดิม ภูวดล เวชวงศา เขานักแสดงชาวไทย จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนนักบุญเปโตร ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

โรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ ระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มีผลงานภาพยนตร์ อาทิ MV เพลงคนไหนโสด แกงส้ม, โดม The Star และ MV อย่าฝากชีวิตไว้ที่ฉัน ศิลปิน Sex Drug Family และ MV คืนเหงา ๆ ศิลปิน เอก สุระเชษฐ์

นอกจากนี้เขาก็ยังมีผลงานละครมาแล้วหลายเรื่อง อาทิ รักออกฤทธิ์ ในปี 2557 และ รูมอะโลน 401-410 ตอน 408 ในปี 2557 และหมอผีไซเบอร์ ในปี 2558

และ รูมอะโลน 2 ตอน เดินหน้า หรือ ถอยหลัง ในปี 2559 และ นางอาย ในปี 2559 และแสงเทียน ในปี 2559 และ สายลับจับแอ๊บ ในปี 2560 เป็นต้น และยังมีนักแสดงคนอื่น ๆ อีกมากมาย ถ้าอยากรู้ว่ามีใครอีกพวกเธอต้องไปตามกูกันเอาเองนะ 5555

เรื่องนี้ หุ่นพยนต์ เต็มเรื่อง พากย์ไทย อาจจะมีจุดด้อยในส่วนของการเล่าเรื่องกับจังหวะต่าง ๆ ของหนัง แต่จุดเด่นของหนังเรื่องนี้ที่ต้องยกนิ้วให้เลยก็คือองค์ประกอบงานสร้างและโปรดักชั่นดีไซน์ต่าง ๆ

ที่พยายามสอดแทรกเข้ามาในการสร้างบรรยากาศความน่ากลัวให้กับผู้ชม ที่ถือว่ามีส่วนทำปฏิกิริยาของคนดูได้ดี โดยเฉพาะการเนรมิตเซ็ตฉากต่าง ๆ ในพื้นที่วัดเทพยนต์ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ป่าเทวสถาน หรือ ลานรูปแบบพระพุทธรูป เป็นโลเคชั่นที่ทำงานกับต่อมความกลัวได้ดี

ขณะที่มุมภาพ มุมกล้อง และการแต่งสีโทนภาพต่าง ๆ ของหนังเรื่องนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีเช่นกัน เป็นองค์ประกอบเล็ก ๆ ที่ช่วยขับเคลื่อนและสร้างบรรยากาศให้กับหนังเรื่องนี้ได้อย่างดี

ดังนั้นในภาพรวมแล้ว หุ่นพยนต์ ก็ถือว่าเป็นหนังสยองที่อาจจะมีศักยภาพที่จะสามารถทำออกมาเป็นเฟรนไชส์ใหม่ได้ไม่ยาก เพราะยังสามารถนำเอาไปต่อยอดได้อีกไกลเช่นกัน

ซึ่งมันก็เพียงแต่เสน่ห์และความสดใหม่ของหนังเรื่องนี้อาจจะไม่ค่อยข้างสุกสกาวมากเท่าไหร่ เพราะดันไปซ้ำกับความรู้สึกเดิม ๆ แบบที่ พี่นาค หรือ ลองของ เคยทำเอาไว้และทำได้ดีมาก่อนหน้านี้แล้ว

และเท่าที่ฉันพอสัมผัสได้ก็คือ โดยตัวหนัง หุ่นพยนต์ สปอย จะเล่าถึง วิธีการทำ หุ่นพยนต์ ในรูปแบบต่างๆ ที่แตกต่างกันไป ที่ทำขึ้นมาเพื่อปกปักรักษา หรือทำขึ้นมาให้ชั่วร้าย เป็นคุณไสยมนต์ดำ ที่เราจะได้เห็นวิธีการทำที่แตกต่างกันไปของตัวหุ่นพยนต์ และการสืบหาเบาะแสสุดระทึกที่คุณไม่สามารถคาคเดาได้

พอฉันดูหนังจบแล้วบอกเลยว่ารู้สึกเฉย ๆ มากกับหนังเรื่องนี้ แต่ก็มีส่วนที่ดีและไม่ดี ซึ่งตรงนี้มองว่าการที่ตัวหนังนั้นได้ฉายในเรทสูงถึง 20+ ก็คงต้องมีฉากโหด ๆ ให้เราเห็นกันแน่ ๆ

แต่ดันแทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้ ส่วนใหญ่จะเป็นการเล่าถึงเนื้อหาที่รุนแรงที่เกี่ยวกับศาสนาและกับความเชื่อต่าง ๆ สะมากกว่า

ส่วนการปูเรื่องของหนังนั้นก็ค่อนข้างโอเคร ดูมีความน่าสนใจดีแต่เหมือนตัวบทของหนังจะไม่ค่อยส่งให้กับตัวนักแสดงมากเท่าไร ดูแล้วก็แอบขัดใจนิดหน่อย

และส่วนสิ่งที่คิดว่าดีนั้นก็คือเรื่องของบรรยากาศในหนัง ที่ทำออกมาได้แบบน่ากลัวเลย แต่ดันใช้ไม่คุ้มเท่าไรแทน ที่จะเน้นไปที่ความน่ากลัวไปเลย กับต้องมาเจอกับการตัดฉากที่แบบขัดใจคนดูแบบมาก ๆ แทน

แล้วก็ยังทิ้งปมต่าง ๆ เอาไว้อีกเพียบ แต่ก็พอเข้าใจได้ครับที่หนังทำแบบนั้น เพราะในช่วงท้ายนั้นจะเป็นการเฉลยปมทั้งหมดของหนังนี้อีกด้วย และอีกสิ่งที่ชอบคือหนังเรื่องนี้มีความหักมุมแบบสุด ๆ อีกด้วย

ถึงทั้งเรื่องเราจะพอเดาทางออกนะ แต่สำหรับตอนท้ายนั้นก็คือเดาทางไม่ออกจริง ๆ สิ่งที่ต้องชมอีกอย่างนั้นก็คือเรื่องของตัวของผี ที่ทำออกมาได้หลอนดีครับไม่ได้แย่เลย แต่ก็ไม่ค่อยมีสิ่งที่น่าจดจำสักเท่าไรหรอก

หุ่นพยนต์ หนังไทย ในส่วนด้านของนักแสดงนั้นก็ค่อนข้างดีครับแต่ก็ไม่สามารถทำให้คนดูนั้นรู้สึกอินไปกับตัวหนังเท่าไร มีแค่บางฉากบางตอนเท่านั้นที่ทำได้แต่โดยรวมก็ไม่ได้แย่นะ แถมตอนท้ายตัวหนังยังมีฉากที่ทำให้เราได้ลุ้นว่าจะมีภาคที่สองอีกด้วย

และใครที่อยากสัมผัสหนังคุณไสยศาสตร์มนต์ดำแบบนี้ก็ไม่ควรพลาด กับหนังเรื่องนี้นะ เป็นหนังผีไทยเนื้อหาจัดจ้านที่เล่าถึงเรื่องของศาสนา และความเชื่อได้อย่างดุเดือด

ที่มาพร้อมกับเรทฉายที่จกตาคนดูถึง 20+ ที่ไม่มีอะไรเลย มีแต่บรรยากาศชวนหลอนแบบขั้นสุดบวกกับผีที่ดูน่ากลัว แต่กลับใช้มันได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร ถึงตัวหนังจะดูเพลินแต่กลับไม่ค่อยน่าจดจำสักเท่าไร แต่ก็ดูได้ไม่เสียหายอย่างแน่นอน

เผื่อมีใครไม่รู้ว่าไสยศาสตร์มนต์ดำคืออะไร เดี๊ยวฉันอธิบายให้นะ ก็คือ ไสยศาสตร์ เป็นวิชาความรู้ที่มีผู้นิยมเรียนกันมากในสมัยก่อนนะ ในการเรียนวิชานี้มีหลักสำคัญคือ ต้องใช้อำนาจจิตใจที่แกร่งกล้าของผู้เรียนร่วมกับการร่ายเวทมนต์คาถาที่แม่นยำถูกต้อง

จึงจะทำให้บังเกิดผลตามที่ปรารถนา พบกับหลากหลายเรื่องจริงของคุณไสยที่ นที ลานโพธิ์ นำมาเขียน ล้วนเกิดขึ้นกับพระภิกษุสงฆ์กับคฤหบดีที่มีชื่อเสียง มีศีลธรรม มีเกียรติในสังคม

และที่สำคัญมีเหตุผลเป็นหลักในการดำเนินชีวิต แต่เป็นเพราะอะไรท่านผู้มีเกียรติที่กล่าวมาจึงเชื่ออย่างสนิทใจว่าไสยศาสตร์มีจริง หรือไม่อันนี้ก็ไม่สามารถหาคำตอบได้

หุ่นพยนต์ หนังใหม่ และไสยศาสตร์เป็นพลังเร้นลับที่มีอำนาจเหนือเหตุเหนือผล สามารถบันดาลสิ่งที่เป็นนามธรรมให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมได้ โดยที่หลักการทางวิทยาศาสตร์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ และไม่ยอมรับ

ยกตัวอย่างเช่น คนโดนของ ซึ่งบางที่ก็มีผู้ที่มีชื่อเสียงในสังคม มีตำแหน่งหน้าที่สำคัญได้ถูกกระทำด้วยคุณไสยมนต์ดำขั้นสูง อย่างเช่น คุณประธานดวงรัตน์ อดีตนายกสมาคมสภาทนายความแห่งประเทศไทย

ได้ถูกเสกตะปูเข้าท้อง มีอาการปวดท้องเจียนตาย แพทย์แผนปัจจุบันไม่สามารถรักษาหายได้ต้องให้หมอไสยศาสตร์ผู้มีวิชาอาคมถอนตะปูออก มีพยานรู้เห็นกันหลายคนแต่ละคน เป็นผู้มีความรู้ที่อยู่ในยุคของสมัยใหม่

และเรื่องของคนโดนของมีมากมายหลายแบบ อาทิ ฝังรูปฝังรอย เสน่ห์ยาแฝด น้ำมันพราย รวมทั้งมนต์ดำต่าง ๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะผู้ที่เป็นนายแพทย์แผนปัจจุบันก็ยังโดนกระทำคุณไสย นายแพทย์สำนวน บัวพิมพ์ เกือบตายเพราะโดนไสยศาสตร์ มนต์ดำ

ด้วยความไสยศาสตร์มันมีความน่ากลัว แบบสิ่งที่มองไม่เห็นและไม่สามารถพิสูจน์ได้ เรื่องนี้จึงแอบมีความน่าสนใจขึ้นมาเพราะมีไสยศาสตร์ เข้ามาเกี่ยวด้วยนี้แหละ ถ้าใครที่ชอบหนังแนวแบบนี้เรื่องนี้ก็ไม่ควรพลาดนะ

แต่ถ้าใครไม่ชอบหรือไม่สามารถเชื่อได้จริง ๆ ก็ไม่ควรที่จะดู เพราะถึงแม้ว่าเราจะมองไสยศาสตร์ไม่เห็นแต่ก็อย่าไปเสี่ยงกับมันเลยจะดีกว่านะ