ฉันจะมา รีวิวโทรมาฆ่า เรื่องนี้เป็นแนวหนังสยองขวัญ ซึ่งคนส่วนใหญ่มักเชื่อว่าเป็นหนังที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตำนานเมืองของชาวอเมริกัน เกี่ยวกับเรื่องราวของพี่เลี้ยงสาวที่มาดูแลลูกให้กับครอบครัวที่ร่ำรวย แต่บ้านกลับตั้งอยู่ในสถานที่อันห่างไกลจากผู้คน

และเมื่อพี่เลี้ยงสาวได้รับโทรศัพท์ลึกลับ ตอนนั้นเองที่เธอรู้ตัวว่าตัวเองและเด็ก ๆ ในความดูแลกำลังตกเป็นเป้าหมายของฆาตกรแสนโรคจิตจนต้องหาทางเอาชีวิตรอด เรื่องนี้จะมีเนื้อหาที่น่าสนใจ แตกต่างไปจากตำนานเมืองที่เป็นพื้นฐานเรื่องราวหรือไม่นั้น เราลองมาดูไปพร้อมกัน ถ้าหากท่านกำลังมองหาเว็บดูหนังฟรีไม่มีโฆษณา ไม่มีสะดุด ดูเพลิน ๆ สามารถเข้ารับชมได้เลยที่ ดูหนังออนไลน์

ฉันขอสารภาพแบบไม่รู้อายเลยนะ ว่าที่ฉันอยากดูหนังเรื่องนี้ รีวิวโทรมาฆ่า อย่าอยู่คนเดียว ไม่ใช่เพราะแนวเรื่อง ไม่ใช่เพราะผู้กำกับหรือใครทั้งสิ้น ฉันอยากดูเพราะนางเอกนี้แหละ 5555 ประเด็นหลักเลย

ซึ่งทางนางเอกคนที่ว่าเธอชื่อ Camilla Belle ซึ่งหลายท่านอาจไม่รู้จัก แต่เธอคนนี้ผ่านงานหนังมาหลายเรื่องแล้วตั้งแต่ยังตัวเล็ก ๆ นะ หรืออย่างใน The Lost World Jurassic Park เธอก็เล่นเป็นเด็กสาวที่โดนเจ้าไดโนเสาร์ตัวจิ๋วรุมโจมตีตอนต้นเรื่อง

และ เล่นเป็นลูกสาวพี่ Steven Seagal ใน The Patriot และเป็นแซนดร้า บูลล็อคตอนเด็กใน Practical Magic แล้วก็ยังโผล่ใน The Invisible Circus ก่อนจะประกบกับ Daniel Day Lewis ใน The Ballad of Jack and Rose

ในซึ่งน้อง Camilla นี่น่ารักหน้าคมมาตั้งแต่เด็ก จนตอนนี้เป็นสาวแล้ว และยังน่ารัก หน้าตาสวยวันสวยคืนอีกต่างหาก จนไป ๆ มา ๆ น้องเขาก็เริ่มเข้ามาอยู่ในทำเนียบคนน่ารักในใจฉันจนได้นะ

แล้วด้วยเรื่องนี้เธอก็นำเดียวเป็นเรื่องแรก ซึ่งนำเดียวจริง ๆ เพราะในเรื่องเธอต้องแสดงกับโทรศัพท์ตลอด ถ้าหากท่านสนใจที่จะรับชมเรื่องนี้ก็สามารถเข้าชมที่ ดูwhen a stranger calls ฟรีไม่เสียค่าบริการ

แล้วส่วนเนื้อเรื่องนี้ โทรมาฆ่า อย่าอยู่คนเดียว สั้น ๆ เลย น้อง Camilla ของผมรับบทจิลล์ จอห์นสัน สาวน้อยที่รับจ็อบเป็นพี่เลี้ยงเด็กให้กับลูกของดร แมนดาคิส และทางคุณหมอผู้ร่ำรวยซึ่งต้องไปร่วมงานเลี้ยงนอกบ้าน

ตอนแรกก็โอเคนะ จิลล์เฝ้าบ้านเฝ้าเด็กไปตามเรื่อง ไม่น่ายากนี่ครับงานนี้ อีกอย่างเด็ก ๆ ก็นอนหมดแล้ว ที่เหลือก็แค่รอพ่อแม่เด็กกลับมาบ้านเท่านั้นเอง แต่คืนที่ว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างนั้นเมื่อจู่ ๆ

แล้วมีใครก็ไม่รู้โทรเข้ามาก่อกวนกับจิลล์อยู่ตลอด จนดูท่าว่าไอ้คนที่โทรมานี่ต้องมีเจตนาชั่วร้ายแน่ ๆ แล้วจิลล์จะทำอย่างไร ไอ้บ้านี่ต้องการอะไรกันแน่ ตื่นเต้นเหลือเกิน

ซึ่งถ้าให้ฉันพูดตามจริงถ้าไม่ใช่เพราะน้อง Camilla ฉันคงไม่เช่าดูตั้งแต่วันแรก ๆ ที่มันออกหรอก เพราะจากเนื้อหามันตามสูตรอ้ะ เนื้อเรื่องก็ตามชื่อเรื่องเลยไม่มีอะไรมาก

เรื่องรี้ก็ํออกเป็นแนวฆาตกรโรคจิตมาก่อกวนชีวิตพี่เลี้ยงเด็กคนหนึ่ง และเหตุเกิดในที่เดียวนั่นคือบ้านของคุณหมอแมนดาคิสที่ใหญ่ ใหญ่มาก ซึ่งทั้งเรื่องมันก็วิ่งบ้างเดินบ้างในบ้านนี่แหละ อย่าลืมติดตามการรีวิวของเรา ไม่ว่าจะเป็นรีวิวหนัง รีวิวซีรีย์เรามีครบ สามารถติดตามได้เลยที่ รวมรีวิวทั้งหมด

ซึ่งดังนั้นกับคำถามที่ว่าแล้วหนัง โทรมาฆ่า อย่าอยู่คนเดียว เรื่องย่อ มันต่างจากพวก Halloween ตรงไหน คำตอบคือต่าง ต่างตรงที่มันไม่สนุกเท่าน่ะสิ ฉันรู้สึกว่าเรื่องนี้พยายามที่จะให้เป็นหนังที่มันลงล็อคจริง ๆ นะ

เปิดเรื่องมาแนะนำตัวละครนิดนึง ก่อนจะให้นางเอกเข้ามานั่ง ๆ นอน ๆ ในบ้าน ตอนแรกก็ดูสงบดี แต่อยู่ ๆ ไปเริ่มมีอะไรไม่น่าวางใจ และไอ้คนที่โทรมาก็โทรมาอยู่ได้ จนนางเอกต้องเดินสำรวจรอบบ้าน

และตามสูตร ไอ้บ้านั่นมันจะซ่อน ไม่รู้ซ่อนหาพ่อหาแม่มันน่ะนะ เอ็งมาฆ่าเขาไม่ใช่เหรอ เอ็งจะรอดูฤกษ์เก้าโมงเก้านาทีหรืออย่างไร ปล่อยให้เจ๊แกเดินรอบบ้านนานสองนาน

แต่ก็นั่นแหละ ว่าไม่ได้ ฆาตกรมันโรคจิตอ้ะ สงสัยชอบดูนางเอกตกใจ เลยให้นางเอกตกใจมากๆ ก่อน เหมือนดูโชว์น่ะก่อนจะลงมือ และพอมันลงมือจริง ๆ ก็อีกแล้ว นางเอกคนเดียวผู้หญิงตัวเล็ก ๆ มันก็ทำอะไรไม่ได้ ให้หนีบ้างล่ะ พลาดล้มเองบ้างล่ะ

เพราะอย่างเนี่ยแหละมันลงสูตรจริง ๆ ไม่มีอะไรพลิกความคาดหมายทั้งสิ้น หนังแนวนี้ชอบจบแบบไหนมันก็จบแบบนั้น ไม่มีอะไรพลิกให้เราอึ้งให้เรางง สรุปคือเราเอาเวลาไปดู Halloween หรือ Scream ซ้ำอีกซักทีสองทีมันจะมีคุณค่ามากกว่านะ อันนี้ก็แล้วแต่ความคิดของแต่ละคนนะ

แต่จริงๆ หนัง โทรมาฆ่า อย่าอยู่คนเดียว netflix แนวนี้น่ะ ต้องทำสองสิ่งให้สำเร็จ อย่างแรกคือต้องทำให้คนดูเชื่อ เชื่อว่ามันเกิดได้ เชื่อว่ามันเป็นไปได้ และต้องทำให้คนดูกลัวชนิดที่เหมือนกับตัวเองไปอยู่

ในหนังเองเลย นั่นมันต้องอย่างนั้น แล้วความลุ้นความตื่นเต้นมันจะไหลมาเทมาเอง ไม่ต้องห่วงหรอก และหนังมันทำสำเร็จนะ สำเร็จในฉากแรก 5 นาทีแรกของหนัง

คืออย่างนี้ ตอนเปิดเรื่องมาหนังมันจะเล่าถึงเหตุการณ์ที่พี่เลี้ยงเด็กโดนฆ่าในเมืองอื่น เล่าเรื่องโดยฉายภาพให้เราเห็นงานในสวนสนุก แล้วก็มีเสียง เสียงคุยโทรศัพท์ระหว่างพี่เลี้ยงกับฆาตกรให้เราได้ยินตลอดเป็นการอุ่นเครื่อง

แล้วจากนั้นหนังตัดมาเช้า ตำรวจยกกองมาตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งฉากที่ได้ใจมาก ๆ คือตอนที่สารวัตรเดินมาดูสภาพศพในห้อง ปรากฎว่าหนังสามารถทำให้คนดูผวา ขนลุกโดยที่ไม่ได้เห็นศพ ไม่ได้เห็นเลือดแม้แต่หยดเดียว

แค่สารวัตรมองในห้อง แล้วเอามือปิดปากแบบอึ้ง ๆ กับดนตรีเครื่องสีที่ดังจนน่าขนลุก ซึ่งทั้งหมดนี้เล่นกับอารมณ์และจินตนาการของคนดูล้วน ๆ

และก่อนจะตัดฉากต่อมา เป็นฉากที่เจ้าหน้าที่แบกถุงศพออกมา แล้วก็เป็นอีกครั้งที่แค่เห็นถุงศพเราก็พะอืดพะอมแล้ว

เพราะถุงศพมันบ่งบอกชัดเจนว่า สภาพศพต้องเป็นชิ้น ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะมันมีทั้งถุงใหญ่และถุงเล็กที่เล็กจนไม่น่าจะใส่ศพคนได้ แสดงว่าในนั้นมันต้องเป็นชิ้นส่วน หรือแย่กว่านั้น นั่นคือเด็ก นี้แหละ

ฉันขอพูดถึง โทรมาฆ่า อย่าอยู่คนเดียว นักแสดง หลักของเรื่องนี้นะ เธอคือ คามิลล่า เบลล์ เล่นเป็นจิลล์ พี่เลี้ยงเด็กในเรื่องนี้ เผื่อมีใครอยากรู้ประวัติของเธอเกิดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2529 หรือเป็นที่รู้จักในนามคามิลลา เบลล์เป็นนักแสดง ผู้กำกับ และโปรดิวเซอร์ชาวอเมริกัน

และชีวิตในวัยเด็กของเธอ เบลล์เกิดมาเพื่อคริสตินา กูลด์ นักออกแบบแฟชั่นชาวบราซิล และแจ็ค เวสลีย์ รูธ เจ้าของบริษัทก่อสร้างนักแสดงและนักแต่งเพลงคันทรี เธอเข้าเรียนที่ Marlborough School

ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมหญิงล้วนในลอสแองเจลิส เธอโตมากับการพูดภาษาอังกฤษและโปรตุเกส ในช่วงวัยเด็กของเธอ เบลล์จะใช้เวลาหลายฤดูกาลในซานโตสบราซิล ที่เกิดคริสตินา เธอนำมาใช้นิสัยบราซิลเป็นจำนวนมากเช่นรสชาติบราซิลโน

ในปี 1992 เธอได้รับบทนำในภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอ เรื่องTrapped Beneath the Earth ซึ่งเป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญของ NBC เบลล์เริ่มต้นอาชีพด้วยบทบาทเล็ก ๆ ในการผลิตภาพยนตร์นวนิยายเรื่อง A Little Princess ในปี 1995 และในThe Lost World Jurassic Park

ในปี 1997 เธอเล่น Cathy ธนูหนุ่มสาวที่ร่ำรวยอังกฤษโจมตีโดยแพ็คของคอมซอกนาทัสในปี 1998 เธอเล่นออเบรย์ Shepard ในความสำคัญกับครอบครัวละครวิทยุการผจญภัยในโอดิสซีงหลังจากเปลี่ยนบทบาทเป็นลูกสาวของสตีเวน ซีกัลในThe Patriot

ในปี 1998 เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Youth in Film Young Artist Award ปี 1999 จากบทเธอเป็นเด็กผู้หญิงในเรื่องPractical Magic ในปี 1998 และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงอีกรางวัลหนึ่งคือ ในปีเดียวกันสำหรับแขกรับเชิญของเธอในทีวีซีรีส์วอล์คเกอร์: เท็กซัสเรนเจอร์

และเธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Young Artist Award เป็นครั้งที่สามและสี่ตามลำดับจากภาพยนตร์ทางโทรทัศน์เรื่องReplacing Dad ในปี 1999 และสำหรับบทบาทนำครั้งแรกของเธอในภาพยนตร์ดิสนีย์แชนแนลทีวีเรื่อง Rip Girls ในปี 2000

เบลล์เล่นบทนำในภาพยนตร์ รีวิวwhen a stranger calls โทรทัศน์เรื่อง Back to the Secret Garden ในปี 2001 จากนั้นจึงหยุดพักจากการแสดงก่อนที่จะกลับมาแสดงในภาพยนตร์อิสระเรื่องThe Quiet ในปี 2005 และทาง SFStation เขียนว่า การแสดงที่ชาญฉลาดThe Quiet เป็นของ Camilla Belle และ Elisha Cuthbert 

เธอกลับมาแสดงอีกครั้งหลังจากพักช่วงสั้นๆ ด้วยบทนำในภาพยนตร์รีเมคWhen a Stranger Calls ในปี 2006 จากนั้นเธอก็เล่นบทบาทนำในภาพยนตร์ฮิตที่ทำรายได้ทะลุบ็อกซ์ออฟฟิศมากที่สุดจนถึงปัจจุบันโรแลนด์

ทางเอ็มเมอริช กำกับภาพยนตร์เรื่องใหญ่ที่มีทุนสร้าง10,000 ปีก่อนคริสตกาล ในปี 2008 ตั้งแต่นี้ 270 $ ล้านตีเบลล์ได้เล่นจำนวนของบทบาทสำคัญในการนำอิสระขนาดเล็กหนังแผ่น และ สั้นภาพยนตร์และอาคิโอะ ณ เดือนตุลาคม 2561

หนังเรื่องล่าสุดของเธอคือ The Mad ปลาวาฬ ในปี 2017 และโครงการนักเรียนที่ผลิตโดยเจมส์ฟรังโก s Elysium Bandini สตูดิโอและโรงเรียนยูเอสศิลปะภาพยนตร์

และเบลล์คบกับโจ โจนัสตั้งแต่ปลายปี 2551 ถึงกลางปี ​​2552 พวกเขาพบกันเมื่อเธอปรากฏตัวในมิวสิควิดีโอ Lovebug ของJonas Brothers เพลงของ Taylor Swift

หรือ Better than Revenge ถูกเขียนขึ้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขา หลังจากที่ Jonas ออกจาก Swift เพื่อไปหา Belle  เธอมีความสนิทสนมกับมาเรียชาราโปวา

ฉันยอมรับเลยในว่าตอนแรกของหนัง when a stranger calls ทำได้ดีมาก จนทำให้คนดูคิดไปเลยว่าไอ้ฆาตกรนี้ต้องวิปริตแหงม ๆ และฆาตกรรายนี้ต้องน่ากลัวอย่างแน่นอน แต่พอเอาเข้าจริง หนังอีก 80 กว่านาทีที่เหลือ หรือหนังแค่ 90 นาทีกันแน่อันนี้ไม่แน่ใจ

ด้วยความน่ากลัวกลับไม่ได้มากมายอะไรเลย ไม่ว่าจะการที่ไอ้ฆาตกรนี่โทรมาเพื่อทำให้จิลล์กล้ว แต่มันไม่ได้ทำให้รู้สึกกลัวอ้ะ เหมือนแค่คนโรคจิตโทรมามากกว่า มันไม่เซ้นส์เลยว่าไอ้ฆาตกรนี้กำลังอยู่ใกล้ ๆ ตัวจิลล์

แต่ที่เรารู้สึกว่าฆาตกรมันอยู่ในบ้านมันเนื่องมาจากคนดูอย่างเรา ๆ เดาได้มากกว่า ดังนั้นจุดนี้นับว่าพร่องไปแล้วล่ะ เพราะคนดูเริ่มไม่เชื่อแล้วว่าไอ้ฆาตกรนี้อยู่ใกล้ตัวจิลล์

แล้วทีนี้ความกดดันไม่ว่าจะทางไหนเลยไม่เกิด เพราะดู ๆ ไปมันเหมือนดูคนคุยกับโทรศัพท์โรคจิตมากกว่าที่จะคุยกับฆาตกรแบบใน Scream ถ้าพูดให้ชัด ๆ ก็คือ ตอนดูนี่แทบจะไม่รู้สึกน่ะครับว่าจิลล์กำลังอยู่ในอันตรายถึงชีวิต

แต่พอฉันลองเป็นแบบนี้แล้วมันจะเหลืออะไรล่ะ เหมือนดูคนคุยโทรศัพท์โรคจิตกันมากกว่า ส่วนบรรยากาศในบ้านนั้นเห็น ๆ ได้ชัดเลย ว่าพยายามทำให้น่ากลัว เพราะบ้านหลังเท่าวัง

when a stranger calls เรื่องย่อ แต่ดันเปิดไฟเป็นหย่อม ๆ โอเคตอนแรก ๆ ที่จิลล์ไม่คิดว่ามีอันตรายเลยเปิดเป็นจุด ๆ ก็พอเข้าใจ เป็นการประหยัดไฟที่ดีครับ ช่วยชาติ แต่ขอโทษเถอะเจ๊ ไอ้ตอนที่เจ๊เริ่มรู้ตัวว่ามีใครก็ไม่รู้อยู่ในบ้านน่ะ เจ๊เจือกเดินรอบบ้าน สำรวจตามจุดที่มืด ๆ

โดยไม่คิดจะเปิดไฟเลยเหรอ คือเจ๊ไม่เข้าใจเหรอครับว่ามุมมืด ๆ น่ะอาจมีคนซ่อนอยู่ได้ เจ๊ไม่เปิดไฟหน่อยล่ะ ให้มันสว่างน่ะนะ แต่นี่มืดยังไงก็ให้มืดอย่างนั้น โธ่ ๆ ๆ บอกตามตรงตอนดูนี่ถ้าฉันทำได้

ฉันวิ่งเข้าไปเปิดไฟให้เจ๊แกแล้ว กลัวชนโต๊ะจริง ๆ แล้วฉากที่ไม่นึกว่าจะมีก็ยังมีอีก นั่นคือ เจ๊เดินรอบบ้านโดยไม่ถืออาวุธ อยากจะบอกว่าเธอคิดอะไรอยู่ มัน่าหงุดหงิดนะที่ตัวละครดูน่าเบื่อในบางที

โอเค จริง ๆ จิลล์เธอถือแหละ ถือเหล็กเขี่ยตาผิงไว้ตอนเดินตรวจบ้าน ตอนแรกฉันก็คิดว่า เออ ดี ฉลาดดี รอบคอบมากนางเอกของฉัน แต่ซักพักพอถึงฉากหนึ่ง

พอมันมีเหตึการ์ณที่เกิดความผิดปกติขึ้น เธอเลยตกใจทำที่เขี่ยหล่น เราก็เอาล่ะเว้ย มันมีอะไรอยุ่ที่มุมนั้นของบ้าน ฉันรู้ครับว่าเจ๊ต้องเดินไปดูแน่นอน 5555

ถ้าเอาเข้าจริงฉันรู้สึกว่า when a stranger calls นักแสดง อยากจะบอกว่าไอ้ที่เจ๊ถือมาตอนแรกน่ะดีแล้ว และจุดที่เจ๊กำลังจะเดินไปนั้นคือจุดที่เจ๊ควรจะถือไปด้วยที่สุดนะครับ แต่ดันไม่ถือ โอ๊ยมัน่าหงุดหงิดเหลือเกิน

แต่ก็ฉันเข้าใจท่านอาจเห็นว่าเธอตกใจอ้ะ เลยทำอะไรไม่ถูก แต่ถ้าดูดี ๆ จะเห็นว่าเธอมีสติตลอดนะ ฉันเลยงงเหมือนกันว่าบทมันเขียนไม่ดีหรือเธอเล่นไม่ดีกันแน่

หรือเพราะท่าทางที่จิลล์เป้นดูเป็นหญิงแกร่ง ไม่กลัวอะไรง่าย ๆ เป็นนักวิ่งด้วยร่างกายเฟิร์มมาก แล้วพอจับได้ว่าแฟนนอกใจเธอก็เด็ดเดี่ยวอีก เออ หญิงแกร่งนะเนี่ย

และในแต่ตอนดูเหมือนเธอเดี๋ยวแกร่งเดี๋ยวแกร่งเดี๋ยวอ่อนอ้ะ บางคนอาจบอกว่าก็ผู้หญิงนี่หน่าต้องมีช่วงอ่อนแอบ้าง ฉันก็ไม่เถียง แต่การอ่อนแอที่ว่านี่มันไม่ธรรมชาติอ้ะดิ

มันเป็นการอ่อนแอที่พอดีกับจังหวะหนังเกินไป ถ้าดูบทดี ๆ นี่จะพบว่าจิลล์เลือกที่จะอ่อนแอในฉากที่สามารถสร้างความลุ้นให้คนดูน่ะ นึกออกมั้ยฮะ ถ้าฉากปกตินี่แข็งแกร่งดี แต่ฉากไหนที่ต้องให้นางเอกอ่อนแอก่อน หนังมันถึงลุ้น เจ๊แกก็จะดูอ่อนแอแบบสั่งได้ในทันที

สรุป when a stranger calls สปอย ตอนท้ายเลยกลายเป็นว่าจิลล์มีสองบุคลิกไปเลย และเป็นสองบุคลิกที่เกิดอย่างไม่แน่นอนอีกต่างหากเออ เอาเข้าไป แต่ทำไงได้ มันงั้นจริง ๆ อ้ะ ส่วนความตื่นเต้นมันน้อยน่ะ สถานการณ์เดาได้

เรารู้เลยไว้ไอ้เสียงตึงตอนต้นมันต้องไม่ใช่ฆาตกรแน่ ๆ เพราะฆาตกรไม่มีทางโผล่มาก่อนหนังจบเด็ดขาด เราเลยไม่รู้จะลุ้นอ้ะ แค่เห็นนางเอกเดินไปรอบ ๆ เท่านั้นเอง

และเรื่องนี้มีจุดเด่นชัดเจนที่สุดคือ การแสดงของนักแสดงสาวผู้น่ารักและมากความสามารถอย่าง คามิลล่า เบลล์ โดยเฉพาะดวงตาของเธอนั้น มีความน่าหลงใหลเป็นอย่างมาก

และอีกประการหนึ่งที่ควรพูดถึงคือ หนังสยองขวัญเรื่องนี้ เป็นหนังที่ค่อนข้างที่จะเต็มไปด้วยความคลาสสิคที่ผสมผสานระหว่าง ความเข้มข้นกับความเกินจริง

และพร้อมกับบรรยากาศที่ได้รับการจัดแสงไฟ โดยมีบรรยากาศจากเสียงดนตรีที่ค่อนข้างน่ากลัว ทำให้โดยรวมแล้ว หนังเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นหนังที่ได้รับการรีเมค มาได้ในระดับที่น่าพึงพอใจเลยทีเดียวนะ

when a stranger calls pantip ส่วนตอนท้ายพอฆาตกรออกมาก็ไม่มีอะไรเกินคาด วิ่งมาราธอนอย่างเดียวเลย แล้วที่กะไว้ว่าฆาตกรต้องแน่ ปรากฎพี่แกกระจอกมาก ไม่ได้น่ากลัวเลย

คือที่อุตส่าห์วาดฝันไว้ตอนต้นนี่มลายหายสิ้น คือนี่ถ้าฉันไม่ได้ดูต้นเรื่องแล้วมาดูตอนจบเลยคงนึกว่าไอ้นี่เมาเหล้ามาจากร้านลาบข้างบ้านแล้วเดินผ่านมาขอเข้าห้องน้ำน่ะ พิษสงไม่ประทับใจเลยจริง ๆ

ก็นั่นแหละที่ฉันคิด มันไม่มีอะไรใหม่ ถ้าท่านไม่เคยดูหนังแนวนี้มาเลยนะ แล้วลองดูอาจจะสนุก แต่ถ้าผ่านหนังอย่าง Halloween หรืออย่าง Scream หรือศุกร์ 13 มาแล้วคงจะเฉยกับเรื่องนี้แน่ ๆ

แต่ที่ฉันแยากจะบอกก็คือ Camilla Belle สุดสวยของฉันแสดงก็ดีมากเลย แต่ยังขาด ๆ บ้างไม่รู้เป็นที่บทหรืออะไรนะ ไอ้การอ่อนแอไร้ทางสู้แบบจงใจน่ะ แต่น่ารัก น่ารักมาก ๆ อยากจะบอกว่าถ้าท่านชอบเธอโปรดเตรียมรอดู The Quiet ได้เลยฮะ ในเรื่องนี่เธอมีเสน่ห์สุด ๆ จริง ๆ

โทรมาฆ่า อย่าอยู่คนเดียว pantip และในส่วนนักแสดงเจ้าอื่นก็เสมอตัว ไม่มีอะไรให้ชมหรือว่า เพราะหลัก ๆ ความเด่นมาอยู่ที่น้องนางเอกของฉันคนเดียว และทางผู้กำกับ Simon West ลงมือทำครับเรื่องนี้ พี่แกก็ผ่านงานอย่าง Con Air และ The General’s Daughter

และ Lara Croft: Tomb Raider กับเรื่องนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นงานที่อ่อนสุดน่ะแหละ จริง ๆ ก็งงนะ เพราะถ้าจะบอกว่าแกทำหนังเขย่าขวัญไม่ได้ก็ไม่ใช่น่ะฮะ เพราะอย่าง The General’s Daughter มันก็กดดันพอตัว

แต่มาคิดอีกทีหนังแบบนี้ก็ทำยากน่ะ ไหนจะพื้นที่จำกัดแล้วปมก็โดนหนังเรื่องอื่นใช้ไปหมดแล้วด้วย ก็เข้าใจนะ แต่มันออกมายังไงต้องว่าอย่างนั้นน่ะนะ

หนังนั้นได้รีเมคมาจากหนังชื่อเดียวกันนี้มีปี 1979 นะ ถ้าให้ฉันพูดถึงซึ่งโครงต่าง ๆ คล้ายกันมาก แต่ดูท่าว่าของเก่าจะดีกว่า ได้คำชมมากกว่าเยอะ แล้วยังมีการสร้างภาคต่อมาอีกในปี 1993

ซึ่งฉันก็ยังไม่ได้ดู แต่ถ้าดูจากตัวอย่างและคลิปกับภาพ ฉันว่าของเก่าต้องสั่นประสาทดีกว่านี้แน่ ๆ เอาคร่าว ๆ คือ ถ้าท่านไม่เคยผ่านสังเวียนหนังสยองมาก่อน และตกใจง่ายก็ลองได้ แต่ถ้าผ่านมาเยอะผมว่าก็ผ่านเรื่องนี้ไปก็ได้ไม่ว่ากัน

อะละอีกจำพวกหนึ่งที่ควรดูคือคนที่ชอบน้องนางเอกฮะ อันนี้ดูได้ เพราะต่อให้หนังไม่มีอะไรแค่ไหน แต่เราก็ยังแฮ้ปปี้ได้นะ