รีวิว Dark World
หลายคนอาจจะ ชื่นชอบการ ดูหนังแนวใหม่ ที่พล๊อตล้ำๆ ของต่างประเทศ โดยเฉพาะเกาหลี ซึ่งช่วงนี้เรียกได้ว่า ท๊อปฟรอมเหลือเกิน แต่ก็อย่าลืมไปว่า เมืองไทยเรา ก็ทำหนังเทือกๆ นั้นออกมาเยอะ เหมือนกัน และหนึ่งในหนังจำนวนนั้น คือหนังที่ผม จะมารีวิวให้ทุกคน ฟังกันในวันนี้ ชื่อเรื่องว่า Dark world หนังไทย ที่คนพูดถึงกัน ในเฉพาะกลุ่มเยอะเหมือนกัน ด้วยความที่มีนักแสดง ที่เต็มไปด้วยคุณภาพ เอาแค่ว่าถ้าดูแค่ พล๊อตเรื่อง กับนักแสดง เรื่องนี้ถึงชั้นว่าน่าสนใจเลยทีเดียว หากใครอยากลองไปรับชม สามารถตามไปดูได้ ที่ ดูหนังออนไลน์4k
ถึงแม้ว่า ในช่วงที่หนังไทยเรื่อง Dark World เกม ล่า ฆ่า รอด เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว แต่กลับดูเหมือนว่า คนส่วนมากก็ยังไม่กล้า จะกลับเข้าโรงภาพยนตร์ สักเท่าไร เนื่องด้วย สถานการณ์ โควิด 19 แต่โชคดีที่ล่าสุด
หนังมาลง ให้ดูฟรีแล้ว ที่ ดูหนังออนไลน์ เป็นที่เรียบร้อย ท่ามกลางกระแส ความเห็นของผู้ชมในเชิงลบ ซะส่วนใหญ่ สามารถอ่านรีวิวหนัง ได้ที่ รีวิวหนังออนไลน์
อันที่จริงแล้ว จะบอกว่าหนังอย่าง Dark World น่าสนใจตั้งแต่วิธีคิด การออกแบบ ฉากหลังเป็น โลกอนาคต หลังจากที่เกิด สงครามโลกครั้งที่ 3 จบไปแล้วสักพัก จนทำให้สภาพเศรษฐกิจพังทลาย ประเทศกลายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน เข้าสู่ยุคมืด และนี่แหละครับคือปัญหาใหญ่ ของหนังเรื่องนี้
เรายังไม่รู้สึกว่าฉากหลังในเรื่อง ของ Dark World นั้นเป็นความ กันดาร ยากจนข้นแค้น แต่กลับมีเป็น แนววินเทจ เท่ๆคูลๆ ซะมากกว่า ประกอบกับงาน ภาพ งานแสง ออกแบบคอสตูม ยิ่งทำให้เรารู้สึกเหมือนตัวละคร กำลังแต่งตัวกันสุดฤทธิ์ เพื่อแข่งกันแซ่บ ในการเข้าร่วมงานประกวดชุด เท่ๆ ในงานเลี้ยงสยองขวัญซะมากกว่า
ตัวหนังว่าด้วยเรื่องของโลกดิสโทเปียหลังจากเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 3 จบลง ทำให้เมืองล่มสลาย คนอยู่อย่างไร้กฏเกณฑ์ คนรวยกลายเป็นพระเจ้า ส่วนคนจนกลายเป็นเพียงของเล่นของคนรวย เล่าผ่านมุมของ เฟียร์ ไอรีน และ รัน จึงถูกบังคับจับให้ลงเล่นเกมที่มีชื่อว่า ‘การค้าประเพณี’ ในหนังใช้คำว่าประเพณี ไม่ใช่ประเวณี จริง ๆ นะ ไม่ได้เขียนผิดแต่อย่างไร บางคนอาจจะฟังแล้วงงว่า แปลมาผิดปะว้า แต่ใช้แบบนี้จริงๆครับ คนที่แข็งแกร่ง ที่สุดก็จะกลายเป็นผู้ชนะ และอยู่รอด ส่วนคนที่แพ้ก็ต้องจ่ายด้วยชีวิต เป็นเกมแห่งความมืด ที่เราพบเห็น ได้ทั่วไป ในหนัง สมัยนี้ ดูหนังฟรี4k
ที่สำคัญตัวละครเอก ของเรื่องเป็นผู้หญิง สามคน รัน นำแสดงโดย น้ำหวาน รักษ์ณภัค, เฟียร์ รับบทโดย แซมมี่ ปัณฑิตา และ ไอรีน แสดงโดย ดิว อริสรา ที่มีชะตากรรม ผูกพันกันมา ตั้งแต่เด็ก หลังจากที่พวกเธอกลายเป็นส่วนหนึ่งของเกม “มอญซ่อนผ้า” ซึ่งได้สร้างบาดแผล ให้กับพวกเธอตั้งแต่วันนั้น จวบจนปัจจุบันเหล่าสาวๆ ได้เติบโตและไปมี เส้นทางเป็นของตัวเอง
รีวิว Dark World หนังเรื่องนี้มีบทวิจารณ์อย่างไร
ข้อแรก ที่ทำให้หนังเรื่อง Dark World เกม ล่า ฆ่า รอด น่าสนใจ สำหรับใคร หลายๆคน เพราะเป็นผลงาน ภาพยนตร์เรื่องล่าสุด ของผู้กำกับ โน้ต จูเนียร์-จิตต์สินธ์ ผ่องอินทรกุล ที่ได้ พิง ลำพระเพลิง มารับหน้าที่เขียนบท คือฉากหลังของเรื่องที่อยู่ในโลก Post Apocalypse ซึ่งน้อยครั้งที่เราจะได้เห็นในภาพยนตร์ไทย และครั้งนี้ก็เล่นด้วยจุดเด่น ของเรื่องนี้ ถ้านับแค่ไอเดีย การสร้าง ต้องบอก ได้ว่า ยอดเยี่ยมมากครับ เว็บดูหนังฟรี
จุดที่สอง คือความกล้า และความตั้งใจ ของผู้กำกับ และทีมผู้สร้าง ที่เราสัมผัส ได้อย่างชัดเจนว่า พวกเขาต้องการ จะนำเสนอมุมมอง และเนื้อหาที่แปลกใหม่ ของภาพยนตร์ไทย ให้ผู้ชมได้ลองสัมผัส เราจึงค่อนข้างสนใจอยู่พอสมควร ว่าด้วยเรื่องราวของ Dark World จะถูกนำเสนอ ออกมาในรูปแบบไหน ต้องลองเข้าไปดู กันเองเลยครับ
และอีกหนึ่งสิ่งที่ผมไม่พูดถึงคงไม่ได้ คืองงงวย พิศดาน ชวนเกาหัว คือในเมื่อหนังไม่สามารถ ถ่ายทอดเรื่องราว ให้เราเข้าใจได้ และทำให้ไม่เข้าใจเรื่องราวแล้ว ความเป็นเหตุเป็นผล ที่ตัวละครจะสามารถ โน้มน้าวให้คนดูคล้อยตาม การกระทำและพฤติกรรม จึงกลายเป็นปัญหา
ในอีกหัวข้อถัดมา จริงอยู่ที่โลกอนาคต อาจจะอยู่ภายใต้ ผู้ทรงอิทธิพลอย่างกวิน โดยเขาสามารถสร้างเกม “ค้าประเพณี” ที่เอาคนมาแข่งกันทำภารกิจโหด ให้ฆ่ากันตายไปข้าง โดยที่ไม่มีเรื่องของ กฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ตามที่ได้บอกไป เมื่อความไม่รัดกุมของบท ที่ไม่อาจจะทำให้เราเชื่อได้ว่า ระบบเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นใน Dark World ได้กลายเป็นสภาวะจำยอม ที่ทำให้ตัวละคร ในเรื่องต้อง กระโจนเข้าสู่เกมดังกล่าว ตรรกะทุกอย่าง ก็พังทลายทันที
ในแง่คอนเซปต์ โดยรวม ต้องบอกเลยว่า ค่อนข้างดีนะครับ สำหรับผู้เขียน หนังเรื่องนี้ เป็นหนังที่มีความแหวกแนวมาก ๆ ทั้งในแง่ของแนวหนัง ที่ถือว่าแหวกแนว และไม่ค่อยได้เห็น กันบ่อยนักในหนังไทย รวมถึงงานโปรดักชันและโทนหนัง ถือว่าทำได้ดีเ ลยสำหรับมาตรฐานหนังไทย
แต่ปัญหาที่ใหญ่ และเอาเรื่องสุดๆ ที่ทำให้หนังเรื่องนี้ มีกระแสลบ คือไม่มีแรงขับบเคลื่อน ตัวบทภาพยนตร์ครับ เพราะโดยรวม ๆ ทั้งเรื่อง ดูเหมือนว่าตัวหนัง จะพยายามเอาหนังหลายแบบ และหลายแนวมาผสมกัน จะเป็นแนว เอาตัวรอด ก็มี ดิสโทเปียก็เอา แอ็กชันทริลเลอร์ก็มา แนวจิตวิทยาก็มี แนวหนังเฟมินิสต์และเพศหลากหลายก็มาด้วย
ก็เลยทำให้ปมหนังในองก์แรกมีหลายตัวละคร และมีปมหลายทิศทางมากเกินไป จนทำให้ปมประเด็นหลักไร้พลังและไปไม่สุดสักทาง
เอาเข้าจริง บางปมของบางตัว ละครนี่แทบจะไม่จำเป็นด้วยซ้ำ หรือถ้าจะให้ผู้เขียนพูดแบบใจร้ายก็คือ ตัวละครบางตัวนี่แทบจะตัดออกไปได้เลยครับ เพราะนอกจากจะไม่มีผลต่อเส้นเรื่องแล้ว หลายครั้งปมเรื่องอันแสนยุ่บยั่บ ของตัวละคร ที่ไม่จำเป็นเหล่านั้น ก็ดูจะทำให้เรื่องในบทแรก ดูสับสนปั่นป่วนไปหมด แล้วนั่นก็ส่งผลให้ตัวหนัง ขับเคลื่อนไปแบบสับสน และก็ไม่รู้ว่าจะเอาใจ ช่วยตัวละครตัวไหนได้บ้าง
น่าเสียดายมากที่ความพยายามในการนำเสนอ “อำนาจของผู้ชนะ” ซึ่งเป็นประเด็นที่ Dark World พยายามจะพูดถึงอยู่ตลอดเวลา ยังไม่รวมไปถึงคาแรกเตอร์แนว สาวร้าย ของดิว อริสรานั้น เป็นบทที่ดูท้าทาย มีอะไรให้สำรวจเยอะแยะมากมาย ประกอบกับเมื่อหนังขมวดปมในช่วงท้าย ยิ่งทำให้ตัวละครนี้ มีมิติความหลากหลายที่หนังน่าจะเปิดโอกาสให้คนดูได้ไปสำรวจให้มากกว่านี้
เพราะตลอดทั้งเรื่องดูเหมือนตัวหนังจะใช้งานตัวละครนี้หนักไปทาง วัตถุทางเพศ มากกว่าจะทำให้เราเชื่อว่า ตัวละครนี้ผ่านอะไรมา จึงส่งผลให้เธอกลาย เป็นตัวละครที่มีความคิดที่ใช้ เซ็กส์ เป็นทั้งเดิมพันและข้อต่อรองในเวลาเดียวกัน
จุดเด่นจุดด้อยของหนังเรื่องนี้
จุดเด่นข้อแรกของ หนังเรื่องนี้ ที่เราชื่นชอบมากๆ คือการออกแบบงานสร้างของทีมงานเบื้องหลังที่ได้เนรมิตโลกแห่งความป่าเถื่อนออกมาได้อย่างสมจริง โดยเฉพาะฉากในสลัมที่พาผู้ชมไปสัมผัสกับวิถีชีวิตของผู้คนภายใต้โลกอันไร้กฎเกณฑ์ ทั้งตลาดสดอันวุ่นวายและเต็มไปด้วยความรุนแรง บ้านพักของเฟียร์และรันที่เต็มไปด้วยฝุ่นและสนิม
ไปจนถึงลานประลองที่ถูกใช้ในการแข่งขัน ซึ่งทำให้เราสัมผัสได้ถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียดของทีมงานเบื้องหลัง
รวมถึงการออกแบบคาแรกเตอร์ของ 3 ตัวละครหลักที่โดดเด่นไม่แพ้กัน ไล่เรียงตั้งแต่ ไอรีน หญิงสาวมากเสน่ห์ที่เต็มไปด้วยเล่ห์กล และสองสาวสุดแกร่งอย่าง เฟียร์ และ รัน ที่ตัดสินใจก้าวเข้าสู่การแข่งขันเพื่อทำเป้าหมายของตัวเองให้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม Dark World ยังคงมีจุดด้อยสำคัญให้เรากล่าวถึงอยู่เช่นกัน โดยเฉพาะประเด็นของเนื้อเรื่องและกลวิธีนำเสนอที่ไม่สามารถชักชวนให้เรามีความรู้สึกร่วมไปกับภาพยนตร์เท่าไรนัก
เริ่มต้นที่ประเด็นเนื้อเรื่องที่ดูเหมือนว่าตัวผู้กำกับจะพยายามใส่ปมปัญหาที่อยากจะเล่าไว้มากเกินไป ทั้งอดีตอันขมขื่นของ ไอรีน, เฟียร์ และ รัน ความสัมพันธ์อันซับซ้อนของพวกเธอ, เป้าหมายที่พวกเธอต้องการจะเอาชนะเกม, ความขัดแย้งระหว่างสองผู้มีอำนาจอย่าง กวิน (วิลลี่ แมคอินทอช) และ เฮียหม่า (เดวิด อัศวนนท์) ไปจนถึงปมปัญหาของตัวละครรอบข้างอีกหลายตัวที่ไม่ได้ถูกปูเรื่องราวให้ผู้ชมได้รู้จักเท่าที่ควร
แม้ว่าปมปัญหาเหล่านี้จะมีความน่าสนใจมากๆ แต่ด้วยประเด็นที่อยากจะเล่ามีมากเกินกว่าจะควบคุม มันจึงส่งผลให้ภาพยนตร์กลับนำเสนอปมปัญหาเหล่านั้นได้เพียงแค่ผิวเผินเท่านั้น ซึ่งผลลัพท์ที่ตามมาคือภาพยนตร์ไม่สามารถชักชวนให้เรามีความรู้สึกร่วมและอยากจะเอาใจช่วยให้ 3 ตัวละครหลักเอาตัวรอดจากเกมแห่งความตายอย่างที่ควรจะเป็น
