รีวิว Lawless Lawyer

 

Lawless Lawyer เป็นซีรี่ส์ที่ใช้ “การต่อสู้” เพื่อหาข้อมูล แต่ใช้ “กฎหมาย” เพื่อเป็นอาวุธ ในการทำลายเหล่าคนร้ายที่เบื้องหน้าฉาบไว้ด้วยหน้าที่การงานและภาพลักษณ์ทางสังคมที่ดูดี แต่เบื้องหลังคือความตะกละตะกลามอย่างไม่จบสิ้น เป็นอีกเรื่องที่คอละครกฎหมายก็ไม่ควรจะมองผ่าน คอซีรี่ส์แอคชั่นบู้ล้างผลาญก็ไม่ควรจะปล่อยข้าม และคอซีรี่ส์เกาหลีก็ไม่ควรที่จะพลาด

เรื่องเริ่มมาด้วยบงซังพิล (Joon-Gi Lee) อดีตนักเลงหัวไม้ที่เบนเข็มทิศชีวิตมาเป็นทนายความ แม้ว่าชีวิตการเป็นทนายความของเขากำลังประสบความสำเร็จ แต่สิ่งที่ บงซังพิล ไม่สามารถล้มเลิกได้ก็คือ เวลาที่จะได้แก้แค้นให้กับแม่ ที่ถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตาของเขา เพียงแต่ บงซัลพิล เลือกที่จะใช้วิธีดำเนินการตามกฎหมาย(แบบนอกกฎหมาย)เพื่อนำคนผิดมาลงโทษ เขาจึงเดินทางมายัง กีซอง บ้านเกิดและเลือกสถานที่เดิมที่เคยอาศัยร่วมกับแม่ เพื่อเปิดสำนักงานกฎหมายนอกกฎหมายขึ้นมา

นี่เป็นหนึ่งในซีรีส์แนวกฏหมายผสมผสานความแอคชั่นกับเรื่องราวการกลับมาสะสางความแค้นในอดีตแต่ไม่ได้แก้แค้นด้วยการต่อสู้แต่กลับใช้ “กฎหมาย” เป็นอาวุธหลักเพื่อต่อกรกับเหล่าคนร้ายผู้ทรงอิทธิพล ละครเรื่องนี้ถือเป็นการกลับมารับละครเรื่องแรกในรอบปี 2018 ของ อีจุนกิ กับบทบาททนายความหนุ่มใจนักเลง บงซังพิล การแสดงของนักแสดงหนุ่มขวัญใจแม่ยกคนนี้ ยังคงมีความลื่นไหลในการสวมบทบาทได้อย่างมืออาชีพ ด้วยชั่วโมงบินในวงการบันเทิงอันแสนยาวนาน ก็คงพอการันตีฝีมือกันได้อยู่ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว มีของแถมเพิ่มเติมมาอีกด้วยฉากบู๊ที่แสดงทักษะการต่อสู้ในระดับเซียนซึ่งถือเป็นงานถนัดของอีจุนกิอยู่แล้ว ยิ่งทำให้อรรถรสในการรับชมเพิ่มขึ้นได้อีกอย่างไม่น่าแปลกใจ

ซีรีส์กฎหมายที่ออกจะไม่มีเนื้อหาเกี่ยวกับกฎหมายเท่าไหร่ แม้จะมีฉากต่อสู้ทางกฎหมายกันในชั้นศาล แต่ผมเองมองว่าเรื่องนี้เป็นซีรีส์ดราม่า ที่ตัวละครเอกทำงานเกี่ยวกับกฎหมายเสียมากกว่า ที่กล่าวแบบนี้ก็เพราะลักษณะการดำเนินเรื่อง เน้นไปที่ปมในอดีตของตัวละครเอก การเชือดเฉือนอารมณ์ ชิงไหวพริบ ความได้เปรียบกันนอกศาล นอกข้อกฎหมาย มากกว่าการใช้ข้อมูลหลักฐาน จากการสืบสวนหรือข้อกฎหมายมาต่อสู้หักล้างกัน เอาจริงมันก็ตามพล็อตนั่นแหละ ที่เน้นการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือให้กับสิ่งนอกกฎหมาย

 

รีวิว Lawless Lawyer-2

 

เหมือนกับผู้พิพากษาชามุนซูก ที่ตั้งตนเป็นใหญ่ ผู้นำของ 7 ฝ่ายที่คอยทำหน้าที่ชี้นำเมืองกีซอง ตักตวงผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเอง โดยที่ไม่มีใครสามารถตรวจสอบพวกเขาได้ เมื่อใน 7 ฝ่ายนั้นมีทั้ง ผู้พิพากษา อัยการ ทนายความ นักเลง เจ้าของสื่อ นักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งตัวผมเองรู้สึกถูกใจในส่วนนี้ของซีรีส์มาก ที่กล้าเลือกหยิบเอากลุ่มผู้มีอิทธิพลที่ถือกฎหมายในมือมาเป็นตัวร้ายหลัก

โดยในเรื่องได้ประกบคู่กับนางเอกหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มแต่ฝีมือการแสดงไม่เบาเลยทีเดียว ซอเยจี ก่อนหน้านี้ส่วนตัวก็ชอบเธอมาจากฝีมือการแสดงใน เรื่อง Save Me มาก่อนแล้ว การกลับมาครั้งนี้ เธอสวมบทบาท ฮาแจอี ทนายความสาวที่ซื่อตรงต่อสายอาชีพที่ทำอยู่และจะต่อสู้เพื่อความถูกต้องโดยไม่ลังเลถึงผลที่จะตามมา นอกจากความพริ้วของฝีมือการแสดงของเธอจะดีงามแล้ว ความเคมีเข้ากันได้ดีของทั้งพระนางนั้นก็ต้องยอมรับว่าเป็นจุดขายของเรื่องนี้ได้อีกอย่างเลย ขอคอนเฟิร์มว่าคู่นี้ไม่ทำให้ผู้ชมผิดหวังแน่นอน

ส่วนฝ่ายตัวละครเอกอย่าง บงซังพิลกับฮาแจอี นั้น ในทีแรกสองตัวละครนี้ค่อนข้างขัดแย้งกันพอสมควร เพราะนอกจาก บงซัลพิล จะกล่าวหาคนที่เธอเคารพแล้ว เธอยังมองว่า บงซังพิล นั้นไม่ใช่ทนายความที่ดีหรืออาจไม่ใช่คนดีด้วยซ้ำ ที่เธอจำใจทำงานร่วมกันกับเขาก็เพราะความจำเป็น

แต่หลังจากที่ความจริงในอดีตเริ่มกระจ่างชัดขึ้น สองตัวละครนี้ก็ปรับความเข้าใจกันได้อย่างรวดเร็ว จนช่วงแรกรู้สึกไม่อินกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่เหมือนกัน สำหรับ บงซังพิล นั้นจากการปูพื้นเบื้องหลังตัวละครนี้ พอเข้าใจได้อยู่แล้วที่จะตกหลุมรัก แต่กับ ฮาแจอี ผมคิดว่าคงเพราะบรรยากาศพาไปมากกว่าในทีแรกซะงั้นไป

 

รีวิว Lawless Lawyer-3

 

รีวิว Lawless Lawyer ความรู้สึกหลังดู อาจจะสปอยนะครับ

หากมองจากภาพรวมแล้วนักแสดงทุกคนในเรื่องนี้ก็สามารถแสดงฝีมือได้ดีทั้งทีม และยังรวมถึงบทละครและการตัดต่อเรื่องราวที่กระชับรวดเร็ว ไม่ยืดเยื้อมากจนเกินงาม เพิ่มเติมที่ฉากแอคชั่นสลับตัดไปมากับเรื่องราวซึ่งทำได้สนุกเพลิดเพลินใจในการรับชมอย่างไม่ติดขัดเลย แต่โดยรวมของเนื้อเรื่องทั้งหมด ความเห็นส่วนตัวก็ยังรู้สึกว่าเป็นเรื่องราวที่พอเดาได้และไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่ซักเท่าไหร่ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่โอเคสนุกดีแต่มันยังสามารถทำให้สนุกได้มากกว่านี้อีกเยอะเลย

ซีรีส์ไม่ถึงกับเรียกได้ว่าตั้งคำถามกับกระบวนการยุติธรรม หรืออำนาจในการตัดสินชีวิตผู้คน แต่จากเนื้อหาของซีรีส์แล้วมันก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะพูดถึงประเด็นนี้ เมื่อเราจะรู้ได้อย่างไรว่ากระบวนการยุติธรรมนั้น มันยุติธรรมอย่างแท้จริงหรือเปล่า จะแน่ใจได้อย่างไรว่าไม่มีการตั้งธงในการตัดสินโทษหรือละเว้น

นอกจากเนื้อหาการต่อสู้ของสองฝ่ายแล้ว เนื้อหาที่สนุกไม่แพ้กันก็คือ การใส่หน้ากากเข้าหากันของกลุ่มผู้นำ 7 ฝ่าย ที่ต่างคนก็ต่างคำนึงถึงผลประโยชน์ของตัวเอง และพร้อมจะแทงข้างหลังอีกฝ่ายได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะผู้พิพากษาชามุนซุก ที่เรียกได้ว่าแม้ภายนอกจะดูเป็นมิตร เอ็นดูฮาแจอีมากแค่ไหน แต่หากถามว่าใครที่เลวร้าย เลือดเย็นที่สุดในเรื่องคงไม่พ้นตัวละครนี้
เพราะต่อให้กฎหมายเขียนออกมาอย่างเที่ยงธรรมแค่ไหน แต่มนุษย์ที่มี รัก โลภ โกรธ หลง เป็นผู้ใช้เครื่องมือนั้น อย่างที่ได้เห็นในซีรีส์เรื่องนี้ว่า เมื่อคนถือกฎหมายมีอำนาจมันเกิดช่องโหว่มากมาย ที่จะใช้อำนาจนั้นเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง นำมาเป็นเกราะป้องกันตัวเอง และกำจัดใครก็ตามที่ขวางเส้นทางสู่อำนาจกันทั้งนั้น
การสื่อถึงปัญหาที่มาพร้อมกับละครกฎหมายในทุกเรื่องรวมถึงเรื่องนี้ด้วยคงหนีไม่พ้น “การคอร์รัปชั่น” ของเหล่าข้าราชการรัฐหรือผู้ที่มีอำนาจอยู่ในมือแล้วนำมาใช้ไปในทางมิชอบ พอเริ่มดูมาหลายๆเรื่องพลอตที่มีความคล้ายกันก็พอจะเดาได้ว่า การคอร์รัปชั่นในเกาหลีใต้น่าจะมีเยอะอยู่เลยทีเดียวเชียว ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่เจริญแล้วหรือประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างไทยเรา เรื่องเหล่านี้มันจะทำลายล้างให้หมดจดไปเลยคงจะยากอยู่ การแก้ปัญหาคงต้องอยู่ในมือของประชาชนทุกคน เริ่มที่จะหยุดการจ่ายใต้โต๊ะ เริ่มที่จะเคารพกฎหมายและไม่ฝ่าฝืนต่อกติกาสังคม เริ่มที่จะสอนลูกสอนหลานให้รู้จักความเป็นระเบียบและการทำให้โลกน่าอยู่อย่างสามัคคีกัน … คนอื่นจะยังไงไม่มีทางรู้ได้ แค่เริ่มทำจากตัวเองไปยังครอบครัวและคนรอบข้าง แค่นี้ก็ช่วยให้สังคมน่าอยู่มากขึ้นเยอะได้แล้ว
ในภาพรวมถือว่ายังตอบโจทย์ความบันเทิงได้ดี อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าเหมือนเป็นซีรี่ส์ดราม่า คอมเมดี้ มากกว่าจะเป็นซีรี่ส์สืบสวน ต่อสู้ทางกฎหมาย กลุ่มคนที่น่าจะถูกใจเรื่องนี้ก็คงเป็นคอซีรีส์เกาหลีตัวจริง เสียงจริง ส่วนผมที่เป็นขาจรก็เลยไม่ฟินเท่าไหร่ เพราะเนื้อหาค่อนข้างคืบหน้าช้า เกลี่ยน้ำหนักในการเล่าเรื่องราวตัวละครหลายตัว ซึ่งมันดีในแง่ของรายละเอียดมีที่มาที่ไป เหตุผลของแต่ละการกระทำ เลยไม่มีความรำคาญตัวละครเพราะแต่ละการกระทำ มันมีเหตุผลรองรับให้พอเข้าใจได้ แต่ผมเองที่ชอบแนว สืบสวน เข้ม ๆ ดำเนินเรื่องเร็ว เลยออกแนวสนุกไปด้วยได้แต่ก็ไม่ถึงกับประทับใจเท่านั้นเอง
เป็นซีรี่ส์เกาหลีอีกหนึ่งเรื่องที่เล่าถึงการแก้แค้น แต่เนื้อเรื่องใส่รายละเอียดได้น่าสนใจกว่านั้น พล๊อตเรื่องที่น่าสนใจ อย่างอดีตแนวหน้าในแก๊ง ยากูซ่า ที่เบนเข็มทิศชีวิตมาเป็นทนายความ แม้ว่าชีวิตการเป็นทนายความของเขากำลังประสบความสำเร็จ แต่สิ่งที่ บงซังพิล ไม่สามารถล้มเลิกได้ก็คือ เวลาที่จะได้แก้แค้นให้กับแม่ ที่ถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตาของเขา เพียงแต่ บงซัลพิล เลือกที่จะใช้วิธีดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อนำคนผิดมาลงโทษ เขาจึงเดินทางมายัง เมืองบ้านเกิด และเลือกสถานที่เดิม ที่เคยอาศัยร่วมกับแม่ เพื่อเปิดสำนักงานกฎหมายนอกกฎหมายขึ้นมา และ เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป สามารถติดตามชมได้ทุกตอนที่ ดูหนังออนไลน์

เหตุผลที่ควรดูหนังเรื่องนี้ ดีอย่างที้่คิด ถึงจะไม่ได้อะไรมากมายแต่ก็สวยงามตามท้องเรื่อง

นักแสดงมากฝีมือคุณภาพจนแทบอยากจะทะลุจอ

อีจุนกิ (Lee Joon Gi)

คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากมาย อีจุนกิกลับมาอีกครั้งกับบททนายความผู้ฝึกฝนการต่อสู้จนพ่วงตำแหน่งลูกพี่ของแกงค์มาเฟีย คนที่รวมคำว่า ‘นักกฎหมาย’ และ ‘อันธพาล’ เอาไว้ในหนึ่งเดียว การนำบุคลิกของคนสองกลุ่มที่แตกต่างกัน มาไว้ในคนเดียวกันทำให้ตัวละครที่อีจุนกิมารับบทในเรื่องนี้แตกต่างจากทนายทั่วไป เขารับบทเป็น บงซังพิล ทนนายหัวรั้น หมัดหนัก เก่งการต่อสู้ ผู้ยึดหลัก ‘รู้กฎหมาย เพื่อที่จะได้เอาชนะกฎหมาย’ และแน่นอนว่าอีจุนกิไม่ทำให้เราผิดหวังในเรื่องของการแสดง ถ่ายทอดทั้งความน่ากลัว, ตึงเครียด, ความพยาบาทที่จะแก้แค้น รวมถึงบทตลกที่มาคลายเครียดได้ถูกเวลา เขาก็เอาอยู่ อีกเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ เรื่องนี้เขามาในชุดสูทเข้ารูป คือโคตรเท่โคตรอันตราย หล่อแบบแบดก็ได้ ยิ่งเวลาขึ้นศาลแล้วพูดภาษากฎหมายยิ่งดูเท่ มีความรู้ ดูแพง

 

 

ซอเยจี (Seo Ye Ji)

ด้วยบุคลิกและทักษะการแสดงของซอเยจี ทำให้เธอมักได้บทบาทของผู้หญิงแกร่งตั้งแต่ในเรื่อง “Moorim School” และ “Save Me” บทแบบนี้อาจจะเหมาะกับเธอมากที่สุดก็ได้ และเรื่องนี้ก็เช่นกันที่เธอมารับบท ฮาแยจี ทนายความผู้ยึกมั่นในความถูกต้อง และไม่กลัวที่จะพูดความคิด พร้อมต่อสู้ในโลกที่ผู้ชายยังเป็นผู้นำอยู่ เธอไม่ได้รับบทเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งเพียงด้านเดียว แต่ซีรีย์ยังนำเสนอบุคลิกอื่นๆของตัวละครตัวนี้อย่างน่าสนใจเช่นเดียวกันกับเพราะเอก เธอมีทั้งด้ายเข้มแข็งและอ่อนไหว

 

 

ดูแล้วสนุกไม่เครียดเพราะตัวโจ๊กเพียบ

คุณบงซังพิลจ้างแกงค์รับจ้างทวงหนี้ ที่เคยเป็นเจ้าของตึกเสื่อมโทรมก่อนที่เขาจะมาเปิดสำนักงานกฎหมาย เป็นแกงค์ที่ไม่ได้โหด แต่เน้นสร้างความวุ่นวายเสียมากกว่า ทีมนี้เป็นทีมที่เข้าใจง่าย บุคลิกไม่ซับซ้อน เหมือนกองหนุนของพระเอก ช่วยงานซังพิลด้วยการสร้างความก่อกวนตามแบบที่พวกเขาช่ำชอง ดูหนัง

การเป็นแกงค์อันธพาลเป็นสิ่งที่ยากจะเปลี่ยนแปลง พวกเขาจึงใช้ชีวิตด้วยวิธีการเดิมแต่ทำให้ถูกต้อง ทำให้ผู้ชมเกลียดแกงค์นี้ไม่ลง แถมเป็นคนสร้างเสียงหัวเราะให้แก่เรื่องนี้อีกด้วย ความจงรักพักดีต่อซังพิลของพวกเขาดูแล้วทำให้หัวใจอบอุ่น เหมือนมีเพื่อนพ้องที่เชื่อถือได้ในยามที่เราต้องต่อสู้ ในขณะที่เนื้อเรื่องพาเราจมดิ่งไปสู่การต่อสู้กับกฎหมายในเมืองที่แสนดำมืด คาแรกเตอร์ของพวกเขาทำให้คนดูอย่างเราไม่เครียดมาก

‘การต่อสู้ด้วยกฎหมาย’ ฉบับทันสมัย

ถ้าคุณกำลังคิดว่าจะได้ดูซีรีย์ที่มีทนาย มีอัยการ มีผู้พิพากษา มานั่งตรงหน้าศาลแล้วต่อสู้กันด้วยหลักฐาน กฎหมาย คำพูดโต้แย้งต่างๆในชั้นศาล คุณคิดผิด! บงซัลพิลไม่ใช่ทนายที่ทำงานแค่การเข้าไปว่าความให้เสร็จเป็นคดีไป แต่ตัวละครที่ถูกปูเส้นทางให้มีชีวิตยากลำบากกับการที่ต้องเติบโตในแกงค์อันธพาลของลุงหลังจากสูญเสียแม่ไป เขาจึงรู้วิธีต่อสู้ทั้งด้วยการใช้หมัดและสมอง อีจุนกิฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดีในบทนี้ คุณจะเห็นหลายฉากที่เขาต่อสู้ในชุดสูทและเท่มาก ยิ่งเวลาจ้องตาเขาตอนที่กำลังเข้าสู่โหมดอาฆาตหรือโศกเศร้า เขาถ่ายทอดตัวละครตัวนี้ออกมาได้เป็นอย่างดีแม้ไม่ได้แสดงมาก เพียงแค่สายตาที่ส่งมาเท่านั้นก็ทำให้เราเข้าใจความเจ็บปวดของตัวละครตัวนี้แล้ว

จากผู้ถูกล่า กลายเป็นผู้ล่า พลอตเรื่องที่จะทำให้คุณเอาใจช่วยให้พระเอกจับคนร้ายได้เสียที

ซีรีย์เกาหลีอีกหนึ่งเรื่องที่เล่าถึงการแก้แค้น แต่เนื้อเรื่องใส่รายละเอียดได้น่าสนใจกว่านั้น แทนที่จะตั้งหน้าตั้งตาแก้แค้น บงซังพิลเลือกที่จะค่อยๆเตรียมพร้อมตัวเอง รอคอยเวลาที่เหมาะสม และกลับมาแก้แค้น ผ่านไปกี่ปีก็ยังไม่สาย รวมถึงผูกตัวละครต่างๆไว้ด้วยกัน ตั้งแต่ตอนเด็ก ทั้งตัวพระเอกเองที่สัญญากับแม่ว่าจะเป็นทนายที่ดี รวมถึงความผูกพันกับนางเอกที่เขารู้จักเธอมาตั้งแต่เด็ก แต่เก็บไว้เป็นความลับ

เคมีระหว่างคู่พระนาง และความโรแมนติก

ขอเล่าเรื่องของทั้งคู่ในซีรีย์กันก่อน : ซังพิลจ้างแยจีซึ่งถูกพักงานหลังจากไปต่อยผู้พิพากษาในศาลขณะที่เธอทำคดีคุกคามทางเพศ เมื่อทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน ก็ดูจะความเห็นไม่ตรงกัน เพราะแยจียึดถือความถูกต้องในการทำคดี ส่วนซังพิลนั้นก็ยึดความถูกต้องร่วมไปกับทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้สิ่งที่เขาอยากได้ แม้คนปกติเขาจะไม่ทำกันก็ตาม รวมถึงการเป็นทนายและหัวหน้าแกงค์อันธพาลไปด้วย แต่เมื่อแยจีเข้ามาทำงาน เธอก็เริ่มเห็นด้านดีของพวกเขา การได้เห็นความสัมพันธ์ของพระเอกและนางเอกใกล้ชิดกันเรื่อยๆตอนทำงาน และตอนที่ซังพิลปกป้องแยจี จะยิ่งทำให้คุณคิดถึงตอนที่พวกเขารักกันแล้วว่าจะเป็นอย่างไร แค่ดูเบื้องหลังการถ่ายทำก็รู้แล้วว่าคงสนุกไม่น้อยเลยทีเดียว

 

 

ติดตามรีวิวหนังเรื่องอื่นๆได้ที่ รีวิวหนังออนไลน์

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *