รีวิว The Great Battle หนังเรื่องนี้เปิดมาด้วยความที่เป็นหนังใหม่ และไม่ค่อยมีคนรู้จักสักเท่าไรในวงกว้าง แต่เป็นที่ล่ำลือกันอย่างมากในเซียนวงการหนัง หนังเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ก่อนรับชมมาอ่านรีวิวคล่าวๆ กันก่อนดีกว่าครับผม หนังเปิดมาด้วยแม่ทัพยางมันชุน (รับบทโดย โจอินซอง) นักรบผู้กรำศึก ประสบความสำเร็จมาหลายสนามรบเป็นที่เลื่องลือ และทีมนายทหารเชียวชาญหลากหลายศาตราวุธ เช่น  มือทวนดุดัน ชูซูจี  (รับบทโดย แบซองอู) ดาบใหญ่แกร่งกร้าว พุง (รับบทโดย พัคบยองอึน) ขวานคู่พิฆาต ฮวัลโบ  (รับบทโดย โอแทฮวาน)

ในการรบครั้งยิ่งใหญ่พยายามที่จะรักษารากเหง้าทางประวัติศาสตร์ของ Siege of Ansi ที่แท้จริง ในภาพยนตร์ นายทหารหนุ่มจากเมืองที่มีชื่อเดียวกันนี้ ซามุล (นัมจูฮยอก) ถูกส่งโดยขุนศึกยอน (ยูโอซอง) เพื่อลอบสังหารหยาง ติดตามรับชมได้ที่ ดูหนังฟรี

ในชีวิตจริง Yang เป็นแม่ทัพที่ไม่ยอมมอบตัวต่อ Yeon หลังจากที่ Yeon ลอบสังหารกษัตริย์ Yeongnyu และต่อมาได้เข้าควบคุมรัฐบาลของ Goguryeo หลังจากความพยายามในการยึด Ansi เบื้องต้นล้มเหลว Yeon ก็ยอมปล่อยให้ Yang ยังคงเป็นผู้บัญชาการของ Ansi ต่อไป

 

 

ยามถึงบทซึ้งก็ตื้นตันเรียกน้ำตาหยดแหมะได้ตามสูตรสำเร็จของหนังสงคราม นอกจากเรื่องการแพ้ชนะแล้ว ย่อมต้องมีผู้จากไปเพื่อปกป้องคนอยู่ข้างหลัง ผู้เสียสละเพื่ออนาคตของประเทศและลูกหลานของชาติ เหล่าคนดีที่เราๆผู้ชมนับถือน้ำใจ ไม่อยากให้พวกเขาต้องตายจากเลย

ในมุมของทีมนักแสดง ได้เสื้อผ้า หน้าผมจัดเต็มดูเนี๊ยบมาก เมคอัพหน้าดำผิวกร้าน มอมแมมฝุ่นดินและเลือดสาดกระเซ็นอย่างเนียนได้อารมณ์มาก

แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสองหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาเกินไปรึปะ จึงดูแล้วสะดุดๆ โจอินซอง หลายฉากที่อยู่ในแอคติ้งแบบมู้ดผ่อนคลาย ไม่ทำให้ผู้เขียนเชื่อว่าเขาเป็นแม่ทัพ ดูเหมาะจะเป็นนักปราชญ์มากกว่า คือเฮียยิ้มทีไร ฉายแววกรุ้มกริ่มฉลาดซับซ้อนเจ้าเล่ห์ยังไงก็ไม่รู้ 555

ชื่อเรื่อง: The Great Battle
ชื่อเกาหลี: 안시성
ชื่อสากล: Ansi Fortress
ประเภท: ประวัติศาสตร์ , แอคชั่น , สงคราม
ผู้กำกับ: คิมกวังชิก
ผู้เขียนบท: คิมกวังชิก , คิมยูจิน , พัคอึนคโย , จองอึยมก
นักแสดงนำ: โจอินซอง , นัมจูฮยอก , พัคซองอุง
ฉายเมื่อ: 19 กันยายน 2018
ความยาว: 2 ชั่วโมง 15 นาที

รับชมได้ที่ เว็บดูหนัง

รีวิว The Great Battle รีวิวจากมุมมองผู้เขียน

ว่าแล้วก็มาเริ่มรีวิวหนังเรื่องนี้จากมุมมองของผมกันเลยพอถึงบทผู้นำเข้มๆในหน้าที่แม่ทัพ ก็ถือว่าทำได้ดีนะ ส่วน นัมจูฮยอก หุ่นเพรียวร่างน้อย หน้าละอ่อน จนดูบอบบางเกินไปกับบททหาร อาศัยเสื้อเกราะหนาๆบึกๆช่วยให้ขึงขังขึ้นได้บ้าง ฝีมือการแสดงก็พัฒนาขึ้นนะ เช่นเดียวกับซอลฮยอน เธอมีบทไม่มาก แต่ก็ทำได้ดีทีเดียว

ในสถานการณ์พลิกผันอย่างรวดเร็วเมื่อจักรพรรดิ Taizong เป็นผู้นำการโจมตีของกองทัพ Tang คนของ Yang และผู้ควบคุมหน้าไม้หญิงจำนวนหนึ่ง จัดการกับคลื่นหลังจากคลื่นแห่งการต่อสู้ กองทัพ Tang ปรับใช้ทุกอย่างตั้งแต่บันไดไปจนถึงหอคอยปิดล้อม และเริ่มสร้างเนินดินเพื่อพยายามไต่กำแพงสูงตระหง่านปกป้อง Ansi ในเวลาเดียวกัน หยางได้ใช้ระบบป้องกันที่สร้างสรรค์ซึ่งมีตั้งแต่หินต่ำต้อยไปจนถึงระเบิดน้ำมันที่จุดไฟด้วยลูกศรเพลิง

 

 

อาณาจักรโกคูรยอ คือ หนึ่งในสามอาณาจักรของเกาหลีโบราณในยุค 37 ปีก่อนค.ศ. – ค.ศ. 668 ซึ่งมีโกคูรยอ แพคเจ และชิลลา ตั้งคร่อมอยู่บนพื้นที่เกาหลีเหนือและคาบสมุทรเหลียวตงของจีนในปัจจุบัน แต่ละอาณาจักรก็มีการอยู่แบบสันติบ้าง รุกรานแผ่อำนาจกันไปมาบ้าง

แต่มักไม่ประสบความสำเร็จ จนมาถึงสมัยราชวงศ์ถังของจีน อาณาจักรชิลลาที่หันไปเป็นพันธมิตรทางทหารกับจีน เพราะถูกแพคเจและโกคูรยอร่วมมือกันโจมตี จีนจึงอาศัยข้ออ้างนี้ส่งกองทัพเข้าหาโกคูรยอ (ถ้าใครเคยดูซีรีส์ The Great Queen Seondeokา จะมีอ้างอิงเล่าเรื่องศึกระหว่างอาณาจักรและการพึ่งพาจีนของชิลลา) บทความที่ เว็บรีวิวหนัง

จนมาถึงสมัยราชวงศ์ถังของจีน อาณาจักรชิลลาที่หันไปเป็นพันธมิตรทางทหารกับจีน เพราะถูกแพคเจและโกคูรยอร่วมมือกันโจมตี  จีนจึงอาศัยข้ออ้างนี้ส่งกองทัพเข้าหาโกคูรยอ (ถ้าใครเคยดูซีรีส์ The Great Queen Seondeok มา จะมีอ้างอิงเล่าเรื่องศึกระหว่างอาณาจักรและการพึ่งพาจีนของชิลลา) อีกทั้งจีนก็มีความอยากเอาชนะโกคูรยอ เรียกศักดิ์ศรีคืนจากที่ราชวงศ์ก่อนทำไม่สำเร็จสักที และ เป็นจังหวะที่ในโคกูรยอเอง นายพลยอนแกโซมุนเริ่มแสดงอำนาจ ทำรัฐประหารพระเจ้ายองนยู และยกพระเจ้าโพจังขึ้นเป็นหุ่นเชิด

ความแข็งกร้าวของยอนโซแกมุน ต่างจากพระเจ้ายองนยู จึงเป็นอีกข้ออ้างที่จีนต้องรีบมาเปิดศึกกับโคกูรยอ การศึกครั้งนี้นำทัพโดยหลี่ซื่อหมิน (ซึ่งคือพระเจ้าถังไท่จง ผู้เก่งกล้าการสงคราม) บัญชาการเคลื่อนกองทหารหลักหลายแสน บุกยึดป้อมปราการตามรายทางชายแดนโคกูรยอไปเกือบหมด มาจนถึงป้อมอันซี ซึ่งเป็นด่านสุดท้ายที่จะเข้าสู่เมืองพยองยาง ซึ่งคือเมืองหลวงของโกคูรยอ

ละครสงครามครั้งยิ่งใหญ่ จากเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ ทำให้น่าสนใจเป็นบทเรียนประวัติศาสตร์ ฉากต่อสู้มีความหฤหรรษ์ อัดแน่นไปด้วยแอ็คชั่นและสนุกสนาน มีการพัฒนาที่ไม่น่าเชื่อและเสรีภาพอันน่าทึ่งอยู่บ้าง แต่โดยทั่วไปแล้วทำได้ค่อนข้างดีและน่าเชื่อถือ ภาพยนตร์สงครามเอเชียหลายเรื่องกลายเป็นฉากศิลปะการต่อสู้ที่ไร้สาระ และฉันกังวลว่าเรื่องนี้จะเป็นไปตามเส้นทางนั้นด้วย โชคดีที่มันไม่ได้ เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ที่ ดูหนังออนไลน์

 

รีวิว The Great Battle-2

 

เพื่อเพิ่มความหลากหลายและการมีส่วนร่วมของนักเขียนและผู้กำกับในพล็อตย่อยสองสามเรื่อง: ผู้ที่จะเป็นสายลับ/มือสังหาร ความเกลียดชังระหว่างผู้บัญชาการระดับสูงสองคนของ Manchun มุมโรแมนติกที่เกี่ยวข้องกับน้องสาวของ Manchun

และผู้บัญชาการทหารม้าของเขา ในภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาน้อย สิ่งเหล่านี้จะจบลงด้วยเวลาหน้าจอมากเกินไปและทำให้เนื้อหาหลักล้นหลาม ทำให้หนังค่อนข้างน่าเบื่อ โชคดีที่สิ่งเหล่านี้ไม่เคยถูกพัดพาไปสู่สิ่งที่ใหญ่กว่าสิ่งรบกวนเล็กน้อยที่พวกเขาเป็นอยู่ และท้ายที่สุดก็เพิ่มสีสันและความหลากหลายให้กับภาพยนตร์ในที่สุด

หนังเรื่องนี้ค่อนข้างจะวุ่นวาย ฉันไม่คุ้นเคยกับช่วงเวลาประวัติศาสตร์ที่มันแสดงให้เห็นและรู้สึกเหมือนว่าพวกเขาเพิ่งจะรีบเร่งในการดำเนินการ ฉันใช้เวลาสักพักกว่าจะหาว่าจุดประสงค์ของทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวคืออะไร

หลังจากนั้นทุกอย่างก็คาดเดาได้อย่างมาก ฉันหวังว่าฉากต่อสู้จะเป็นรางวัลอย่างน้อย น่าเศร้าที่ไม่ได้เป็นเช่นนั้น ฉันเคยดูหนังสงครามมาหลายเรื่องแล้ว แต่นี่ยังไม่ถึงขั้นกลางเลยด้วยซ้ำ นอกจากนี้ สำหรับภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ มันรู้สึกไม่แม่นยำอย่างยิ่ง

ตัวอย่างเช่น ทำไมชายหนุ่มจึงต่อสู้โดยไม่มีอะไรมาคุ้มค้องร่างกายเลย ในระหว่างการต่อสู้บนยอดเขา มีทหารจำนวนมากพุ่งเข้าใส่ แต่สุดท้ายก็ไม่พบศพคนตาย พวกเขาเพิ่งหายตัวไป พูดคุยเกี่ยวกับภูเขา พวกเขากำลังสร้างมันเป็นเวลาหลายเดือน ใครบ้างที่สามารถรักษากองทัพขนาดใหญ่ที่ไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานานเช่นนี้?

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดคือจักรพรรดิ์เอาลูกธนูเข้าที่ดวงตาแล้วรอดตายราวกับเป็นเพียงรอยขีดข่วน ไม่ต้องพูดถึงลูกศรที่มาจากธนูที่ยิงโดยคนที่แทบจะไม่สามารถจับมันได้ ฉันคิดว่าพวกเขาสามารถตัดละครที่ไม่จำเป็นออกและพยายามพัฒนาตัวละครมากขึ้น ความพยายามที่ไร้สาระของผู้หญิงคนนั้นที่มีหน้าไม้อยู่ในใจ ไม่จำเป็นอย่างยิ่ง หนังมีความยาวเกือบ 2 1/2 ชั่วโมง

 

รีวิว The Great Battle-1

 

ตัวละครที่น่าสนใจ

ซามุล แม้จะเป็นทหารผู้น้อย มือใหม่ แต่ก็มีศักยภาพ และที่สำคัญเขาก็พอที่จะมีหัวคิดอยู่บ้าง ยิ่งมาอยู่ใกล้ชิดแม่ทัพยาง ได้เฝ้ามองพฤติกรรม เห็นภารกิจที่แม่ทัพยางแบกไว้เต็มสองบ่าอย่างมุ่งมั่น  แต่ถึงกระนั้น เมื่อเขารับหน้าที่มา ในฐานะทหารต้องปฏิบัติตามคำสั่ง จึงชวนลุ้นดูว่า เขาจะจัดการอย่างไรเมื่อจิตสำนึกและภารกิจสวนทางกัน  เรื่องนี้ถือว่า นัมจูฮยอก มีบทบาทค่อนข้างเด่น ได้มีส่วนร่วมในกองกำลังของแม่ทัพยาง และยังเป็นตัวช่วยสำคัญที่ใครๆคาดไม่ถึง

นอกจากนี้ ยังมีตัวละครสำคัญอีกหนึ่ง คือ ชีมี (รับบทโดย จองอึนแช) นักบวชหญิงที่ทำนายทายทักลางบอกเหตุได้ ร่วมอยู่ในกองทหารของนายพลยอน แต่เธอถูกกองทัพถังจับตัวไป ของสำคัญที่ติดตัวเธอมาด้วย คือ คันธนูมงคล เครื่องลางแห่งชัยชนะ เป็นคันธนูของจูมง (ใครเคยดูเรื่องจูมงขอบอกเลยว่าสุดยอดมาก)

 

 

(หรือจักรพรรดิทงมย็องซ็อง ปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรโกคูรยอ) หัวธนูทำจากหินออบซิเดียน ที่เบากว่าเหล็ก จึงพุ่งทะยานไปไกลกว่าธนูทั่วไป  คันธนูแข็งแกร่งจนไม่มีใครง้างได้  เมื่อเธอถูกถังไท่จงส่งตัวกลับมาป่วนแม่ทัพยางที่ป้อมอันซี จึงเป็นอีกหนึ่งในกลศึกที่แม่ทัพยางต้องรับมือและแก้สถานการณ์ให้ได้

หากเพื่อนๆชอบการรีวิวหนังออนไลน์ รีวิวหนังใหม่ สปอยหนังดัง เว็บรีวิวหนัง จากทั่วทุกมุมโลก สามารถติดตามผลงานอื่นๆได้ที่ รีวิวหนังออนไลน์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *