รีวิวNobody หนัง คนธรรมดานรกเรียกพี่ แนวบู๊ เดือดไม่เกรงใจใคร โหด สนุก

รีวิวNobody เรื่องนี้เป็นผลจากความสำเร็จของหนังนักฆ่าเรื่องดังก็ทำให้อดีตสตันท์แมนอย่าง เดวิด ลีตช์ ได้ต่อยอดสร้างหนังแอ็กชันสุดระห่ำมากมายและล่าสุดเขาก็ได้กลับมาจับมือกับ เดเรก โคลสตัด มือเขียนบทหนัง John Wick ทั้ง 3 ภาคคลอดผลงานคนธรรมดาสุดระห่ำอย่าง Nobody

เรามาเริ่มกันที่เรื่องราวกันต่อ เรื่องราวเริ่มต้นที่ ฮัตช์ แมนเซล หรือ บ็อบ โอเดนเคิร์ก เขาคือชายชนชั้นกลางธรรมดาที่ซ่อนอดีตดำมืดให้หลับไหลไปกับหน้าฉากพนักงานกระจอก ๆ ที่ทำงานในโรงงานของน้องชายเมียตัวเอง จนค่ำคืนหนึ่งที่บ้านอันสงบสุขของเขา ได้ถูกโจรกระจอกสองผัวเมียบุกปล้น

และทำร้ายลูกชายของเขา ตัวตนที่หลับใหลของฮัตช์ก็ถูกปลุกจนผลของมัน นำไปสู่อาการบาดเจ็บสาหัส ของน้องชายมาเฟียรัสเซียหลังเขาตัดสินใจช่วยชีวิตหญิงสาวบนรถเมล์ และมันก็ทำให้คนธรรมดาอย่างฮัตช์ ต้องกลับสู่สมรภูมิเดือดอีกครั้ง สนใจที่จะรับชมเรื่องนี้สามารถเข้าชมได้ที่ ดูNobody

เราอาจกล่าวได้ว่า Nobody แทบจะเดินตามพิมพ์เขียวของ John Wick ได้เลย แต่ก็ไม่ผิดนักเพราะพล็อตเรื่องว่าด้วยความรุนแรงของคนธรรมดาถูกปลุก ด้วยอะไรบางอย่างจนด้านมืด นำไปสู่การต่อกรกับองค์กรชั่วก็แทบไม่ต่างกันเพียง

แต่บทหนังของเรื่องหลังมีการปูพื้นชัดเจนว่าจอห์น วิก เป็นนักฆ่าในองค์กรมืดที่ล้างมือ แต่ถูกปลุกด้วยไฟแค้น แต่กับ Nobody และบทหนังไม่มีคำตอบให้คนดูชัดเจนนัก และเหมือนให้เราโฟกัสที่ความเป็นคนธรรมดาของฮัตช์ แมนเซลเสียมากกว่า

เพราะอย่างงี้ก็เลยส่งผลให้ความบ้าระห่ำ และความเจ๋งของฮัตช์ดูไร้เหตุผล และขาดข้อมูลสนับสนุนในหลาย ๆ เรื่อง Nobody เรื่องย่อ ที่บทหนังใส่เข้ามาทั้งเสียงลึกลับ ที่อยู่ในวิทยุที่พูดเหมือนรู้เรื่องทุกอย่างของฮัตช์ทุกย่างก้าว

หรือกระทั่งความเก๋าของเดวิด แมนเซล หรือ คริสโตเฟอร์ ลอยด์ คุณพ่อสุดแสบของนายฮัตช์ที่ซ่อนอยู่ใต้ตัวตนของชายชรา ในสถานดูแลผู้สูงอายุหนังก็ไม่ได้อธิบายที่มาที่ไปประหนึ่งจะบอกคนดูว่า พวกแกดู ๆ ไปเหอะอย่าสงสัยอะไรมากเลย 555

หรือแต่กระนั้นก็ต้องยอมรับว่าการแคสติง บ็อบ โอเดนเคิร์ก มารับบทฮัตช์ แมนเซลก็ทำให้เราพร้อมจะมองข้ามความไม่สมเหตุสมผลต่าง ๆ ของหนังไปได้ด้วยบุคลิกคนธรรมดาโคตรโหดที่ออกไฝ่ว์ลุยดะกับบรรดานักเลงให้คนดูสะใจเล่นโดยไม่ต้องใส่จุดอ่อนอะไร อย่าลืมติดตามการรีวิวของเราได้ที่ รีวิวหนังทั้งหมด

ให้กับพระเอกของเราทั้งนั้น และแม้จะสะบักสะบอมแค่ไหนก็ยังคงความเท่ได้ไม่หยอก เรียกได้ว่าใครเป็นแฟนซีรีส์ Breaking Bad กับ Better Call Saul จะได้เห็นโอเดนเคิร์กมาออกลีลาพะบู๊ดูแปลกตาสร้างความต่าง จากบททนายลิ้นสาลิกาจากซีรีส์ดังทั้งสองเรื่องเลยทีเดียว

เรามาพูดถึง คนธรรมดานรกเรียกพี่ ผู้กำกับ ในส่วนของประวัติของ เดวิด ลีตช์ เกิด 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2518 เป็นผู้สร้างภาพยนตร์ นักแสดง นักแสดงผาดโผน และผู้ประสานงานสตั๊นต์ชาวอเมริกัน ซึ่งเปิดตัวการกำกับเรื่องแรกในภาพยนตร์แอคชั่นเรื่องJohn Wickในปี 2014 ร่วมกับแชด สตาเฮลสกี้

แม้ว่าจะมีเพียงสตาเฮลสกี้เท่านั้นที่ได้รับการยกย่อง ลิทซ์แล้วผู้กำกับภาพยนตร์ระทึกขวัญ 2017 ปรมาณูสีบลอนด์ที่นำแสดงโดยชาร์ลิซและ 2018 ของ Deadpool 2 ผลสืบเนื่องไปยังภาพยนตร์ 2016 ในปี 2019 เขาได้กำกับ Hobbs & Shaw ซึ่งเป็นภาคแยกของแฟรนไชส์ Fast & Furious

ในส่วนของอาชีพของเขานั้น ลิทซ์ คือตัวแทนการแสดงความสามารถเป็นสองเท่าสำหรับแบรดพิตต์ห้าครั้งและครั้งที่สองสำหรับJean-Claude Van Damme ลิทซ์และทีมงานของ

เขาได้รับรางวัลสองรางวัลสำหรับ The Bourne Ultimatum ที่Screen Actors Guild รางวัล เขายังได้รับรางวัล 2008 Taurus World Stunt Award ร่วมกับ Kai Martin นักแสดงผาดโผนคนเก่งอีกด้วย

เขาเขียนและแสดงในConfessions of an Action Starเรื่องล้อเลียนของภาพยนตร์แอ็คชั่นและอุตสาหกรรมภาพยนตร์แอ็คชั่นที่ออกฉายในปี 2552 และลิทซ์และแชคสตาเฮลสกีเปิด บริษัท ผลิตการออกแบบการกระทำที่เรียกว่า 87Eleven ในปี 1997 ในปี 2009

Nobody นักแสดง และ Stahelski ลิทซ์ที่สองหน่วยกรรมการและการแสดงความสามารถร่วม ordinators on Ninja Assassin ทั้งสองร่วมกำกับภาพยนตร์ 2014 จอห์นตะเกียง แม้ว่าลิทซ์เองก็ไม่ได้เครดิตในฐานะผู้อำนวยการร่วม

ผู้บริหาร Leitch อำนวยการสร้างภาคต่อของ John Wick สองภาค ซึ่ง Stahelski กำกับการแสดงเดี่ยว ในที่สุดเขาก็ย้ายไปกำกับภาพยนตร์เช่นAtomic Blonde

และ Deadpool 2 และ Fast & Furious Presents Hobbs & Shaw กับภรรยาและหุ้นส่วนสร้างสรรค์ Kelly McCormick ที่ทำหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์

ไหน ๆ ก็พูดถึงประวัติของผู้กำกับเรื่องนี้ คนธรรมดานรกเรียกพี่ นักแสดง แล้ว เราจะไม่พูดถึงประวัติของตัวละครหลักในเรื่องนี้ได้ยังไง บ็อบ โอเดนเคิร์ก มีชื่อจริงเต็ม ๆ ว่า โรเบิร์ต จอห์น โอเดนเคิร์ก นักแสดงตลก นักเขียนบท โปรดิวเซอร์ชาวอเมริกัน เกิดวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 1962 ณ ปีค.ศ. 2021 จะมีอายุ 59 ปี

และบ็อบเป็นที่รู้จักจากการรับบทเป็นทนายความ ซอล กู้ดแมน ในทีวีซีรีส์เรื่องอาชญากรรม Breaking Bad และซีรีส์ภาคแยก Better Call Saul โดยเขาเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Primetime Emmy Award สาขานักแสดงนำดีเด่นในซีรีส์ดราม่า ถึงสี่ครั้ง ต่อมาเขาเป็นที่รู้จักจากซีรีส์ตลกคอมมเมดี้ Mr. Show with Bob and David

บ็อบ โอเดนเคิร์ก  เป็นคนเขียนบทให้กับรายการทีวี

รีวิวNobody netflix ในช่วงปีค.ศ. 1980 ถึง 1990 บ็อบ โอเดนเคิร์ก  เป็นคนเขียนบทให้กับรายการทีวี Saturday Night Live และ The Ben Stiller Show โดยเขาได้รับรางวัล Emmy Award สาขาการเขียนบทดีเด่น ในสำหรับซีรีส์วาไรตี้ในปีค.ศ. 1989 และ 1993 จากความสำเร็จจากการที่เขาร่วมแสดงใน Breaking Bad

และ Better Call Saul ทำให้เขาได้มีผลงานการแสดงภาพยนตร์อาทิ Nebraska ของผู้กำกับ อเล็กซานเดอร์ เพย์น และ The Post ของผู้กำกับ สตีเวนสปีลเบิร์ก และเขายังได้พากย์เสียในแอนิเมชั่น Incredibles 2 และผลงานล่าสุดเรื่อง Nobody ที่เขาได้รับบทนำในภาพยนตร์แอ็คชั่นครั้งแรก

ถ้ามีใครที่อยากจะรู้ว่าชีวิตวัยเด็กของบ็อบ เป็นยังไง เผื่อจะได้ทำความรู้จักกับเขามากขึ้น สำหรับเขานั้นค่อนข้างน่าเบื่อ เพราะเมืองที่เขาอาศัยอยู่อย่างเนเพอวิลล์ รัฐอิลลินอยส์ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเลยสักนิด จนเมื่อเรียนจบมัธยม เขาก็ไปต่อเรียนต่อมหาลัยในเมืองคาร์บอนเดล

คนธรรมดานรกเรียกพี่ พระเอกเป็นใคร pantip ซึ่งอยู่ห่างออกไปถึง 340 ไมล์ ซึ่งเป็นจุดบ่มเพาะความชื่นชอบในงานด้านการแสดงให้กับเขา จากการที่เขาได้มีโอกาสจัดรายการวิทยุของมหาวิทยาลัย ได้ฝึกฝนทักษะการเขียนบท การพากย์เสียง และการแสดงละครวิทยุ

เมื่อเรียนจบมหาวิทยาลัย ด้วยความชื่นชอบในด้านนี้ เขาจึงเข้าเรียนการแสดงกับ เดล โคลส โค้ชสอนการแสดง ที่ปั้นศิลปินให้กับฮอลลีวูดมาแล้วมากมาย การเรียนในคลาสนั้น ทำให้บ็อบได้พบกับ โรเบิร์ต สมิเกล นักเขียน

และโปรดิวเซอร์ จากรายการ Saturday Night Live รายการทอล์กโชว์ชื่อดังในอเมริกา ซึ่งโรเบิร์ตได้ชักชวนให้บ็อบมาร่วมงานในฐานะนักเขียนและนักแสดงในช่วง Sketches show ของรายการ

จากจุดนี้ทำให้ชื่อของบ็อบเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น

ในเรื่องนี้ด้วย รีวิวคนธรรมดานรกเรียกพี่ และได้โอกาสไปแสดงในโชว์ตลกมากมาย เช่น The Ben Stiller show และ Late Night With Conan O’brien และ The Larry Sanders Show ก่อนจะได้มีโอกาสทำซิทคอมเป็นของตัวเองอย่างเรื่อง Mr.Show ที่เขาทั้งเขียนบทและแสดงนำคู่กับ เดวิค คอรส

แต่พอเข้าสู่ช่วงปี 2000s ชื่อของเขากลับไม่ค่อยถูกพูดถึงมากนัก งานแสดงก็มีไม่เยอะเหมือนเมื่อก่อน หลัก ๆ ก็มีแต่การบทรับเชิญในซีรีส์ซิทคอม และงานพากย์เสียงบางประปราย

ซึ่งบ็อบก็ได้เข้าไปออดิชั่นเพื่อรับบทนำในหนังและซีรีส์มากมาย เช่น บท Michael Scott ในซีรีย์เรื่อง The Office แต่สุดท้ายก็พลาดบทให้กับสตีฟ คาเรล ไป

nobody พระเอกเป็นใคร pantip ซึ่งในปี 2007 บ็อบได้มีโอกาสกำกับหนังตลกเป็นของตัวเอง เรื่อง The Brothers Solomon แถมยังออกเงินส่วนตัวเพื่อใช้ในการสร้างหนัง เพื่อหวังว่าเมื่อหนังทำกำไรจะทำให้เขาได้ทุนคืน

แต่ตัวหนังกลับล้มเหลวทั้งรายได้ และคำวิจารณ์ ทั้งที่ใช้ทุนสร้างไปถึง 10 ล้านเหรียญ แต่กลับทำรายได้เพียง 1 ล้านเหรียญเท่านั้น ซึ่งเขาก็ได้ยอมรับในภายหลังว่าตัวเขามีประสบการณ์ และวิสัยทัศน์ไม่มากพอที่จะกำกับ

คนธรรมดานรกเรียกพี่ netflix แต่มันยังความล้มเหลวของ The Brothers Solomon ทำให้บ็อบเกือบจะล้มละลาย เพราะติดหนี้ธนาคาร เขาจึงจำเป็นต้องรับงานแสดงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะหนัง ซีรีส์ หรือโฆษณา จนวันหนึ่ง เอเจนท์ของเขาก็โทรมา แล้วบอกว่ามีบทบาทที่เขาควรแสดง ซึ่งบทนั้นก็ได้เปลี่ยนชีวิตของเขาให้กลายเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงมาจนถึงวันนี้ โดยบทที่ว่าก็คือ ซอล กู๊ดแมน นั่นเอง

ซึ่ง ซอล กู๊ดแมน เป็นที่รู้จักในฐานะทนายตัวแสบที่คอยช่วยเหลือเหล่าแก๊งอาชญากรในซีรีส์ Breaking Bad ที่ในตอนนั้น ซีรีส์ยังไม่โด่งดังมากเท่ากับตอนนี้ เพราะซีซั่นแรกก็เพิ่งจบไปหมาด ๆ

Nobody ผู้กำกับ แถมต้องตัดจบเพราะเหตุการณ์การประท้วงของสมาคมนักเขียนแห่งอเมริกา แต่บ็อบก็ตัดสินใจรับเล่นบทนี้่ ทั้งที่เขาก็ยังไม่เคยดู Breaking Bad เลยแม้แต่ตอนเดียว และก็ไม่มั่นใจเลยสักนิดว่าจะแสดงได้ดีหรือไม่

อย่างไรก็ดี การมาถึงของตัวละคร ซอล กู๊ดแมน ที่แสดงโดยบ็อบ ก็ได้มาเพิ่มสีสันความสนุกให้กับซีรีส์อาชญากรรมสุดเครียดเรื่องนี้ได้อย่างดี และนับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมาก ๆ ของเขา

เพราะตัวละครตัวนี้ได้รับความนิยมอย่างมหาศาลแบบที่ทางผู้สร้างเองก็คาดไม่ถึง จนโปรดิวเซอร์อย่าง Vince Gilligan ได้ตัดสินใจสร้างซีรีส์ภาคแยกอย่าง Better Call Saul ออกมา หลังจากที่ Breaking Bad ฉายจบ

เป็นการเล่าเรื่องโฟกัสไปที่ตัวของซอล กู๊ดแมน

โดยที่ Better Call Saul เป็นการเล่าเรื่องโฟกัสไปที่ตัวของซอล กู๊ดแมน และเพื่อน ๆ ซึ่งได้เปิดโอกาสให้บ็อบ โอเดนเคิร์ก ได้เปล่งประกายฉายแสงโชว์ทักษะการแสดงของเขาอย่างแท้จริง ทั้งการเล่นบทตลก ๆ กวน ๆ โกรธ กลัว หรือบทดราม่าเรียกน้ำตา

ซึ่งสุดท้ายแล้วก็ส่งให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักแสดงแนวหน้าของวงการได้สำเร็จ และเรื่องนี้ คนธรรมดานรกเรียกพี่ สปอย ถือเป็นอะไรที่แลปกแหวกแนวสำหรับเขาเลยถือได้ว่าเป็นบทที่ท้าทายเขาอย่างมาก แต่เขาก็สามารถทำมันออกมาได้ดี เลยทำให้เรื่องนี้เป็นหนังแอ็คชั่น บู๊ ที่โครตจะสนุกเลย

ส่วนใหญ่มักจะถามกันว่ากัน ความบ้าระห่ำ ของเรื่องนี้ คนธรรมดานรกเรียกพี่ มันจะบิอะไรขนาดนั้นเชียว บอกง่าย ๆ ก็คือเรียกได้ว่าไม่ให้เสียชื่อทั้งคนเขียนบทและโปรดิวเซอร์ John Wick เลยทีเดียวเพราะหนังอุดมด้วย ฉากแอ็กชันทั้งแบบต่อสู้ระยะประชิด ฉากสาดกระสุน ระเบิดตูมตาม

และอีกสารพัดความระห่ำที่ขนมาเซอร์วิสแฟนหนังอย่างเต็มที่ แต่ทว่าความกลมกล่อมของหนัง ในช่วงแรกก็สะดุดไปไม่น้อย จากความพยายามเล่นสไตล์การตัดต่อแบบมองทาง  และในตัดต่อเหตุการณ์หลายเหตุการณ์เพื่อเล่าเรื่องของพระเอก

และเนื่องจากมันแทบจะไม่ได้ทำให้เรื่องราวคืบหน้า และยืดความยาวหนังในช่วงแรกเกินความจำเป็นไปเสียหน่อยรวมถึงยังใช้ฝีมือของบ็อบ โอเดนเคิร์กได้ไม่คุ้มเท่าไหร่ซึ่งตรงนี้ อิลยา ไนชูลเลอร์ ผู้กำกับจาก Hardcore Henry อาจต้องการชั่วโมงบินมากกว่านี้

ในการปรุงรสหนังบู๊ให้กลมกล่อม และเข้มข้นเทียบกับ John Wick ได้และไม่แน่ในอนาคตเราอาจได้เห็นพี่ ฮัตช์ของเราไปไฝ่ว์คู่กับพี่จอห์น วิก ก็เป็นได้เพราะดีกรีความระห่ำแตกนั้นไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย

Nobody สปอย และที่ฉันรู้สึกว่าเรื่องนี้พยายามสื่อสารว่า ที่จริงชีวิตของฮัตช์ก็เป็นคนธรรมดาจริง ๆ นะ ชีวิตของเขาไม่มีอะไรเลย ทำอะไรซ้ำ ๆ เดิม ๆ ทุกวัน แต่แน่ใจเหรอว่า เขาเป็นธรรมดาจริง ๆ อย่างที่เขาบอกเรางั้นเหรอ

ไม่อย่างแน่นอน เพราะชีวิตสิบสองที่เคยทำงานในองค์กรตัวย่อสามตัวมา บวกกับได้ยินคำพูดเพียงไม่กี่คำของคนที่เขารัก ทำให้เขาดึงตัวตนที่ฝังเงียบมานานกลับขึ้นมา อีกครั้ง

และฉันก็ชอบในกลวิธีการตัดและใส่ดนตรีประกอบ มันเฟี้ยวดี ดูเจ๋งดี ดูท่าทางมือตัดต่อจะเฟี้ยวไม่ใช่เล่น และดูจะสนุกมันมีกับการเล่าเรื่อง รีวิวNobody pantip มาก

ทั้งยังมีรสนิยมในการเลือกเพลงมาประกอบไม่น้อย ทำให้หนังที่มีแต่ฉากโหด ๆ สร้างอารมณ์ร่วมให้กับคนดูได้มาก ทำให้ฉากธรรมดา ๆ อย่างการเล่าเรื่องที่ไม่ต้องใช้บทพูด ออกมามีสีสันน่าสนใจอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ

และการบอกเล่าชีวิตของคนธรรมดาที่แต่ละวันล้วนจำเจ แถมมีมุกพอขำ ๆ จัดว่ากวนตีนใช้ได้ เท่าที่เห็น คนตัดต่อเลือกใช้ช็อตเล็กสั้นๆ ในการเล่าเรื่องอยู่หลายหน ไม่เวิ่นเว้อและบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ดี

ซึ่งในส่วนของฉากบู๊ นอกจากมุมกล้องที่ชวนรู้สึกตื่นเต้นเหมือนอยู่ร่วมในเหตุการณ์แล้ว ก็ยังมีความกวนโอ๊ย ด้วยการใช้เพลงประกอบแบบโซลแจ๊สมาใช้ บ้างก็เล่นฉากสโลว์โมชันผสมเพลงเอื่อย คือลีลาหลากหลาย เหมือนมันมือจริง ๆ แหละ

ในส่วนของฉากบู๊แอคชัน จัดเต็มความโหด ดูไป หน้าเหยเกไป เอาจริง ๆ แม้หนังเรื่องนี้ คนธรรมดานรกเรียกพี่ pantip จะไม่ใช่หนังโปรเจกต์พันล้านซีจีอลังการ แต่ยังเหมาะจะเข้าไปดูในโรง เพราะความจอใหญ่บวกกับมุมกล้องและกลวิธีการตัดต่อ

จะทำให้เรารู้สึกเหมือนเข้าไปร่วมอยู่ในเหตุการณ์ ความโหดของฉากการต่อสู้ อาจทำให้ร้องโดยไม่ทันรู้ตัว หน้าเหยเกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ละช็อตจัดความโหดมาให้แบบเนื้อ ๆ เน้น ๆ สำหรับใครที่โหยหามาเนิ่นนาน หนังเรื่องจัดเต็มให้อย่างไม่กั๊กเหลือให้กับหนังเรื่องไหน