เรื่องราวของหนัง ร่างทรง

สวัสดีครับทุกคนสำหรับวันนี้ ผมจะมารีวิว หนังผี ไทย ที่ถูกพูดถึงและมีกระแสแรงเอามากๆเรื่องนึงนะครับ โดยหนังที่ผมจะมาทำการรีวิวในครั้งนี้นะครับ จะเป็นหนังที่ มีชื่อเรื่องว่า ร่างทรงนะครับ ซึ่งเป็นหนังผี ของทางไทยเรานั้นเองครับ และสำหรับหนังเป็นเรื่องราวเกี่ยว ข้องไปกับทีมงาน ที่ตัวของเขานั้นได้เข้าไปถ่ายทำข้อมูลเรื่องราวของร่างทรงในไทย

 

เรื่องราวของหนัง ร่างทรง

 

โดยในช่วงเวลานั้น ได้มีผู้ให้สัมภาษณ์คือ ป้านิ่ม ที่เขานั้นได้เป็นร่างทรง ของ ย่าบาหยัน ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่อยุ่ประจำท้องถิ่น ภายในจังหวัดเลย และการสืบทอดอำนาจ จะสามารถเกิดขึ้นได้เฉพาะภายในครอบครัวที่เป็นเพศหญิง หากสนใจดูหนังออนไลน์คลิ้กเลย ดูหนังออนไลน์ นั่นก็คือ มิ้งค์ หลานสาวของ ป้านิ่ม ที่ตัวของเธอนั้น ได้ถูกเลือก เพื่อจะให้เป็นผู้สืบทอดร่างทรงคนต่อไป

และสำหรับร่างทรง ถูกถ่ายทอด ของหนังออกมาในรูปแบบ Mocumentary หรือ หนังที่ ทำออกมา ให้อยู่ในสไตล์สารคดี โดยมีตัวของหนังภาพยนตร์นั้นมีเรื่องราวเกี่ยวกับพิธีกรรม-ความเชื่อ ในรูปแบบของร่างทรง โดยหนังจะพาเราไปสำรวจชีวิตของ เหล่าครอบครัวหนึ่งในภาคอีสาน

และสำหรับ ภาพยนตร์ ที่เป็นหนังแนวระทึกขวัญ ของไทยเราเรื่องนี้นั้น เป็นผลงานที่มาจากการร่วมทุน ระหว่างทางค่าย GDH ค่ายหนังคุณภาพของไทย และ SHOWBOX เวลา 2 ชั่วโมง 11 นาที เป็นเวลาของหนังเรื่องนี้ ที่ตัดสินใจดู และหลังจากมีกระแส ของหนังนี้ ได้ถูกพูดถึงกันหนาหูว่า

 

เรื่องราวของหนัง ร่างทรง

 

เกือบดี ผมก็เลยคิกว่าหนังไม่น่าจะมาพลาดช่วงท้าย เลยค่ายผลิตหนังยักษ์ใหญ่ของเกาหลี เป็นหนังที่ดีนะครับ ที่บอกได้เลยว่าเป็นการถ่ายทอด เกี่ยวกับเรื่องราว ความสยองขวัญ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวของ ความเชื่อ และ เรื่องที่เกิดขึ้นจริง

และในหนังนั้น คนรอบข้าง ที่อยู่ของเธอนั้น ดูไม่ได้สนใจกับอาการป่วยของเธอ ที่เธอเป็นอยู่ หากสนใจดูหนังออนไลน์คลิ้กเลย เว็บดูหนังออนไลน์ แม้ว่าตัวของเธอ จะพยายามแสดงมันออกมา อย่างเห็นได้ชัด และสิ่งนั่นคือสิ่งกระตุ้นและจุดนี้เป็นจุดที่ทำให้หลายๆคนได้เข้าไปดูเรื่องนี้ ทันทีกลายเป็นหนังจงใจสาดไฟส่องไปที่คน ๆ เดียว

ที่อยู่ในสังคมไทย กับเรื่องราว เกี่ยวกับการสืบทอด ตัวแทนหรือทายาท ร่างทรงงแม้จะไม่นับเรื่องตากล้องที่กล่าวไปข้างต้น ผมก็คงคิดว่ามันเป็นช่วง หนังที่ถือได้ว่ามีความเล่นใหญ่จนดูมากไปนะครับ

 

เรื่องราวของหนัง ร่างทรง เนื้อเรื่อง

และสำหรับเรื่องราว จะกล่าวไปถึง อยู่มาวันหนึ่ง หลานสาวของตัวเองอย่าง มิ้ง ที่ถูกแสดงบทบาทภายในเรื่อง โดย ญดา ริลญา กุลมงคลเพชร หนังเรื่องนี้มีความเป็นหนังแนวลึกลับ และยังแฝงไปด้วยเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องที่มีความเหนือธรรมชาติโดยเขาวางโครงเรื่อง ของหนังเรื่องนี้นั้นออกมาเป็น หนังแนวถ่ายทำสารคดีมีอาการผิดปกติและประหลาดมากขึ้นเรื่อยๆ จนคนในครอบครัวเริ่มสงสัยว่า สิ่งที่ทำให้มิ้งเป็นแบบนี้

ตัวของ มิ้งค์ เธอนั้นก็ที่เริ่มอาละวาดทุกคน แต่ตัวของเธอนั้นกลับมองข้ามตากล้องไป และคนรอบข้างดูไม่ได้สนใจกับอาการป่วยของเธอ ในส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือ ติดตามชีวิตครอบครัวหนึ่งในที่แห่งหนึ่งทางภาคอีสาน และซึ่งพอดู จากที่ตั้งภายในหนังก็น่าจะเดาไม่ยากว่าเป็นจังหวัดเลย

 

 

และการไปดูหนังในโรงภาพยนตร์ สำหรับเรื่องนี้นั้นก็ยังเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้จริงๆ เพราะทั้งจอใหญ่ เสียงกระหึ่มหากสนใจดูหนังออนไลน์คลิ้กเลย ดูหนังฟรี  แล้ว บรรยากาศในโรงภาพยนตร์ก็เป็นอีกอย่างที่หาไม่ได้เมื่อจอถูกย่อเล็กลง

The Medium เกิดขึ้นในปี 2018 โดยมีทีมงานแนวสารคดี เข้าไปทำข้อมูลเรื่องราวเกี่ยวกับร่างทรงในภาคอีสานของประเทศไทย การปูที่มาที่ไปของเรื่อง ใช้ตัวละครที่ชื่อ ป้านิ่ม รับบทร่างทรง “ย่าบาหยัน” คนปัจจุบันซึ่งแกสืบเชื้อสายต่อรุ่นต่อรุ่นมาหลายชั่วอายุคนซึ่งร่างทรงที่พวกเขาเลือกนั่นก็คือ ป้านิ่ม

ผู้ที่มีองค์ร่างทรงของ ”ย่าบาหยัน” เป็นอีกหนึ่งความสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำท้องถิ่นนี้ และความเชื่อที่เล่าต่อกันมาว่าร่างทรงย่าบาหยันนั้น จะสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น โดยเฉพาะช่วงราวๆ 20 นาทีสุดท้ายของหนัง กลายเป็นความนรกแตกอนที่จะมาพบความแปลกประหลาดหลายอย่างเกิดขึ้นกับ

 

 

“มิ้ง กานดา” หลานสาวคนเดียวของตระกูลที่มีอาการผิดปกติและทำตัวน่ากลัวขึ้นทุกวันที่เหมือนผัดกับข้าวในขั้นตอนท้ายๆ ซึ่งจะเลือกสืบถอดกันในเฉพาะลูกสาวในแต่ละรุ่น กล่าวคือหากแม่เป็นร่างทรงแล้วเกิดมีลูกสาว รุ่นต่อไปที่จะต้องรับเป็นร่างทรงก็คือลูกสาวคนนี้ ซึ่งจะต้องสืบทอดกันไปเรื่อยๆ

และแน่นอนว่า การดูหนังในโรงภาพยนตร์ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่เราได้ช่วยสนับสนุนคนวงการภาพยนตร์ให้ได้ทำหนังเจ๋ง ๆ สนุก ๆจึงไม่ใช่แค่ร่างทรง แต่ยังเป็นหนังกฎแห่งกรรม สะท้อนถึงทั้งเจ้ากรรมนายเวร และความเชื่อเรื่องกรรมของพ่อแม่หรือบรรพบุรุษสามารถตกทอดมาสู่รุ่นลูกรุ่นหลานได้ โดยครอบครัวของมิ้งค์

ทำบาปทำกรรมต่อผู้อื่นมานักต่อนัก ทั้งเผาโรงงานเพื่อหวังเอาเงินประกัน ทั้งฆ่าและขายเนื้อหมาสะท้อนความเชื่อเรื่องผีสิงและร่างทรง (ซึ่งมีความคล้ายกัน) ได้ดูเรียลมากและมีความเคารพต่อรากเหง้าทางวัฒนธรรมของชาวไทยอีสานพิธีกรรมที่จัดฉากขึ้นมาดูมีมนต์ขลังในแบบที่ไม่ต้องพยายาม

ความรู้สึกหลังดู

พูดได้ว่า เป็นพาร์ทที่เราไม่ชอบ แต่ก็ชื่นชมที่ผู้กำกับกล้าเล่นอะไรที่แตกต่าง ผสมผสานความไทยและความเกาหลี โดยเอาความเชื่อเรื่องวิญญาณสัตว์เดียรัจฉานมาสิงร่างมนุษย์จนได้ทีมงานทำการบ้านในเรื่องนี้ค่อนข้างน่าพอใจ ยิ่งมาผนวกกับบรรยากาศโลเคชั่นป่าฝนริมโขง

จนคนในครอบครัวเริ่มสงสัยกันว่า สิ่งที่เข้ามาอยู่ในร่างของมิ้งอาจจะไม่ใช่ย่าบาหยันอย่างที่ทุกคนเข้าใจ แถวพื้นที่ จ.เลยโต้ง บรรจง ปิสัญธนะกูล หมดแพชชั่นกับการทำหนังสยองขวัญที่เขาเคยทำเอาไว้ขึ้นหิ้งมาแล้วหรือเปล่า วิสัยทัศน์ต่างๆ ในขณะเดียวกัน ก็นำเสนอเรื่องราวอย่างค่อนข้างปลายเปิดและมี clue สอดแทรกอย่างแนบเนียน ในหนังเรื่องนี้แทบไม่ค่อยเห็นความจัดจ้านในรูปแบบหนังผีของโต้งที่เคยสร้างสรรค์ออกมาเลความสนุก

 

 

และความหลอนปั่นประสาทจึงเริ่มค่อยๆนวดคลึงให้เราสะกดตาตามหนังแบบไม่กระพริบส่วนพาร์ท 7 วันก่อนพิธีไล่ผี ที่หนังเน้นเล่าเรื่องผ่าน CCTVs ที่ติดอยู่ในบ้านของมิ้งค์เป็นหลัก เราคิดว่าหนังพยายามให้มีที่มีความน่าขนลุกและมีฉากที่มีความน่ากลัวมากเกินไป จนตัวหนังเรื่องนี้นขาดความสนความสมเหตุสมผล และในความเป็นจริง ถ้าหากว่าตัวของเรามีคนในครอบครัวที่มีอาการผีเข้าหนักหนาสาหัสขนาดนี้อยู่ เราหลายๆคนก็คงจะต้องผูกมัด หรือว่าทำการขังเขาไว้อย่างแน่นหนา และสำหรับหนังเรื่องร่างทรงนั้นเป็นหนังสยองขวัญที่ลักษณะเป็น Found Footage ผสมผสานกับ Mockumentary

และอีกองค์ประกอบหนึ่ง ที่ผมคงต้อง ชม สำหรับหนังเรื่องนี้เลยนะครับ  ก็คงจะเป็นงานออกแบบ เกี่ยวกับงานศิลป์ที่อยู่ภายในฉากต่างๆ และซึ่งพอได้มาอยู่ในหนัง ก็จะทำให้รู้สึกได้อย่างหนึ่งว่าตัวผู้กำกับทำการบ้านเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ได้ดีมากๆ แถมข้อมูลแน่นเอาเรื่องอยู่เหมือนกันสำหรับฉากไคลแมกซ์ ซึ่งเป็นช่วงพิธีไล่ผี เอาเป็นว่า หนังมันโคตรทำดีมากๆเลยครับ

ตั้งแต่นาทีแรกของเรื่อง จนถึงช่วง 1 ขั่วโมง 46 นาทีพอมาดูมวลรวมของหนังกลับมีจุดที่ทำให้หลายๆ คนอาจจะรู้สึกไม่ชอบไปเลยก็ได้ นั่นก็คือเรื่องของการใช้เทคนิค Mocumentary เนี่ยแหละ เพราะหลายๆ’ จากงาน คมชัดลึก Awards ครั้งที่ 18 จากภาพยนตร์เรื่อง ‘ร่างทรง’ ค่ะ รางวัลนี้จะมาอยู่ในมือญดาไม่ได้ถ้าขาดผู้ใหญ่และบุคคลสำคัญที่ให้โอกาสนี้กับญะ ขอบคุณคณะกรรมการทุกท่านที่มอบรางวัลนี้ให้กับญดา

 

 

ความสยองก็ส่วนหนึ่ง ความสะพรึงในการสร้างคาแรคเตอร์ก็อีกส่วนหนึ่ง แต่ที่ต้องยอมรับเลยก็คือวิธีการเล่าเรื่องของหนังครับหนังผีไทยบ้านเรานอกจากจะมีผีโผล่มาให้คนสยองขนหัวลุกจนเป็นภาพติดตากันแล้ว วิธีการดำเนินเรื่องหรือการใส่ประเด็นปัญหาต่างๆ เข้าไปในตัวหนังก็เป็นที่น่าพูดถึงเหมือนกัน

ผมเองก็ตื่นเต้นมาก เพราะรู้สึกว่าตัวพล็อตน่าสนใจ ก็เลยไปดูมา ซึ่งก็ยอมรับว่าพล็อตดีจริงๆ แต่มันก็มีบางจุดที่รู้สึกน่าเสียดาย มีการใช้กล้องตามติดตัวบุคคลเพื่อบอกเล่าสิ่งที่ตัวละครใดตัวละครหนึ่งพบเจอ คล้ายกับการถ่ายทำสารคดีเพียงแต่มีการเขียนบทหลังจาก ร่างทรง เปิดตัวที่เกาหลีเป็นอันดับ 1 หรือไม่ก็ทีมเขียนบทคิดมุกไม่ออกว่าจะทำให้หนังมันพีคได้ยังไง มันดูเละเทะไปคนละทิศละทางกันเลย

 

 

จนทำให้ผมรู้สึกเสียดายจริงๆขณะที่เธอแสดงมันออกมาอย่างเห็นได้ชัด กลายเป็นหนังจงใจสาดไฟส่องไปที่คน ๆ เดียว แซงหน้าภาพยนตร์ Black Widow จากค่ายยักษ์ใหญ่อย่างมาร์เวลสตูดิโอส์และตระเตรียมสิ่งที่จะเกิดขึ้นในเรื่องราวเอาไว้แล้วกระทั่งไม่กี่วันก่อนหน้านี้ที่อีกหนึ่งหนังผีแต่เป็นหนังผีลงโรงอย่างหากสนใจดูหนังออนไลน์คลิ้กเลย ดูหนังฟรี4K ร่างทรง ปล่อยทีเซอร์ออกมาให้ได้ชมกันโอ้โห ถ้าใครได้ดูคิดว่าก็น่าจะรู้ถึงสัญญาณการกลับมาของยุครุ่งเรืองของหนังผีได้เลยแหละ

ใช้การจับภาพระยะไกลราวกับกำลังแอบมองสอดส่องว่าตกลงแล้วคนในครอบครัวนี้เป็นอะไรกันแน่ หลังจากนั้น

การสืบทอดร่างทรงจะเกิดขึ้นต่อเมื่อร่างทรงคนปัจจุบันเสียชีวิต หรือไม่ก็เกิดขึ้นตามที่เทพบาหยันเลือก ซึ่งเมื่อรับหน้าที่เป็นร่างทรงเทพบาหยันแล้ว จะไม่สามารถมีครอบครัวได้ลังจากเปิดฉายภาพยนตร์ ร่างทรง เพราะหากทีมงานตกผลึกกันใหม่และคิดให้มากกว่านี้ คะแนนน่าจะไม่ใช่แบบนี้แน่นอน เพราะ 80%

ตั้งแต่ต้นเรื่องมาจนเกือบจบ มันยอดเยี่ยมสุดๆ เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมหนังก็เริ่มพาเราเข้าใกล้ประชิดตัวละครมากขึ้นราวกับตัวละครกำลังพูดและสื่อสารกับผู้ชม ปรากฏว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับกระแสตอบกลับอย่างล้นหลาม สามารถไต่ขึ้นไปถึงอันดับหนึ่ง เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในรอบวัน กวาดเงินไปกว่า 1.1 ล้านดอลลาร์

พร้อมกับได้ทีมงานและทีมทำงานที่ผสมผสานทั้งไทยและเกาหลีในการสร้างสรรค์ผลงานหลอน ด้วยการหยิบเอาประเด็นความเชื่อท้องถิ่นมาปรุงแต่งให้กลายเป็นความสะพรึงชวนขนลุก แต่ผลลัพธ์ของหนังที่ออกมาจะเป็นความสะพรึงแบบที่เขาร่ำลือ

หนังใช้สูตรการเล่าเรื่องแบบ Mockumentary หรือ หนังสารคดีล้อเลียน ที่เป็นหนังที่ซ้อนสารคดีไปในตัวที่ปรับเร่งไฟขึ้นและหยิบจับใส่เครื่องปรุงนั่นนี่ลงกระทะแบบรัวๆ จนเปลวไฟลุกฉ่า ถือว่าเป็นการใช้สูตรที่ค่อนข้างท้าทายพอสมควร เพราะการเล่าเรื่องด้วยวิธีนี้มีหนังหลายเรื่องนำมาใช้และตกม้าตายไปก็หลายหนแล้วเช่นกัน

 

 

แน่นอนว่าเมื่อหนังสามารถทำสำเร็จในการทำให้ผู้ชมสนิทใจและคอยเอาใจช่วย “นิ่ม” ความเป็นสารคดีของหนังเริ่มไม่มีความเรียลตั้งแต่ฉากของ ให้ค้นหาความจริงที่เกิดขึ้นกับ “มิ้งค์” ให้ทันเวลา หนังก็เล่นสนุกกับความคาดหวังของผู้ชมเรื่องราวเกี่ยวกับตัวของมิ้งค์ในช่วงเริ่มเรื่องออกมาในตอนแรก ก็ถือว่ายังสามารถที่จะพอดูได้ แต่พอหนังเรื่องนั้นยิ่งเป็นหนักเข้า ก็พลอยทำให้ภาพรวมของหนังเริ่มแปลกๆไปหมด สุดท้ายหนังเรื่องนี้นั้นก็ยังคง ทำเหมือนหนังผีเรื่องอื่นๆอย่างการที่จะหยิบเอาสูตรสำเร็จหนั งผีเดิมๆ หากสนใจอ่านรีวิวหนังเพิ่มคลิ้กเลย รีวิวหนังออนไลน์

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *