รีวิว Space Sweepers 

บทภาพยนตร์ที่ที่เต็มไปด้วยจินตนาการเปี่ยมล้น ของผู้กำกับสัญชาติเกาหลี  โจซองฮี ด้วยคอนเซ็บต์ว่า อะไรจะเกิดขึ้นหากมีขยะอวกาศที่สาดลงมาทั่วเหมือนกระสุนไรเฟิลและโลกของเราก็มีอาชีพที่ทำงานในอวกาศโดยรับจ้างเก็บขยะเหล่านั้นเพื่อไม่ให้มันพุ่งไปทำลายโลกของเรา หรือสิ่งมีชีวิตบนโลกที่เราอาศัยอยู่ รวมทั้งตัวเรา IN SPACE, THERE’S NO UP OR DOWN. FROM THE UNIVERSE’S VIEWPOINT, NOTHING IS WORTHLESS OR PRECIOUS. EVERYTHING IS PRECIOUS IN ITS OWN PLACE เรื่องราวน่าตื่นเต้นนี้จะเป็นอย่างไรติดตามรับชมได้ที่ ดูหนัง

หนังพยายามจะนำเสนอถึงในอนาคตปี 2092 เมื่อโลกมนุษย์ประสบปัญหามลภาวะอย่างหนัก ซึ่งเกิดจากสภาวะที่ทะเลทรายเกิดแผ่ขยายวงกว้างขึ้น โดยส่งผลให้ต้นไม้ไม่สามารถขยายพันธุ์ได้ และด้วยปัจจัยดังกล่าวทำให้สภาพอากาศบนโลกเป็นพิษ จึงส่งผลให้ผู้คนที่ยังต้องจำทนอยู่บนพื้นโลกที่มีมลพิษ และต้องสวมหน้ากากกรอง และถึงแม้ว่าโลกจะเผชิญปัญหามลพิษ ก็ได้มีบริษัท UTS ของเจมส์ ซัลลิแวน เจ้าของอาณานิคมในอวกาศ เขาได้ทำการสร้างโลกจำลองที่โคจรอยู่รอบโลกมนุษย์ เรียกได้ว่าเป็นโลกที่อุดมสมบูรณ์

 

รีวิว Space Sweepers -1

 

ความเป็นอยู่ของคนบนนั้น ต่างจากคนที่อยู่บนโลกมนุษย์ ราวฟ้ากับเหว ซึ่งอัตราส่วนของคนบนโลกมนุษย์ ต่อคนที่อยู่บนอาณานิคมอวกาศนั้นอยู่ที่ 90 ต่อ 10 เปอร์เซ็นต์ ถึงอย่างไรก็ตาม ผู้คนที่อยู่บนโลกมนุษย์ แม้จะต้องเผชิญภัยมลพิษ ผู้คนบางกลุ่มก็ยังคงต้องทำงาน เพื่อหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของตนและครอบครัว ซึ่งจะมีคนกลุ่มหนึ่ง ที่ทำอาชีพเก็บขยะอวกาศที่ลอยเท้งเต้งไปขาย เพื่อแลกเงิน ประทังชีวิต

“Space Sweepers” ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาลและได้นักแสดงนำระดับแถวหน้า อย่าง ซงจุงกิ มารับบท แทโฮคิมแทรี รับบทเป็น กัปตันจาง ชินซอนกยู รับบท ไทเกอร์พัค และยูแฮจิน รับบทเป็น บั๊บส์ หุ่นยนต์ทหารที่กัปตันจางเก็บมาจากศูนย์รีไซเคิล

 

รีวิว Space Sweepers -2

 

โดยที่สมาชิกของยานวิกตอรี่ ประกอบไปด้วย กัปตันจาง (คิม แทรี) เจ้าของยานสุดหล่อเท่ หัวสมัยใหม่ไม่ก้มหัวให้ใคร แทโอ (ซง จุงกิ) นักบินที่ยังมีปมฝังใจเรื่องลูกสาวที่พลัดพรากจากกันไป เขาจึงต้องพยายามที่จะหาเงิน เพื่อใช้เป็นค่าจ้างคนที่จะช่วยเขาหาตัวลูกสาว ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้พบกันอีกต่อไป โดยไทเกอร์พัค (จินซอนคยู) เป็นอดีตพ่อค้ายาเสพติดที่ผันตัวเองมาเป็นคนเติมเชื้อเพลิงประจำยาน และบั๊บ (ยูแฮจิน) หุ่นยนต์เอไอ ที่เป็นทรานส์เจนเดอร์

มีวันหนึ่งพวกเขาได้ไปเจอกับเด็กคนหนึ่ง ในกระสวยขยะอวกาศที่พวกเขาเก็บได้ ซึ่งทาง UTS ได้ประกาศว่า นี่คือ Android ที่ชื่อว่าโดโรธี รูปร่างหน้าตาเหมือนเด็กสาวอายุ 7 ขวบทั่วไป แต่ถูกฝังระเบิดเอาอนุภาคสูงเอาไว้ หากใครพบเจอให้รีบนำมาคืน ในครั้งแรกกลุ่ม Victory ต้องการจะหาผลประโยชน์จาก โดโรธี ด้วยการเรียกค่าไถ่ แต่เมื่ออยู่ด้วยกันนาน ๆ เข้าสมาชิกยาญ Victory ก็มีความผูกพันกับโดโรธี และรู้ว่าโดโรธีนั้นไม่ได้เป็นภัยอย่างที่ UTS ได้ประกาศ แถมตัวเธอนั้นยังมีความลับบางอย่างที่สามารถ ช่วยเหลือมวลมนุษยชาติทั้งหลายได้อีกด้วย กลุ่ม Victory จะจัดการอย่างไรกับโดโรธี และต่อกลอนอย่างไรกับองค์กร UTS สามารถติดตามรับชมได้ทาง ดูหนัง

อันที่จริงในพาร์ทของบทภาพยนตร์นั้น ขอบอกว่าการเดินเรื่องตามสูตรสำเร็จแนวหนังไซไฟผจญภัยทั้งดุ้น ชนิดที่แทบจะไม่มีอะไรพลิกผัน ตัวร้ายที่เห็นหน้ายังไงก็รู้ว่าตานี่นี่แหละที่บงการทุกอย่างและทำให้โลกมนุษย์มีสภาพฉิบหายย่อยยับอย่างที่เป็นอยู่และเขาจะต้องมีความเชื่อมโยงที่ไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับโดโรธีแน่นอน

โชคยังดีที่แม้จะไม่มีอะไรใหม่ แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นในเรื่องก็ยังดูสนุก บันเทิง ลื่นไหล เนื่องจากเคมีของนักแสดงที่เล่นเข้าขากันอย่างเป็นหมู่คณะ ฉากแอ็คชั่นตื่นตาตื่นใจ งานเทคนิคพิเศษที่เทียบชั้นงานระดับบล็อกบัสเตอร์ของฮอลลีวูด จนเราเองก็แอบนึกเสียดายว่าถ้าหากมีโอกาสได้ชมหนังเรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์คงจะตื่นตาตื่นใจกว่านี้อีกสิบเท่าทีเดียว

 

 

รีวิว Space Sweepers มีดีอย่างไร

หนังเป็นฝีมือของผู้กำกับ โจซองฮี เอาจริงแล้วตัวเขาก็มีงานที่น่าจับตามองตั้งแต่ตอนทำหนังสั้นเรื่องแรก แล้วคว้ารางวัลจากเมืองคานส์กลับบ้านสำเร็จ ในหนัง Don’t Step Out of the House (2009)

นับเป็นอีกคนหนังของเกาหลีที่ช่วยขับอุตสาหกรรมได้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะความทะเยอทะยานในการริเริ่มสร้างหนังเรื่อง Space Sweepers เรื่องนี้นี่ล่ะ คือก้าวแรกของวงการหนังเกาหลีว่าพร้อมที่จะเอา “โคเรียวูด” ไปชนฮอลลีวูดได้แล้วหรือยัง หลังจากด้านคุณภาพหนังรางวัลนั้นเกาหลีเพิ่งชนะออสการ์มาหมาด ๆ จากหนัง Parasite ดูหนังออนไลน์

ความน่าสนใจของบทภาพยนตร์ไซไฟสุดล้ำเรื่องนี้ คือ ตัวละครที่โลดแล่นอยู่ในเส้นเรื่อง ต่างก็ไม่ใช่เหล่าซูเปอร์ฮีโร่ ที่มีพลังวิเศษไว้กอบกู้จักรวาล พวกเขาเป็นเพียงชนชั้นแรงงาน ที่เสี่ยงภัยในอวกาศ เพื่อเก็บขยะอันตรายไปแลกกับเศษเงิน แต่แล้ววันหนึ่ง เมื่อพวกเขาได้พบกับเด็กหญิงที่ชื่อ “โดโรธี” ภารกิจของพวกเขาจึงต้องเปลี่ยนแปลงไป นี่คือพล๊อตเรื่องคล่าวๆที่ทำให้พอดูตัวอย่างจบแล้วรู้สึกว่าเฮ้ย มันน่าดูจังวะ

 

รีวิว Space Sweepers

 

อันจะขอกล่าวถึงก่อน คือการใส่รสปรุงที่เป็นเอกลักษณ์ของงานเกาหลีที่ว่า บทเด่นดราม่า เชิดหน้าชูตางานแสดง โดยการเลือกสร้างกลุ่มละครตัวนำที่น่าสนใจ ที่มีทั้งสาวแกร่งเกินหน้าผู้ชายอย่าง กัปตันจาง (คิมแทรี) นักขับยานหน้าตาดีแต่ยาจกที่มีปมอดีตสุดดราม่าอย่าง แทโฮ (ซงจุนกิ) ช่างเครื่องนักเลงหัวไม้แต่ใจดีอย่าง ไทเกอร์พัค (จินซอนคยู) และหุ่นยนต์ปากกวนอวัยวะอย่าง บั๊บ (ยูแฮจิน) ถึงแม้จะดูแตกต่างกันมาก แต่ก็สามารถเอามารวมกลุ่มกันได้เคมีลงตัวมาก ๆ และความเก่งคือเป็นการเลือกตัวแทนของคนชายขอบหลายแบบ ที่น่าตื่นเต้นสุด ๆ คือการให้เจ้าหุ่นบั๊บแทนกลุ่มทรานส์เจนเดอร์ที่ไม่ค่อยได้เห็นในงานที่โด่งดังของเกาหลีบ่อยนัก

และแต่ละตัวละครก็มีปมอดีต หรือปมดราม่าของตัวเองที่ไม่มากไม่น้อย พอให้ประคองไปกับเรื่องได้ไม่ไร้รสชาติ อย่างตัวพระเอกที่มีปมเรื่องลูกสาวก็สามารถใช้แฟลชแบ็กราว ๆ 5 นาที แต่เล่าได้จับใจคัดมาเน้น ๆ แล้วไม่ต้องยืดเยื้อ แต่เอามาใช้เกลาตัวละครแทโฮนี้ได้ทั้งเรื่องเลย พวกรายละเอียดในบทเล็ก ๆ น้อยแต่ได้ผลมากนี้ล่ะ ที่น่าสนใจ โดยตัวละครหนึ่งที่โดดเด่น และเป็นแกนกลางของเรื่อง ก็คือ “แทโฮ” นักบินประจำยาน Victory ผู้อุทิศทั้งชีวิตเพื่อตามหาบางอย่างนับว่าเป็นบทบาทที่ถูกสร้างมาเพื่อ ซงจุงกิ อย่างแท้จริงเพราะตัวละครนี้ มีภายนอกที่ดูแข็งกร้าว และเย็นชาแต่จริงๆแล้ว เขาแอบซ่อนความอบอุ่นและอ่อนโยนไว้ภายใน

ใครที่คิดถึงการแสดงของ จุงกิ เรื่องนี้ไม่ผิดหวังแน่นอนโดยเฉพาะดราม่าที่ถูกปูเอาไว้ตั้งแต่ต้นเรื่องเพื่อนำมาสู่ช่วงท้าย น่าจะทำให้ใครหลายคนต้องเสียน้ำตาอย่างแน่นอน ดูหนังฟรี

 

ซีจี โมชันแคปเจอร์ เอฟเฟกต์ พร็อป ฉาก คอสตูม เพราะเห็นบางส่วนมาจากเทรลเลอร์แล้ว แล้วในหนังจริงก็ไม่ได้หลอกให้ดีใจ เพราะตลอดความยาว 120 นาทีกว่าๆ ฉากหนังไม่มีมาตรฐานตกเลย มีหลุดเล็กน้อยบางช็อตเท่านั้นที่ยังหลอก ๆ ตา แต่โดยรวมต้องยอมรับจริง ๆ ว่านี่คืองานเอาไปเทียบชั้นหนังบล็อกบัสเตอร์ได้เลยทีเดียว แต่ส่วนด้าน เส้นเรื่องภาพรวมที่เดาไว้ว่าคงตามสูตรหนังแอ็กชันที่ไม่ได้ซับซ้อนแหวกแหกตาอะไร ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นหนังเล่าในแบบที่ซ้ำ ๆ กับพล็อตแนวนี้ในหนังเรื่องอื่น เราเดาจุดพลิก จุดหักมุม เดาตัวร้าย คนดีได้หมด แม้แต่มุกไฮไลต์ของเรื่องว่ากันตามตรงก็ไม่ได้เกินคาดอะไร

แต่มองในแง่ความฉลาดของการคุมงานใหญ่ที่ไม่คุ้นมือ ก็มองได้ว่าผู้กำกับเองก็ฉลาดที่จะเลือกยากเป็นบางอย่างไป เมื่อโพรดักชันเป็นโจทย์ใหญ่ยากมากแล้วจะไปดึงความซับซ้อนการเล่าเรื่องมาให้ลำบากอีก หนังจะออกทะเลเละเทะกันไปได้ แต่ก็นั่นล่ะพอว่าตามสูตรล้วน หนังความยาว 2 ชั่วโมงเลยมีหลายช่วงที่เฉย ๆ กับมันไปด้วย ยังดีว่ามุกชวนยิ้ม มุกดราม่ายังทำงานอยู่ตลอด หนังเลยไม่จืดทางอารมณ์

การลงทุนนั้นก็ค่อนข้างตระการตา การออกแบบเมืองในอวกาศนั้นทำได้ดีมาก สมกับการที่ได้โปรโมทว่าได้ลงทุนบีถึง 2400 ล้านวอนหรือราว 646 ล้านบาท แต่สิ่งที่ผมชอบกับเป็นรายละเอียดในยานอวกาศทำได้ดี ส่วนทางด้านคอมพิวเตอร์กราฟิกนั้นเขาก็ทำได้ดีไม่มีอะไรขัดตา จัดได้ว่านี่คือความก้าวหน้าทางโปรดักชั่นของหนังเกาหลี ที่สามารถเทียบชั้นของฮอลลีวูดได้แบบที่ฮอลลีวูดอาจต้องอายเลยก็ได้

 

 

สรุปแล้วหนังเรื่องนี้ ควรค่าแก่การดูไหม

ถ้าจะกล่าวโดยสรุป ก็ต้องบอกว่า Space Sweepersเป็นภาพยนตร์ไซไฟสัญชาติเกาหลีที่โดดเด่นด้วยไอเดีย และเทคนิค Visual Effect งดงามสมกับการรอคอย นับว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆทั้งผู้ชม และทีมนักแสดงทุกคนอย่างแท้จริง นอกจากความสนุกหนังที่จะได้รับอย่างเต็มที่แล้ว หนังก็ยังให้ความหมายที่ดีกับคนดู หนังได้พูดถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม การแย่งชิงทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด เรื่องของสิทธิมนุษยชน มิตรภาพ การพัฒนาที่สร้างผลกระทบให้กับคนจำนวนมาก การรวมอำนาจไว้ที่คนคนเดียวในลักษณะการปกครองแบบเผด็จการ จิกกัดนักอนุรักษ์ NGO หรือแม้แต่ประเด็นการเปิดกว้างทางเพศ เรียกได้ว่า Space Sweepers ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล ใหครบทั้งสาระและความบันเทิงใจ

แต่ถึงภาพรวมจะดีแบบนี้ ก็ใช่ว่าบทจะไม่มีจุดอ่อน เพราะการให้น้ำหนักกับตัวละครสองฝั่ง ระหว่างทีม Victory กับเหล่าวายร้าย ยังมีน้ำหนักที่ไม่เท่ากันอยู่ บางเหตุการณ์ก็ยังไม่สมเหตุสมผล และบางฉาก ก็ไม่ถูกอธิบายว่าใส่มาเพื่อนำไปสู่อะไร แต่ถ้าเทียบกับสิ่งที่หนังชดเชยมาให้เราด้วยรายละเอียดอื่น ๆ ก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ให้อภัยได้ครับ

 

 

หากขอบบทความการรีวิวหนังของผม ฝากติดตามเว็บรีวิวหนัง สปอยหนัง ได้ที่ รีวิวหนังออนไลน์

 

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *