รีวิว อ้ายคนหล่อลวง 7/10 สนุกดีอยู่นะ นักแสดงก็ดี๊ ดี แต่มันขาดอะไรก็ไม่รู้ ที่ไม่ลงตัวเลย ดูหนังออนไลน์
จะว่าไป “อ้ายคนหล่อลวง” เป็นหนังที่ผมทั้งคาดหวังและก็ไม่คาดหวังในคราวเดียวกัน (เอ๊ะยังไง) ที่ว่าคาดหวังเพราะหนังปะยี่ห้อ GDH ที่อย่างน้อยๆ เราคงคาดหวังถึงมาตรฐานทั้งงานสร้าง โปรดักชัน งานด้านบทได้อยู่ไม่น้อย บวกกับทีมนักแสดงที่ขนมาระดับท๊อปฟอร์ม ทั้งณเดชน์ ใบเฟิร์น พี่แหม่ม คัทลียา แบงค์ ธิติ และดีเจเผือก แต่ทันทีที่เห็นตัวอย่างหนัง ทำไมผมกลับรู้สึกเฉยๆ ดูแล้วไม่มีอะไรแปลกใหม่ ไม่รู้สึกสนุกกับมุก หรือ แก๊ก ที่ตัดมาในตัวอย่าง โดยเฉพาะมุกตลกสังขารในตอนท้ายที่มีเต๋อ ฉันทวิชช์มารับเชิญ ทั้งๆ ที่การตัดตัวอย่าง ก็ตัดมาได้ดีนะตามมาตรฐานของค่าย ความคาดหวังที่อยากดูมากเลยกลายเป็นความไม่คาดหวังทันที
“อ้ายคนหล่อลวง” ว่าด้วยเรื่องราวของ อดีตสาวทำงานธนาคารที่ปัจจุบันทำงานในบริษัทสินเชื่อรถยนต์อย่างอินา (ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก) ที่จู่ๆ วันหนึ่งเธอโดนทาวเวอร์ (ณเดชน์ คูกิมิยะ) มิจฉาชีพ โทรมาหลอกเพื่อตบทรัพย์ แต่กลับโดนอินา (ที่เคยทำงานธนาคารมาก่อน) ตลบหลังเอาคืน ทำให้ทาวเวอร์ต้องมาทำงานให้อินาเพื่อหลอกลวงเพชร (แบงค์ ธิติ) อดีตแฟนเด็กของอินาที่หลอกเอาเงินเธอไปห้าแสนบาท
โดยมีครูนงนุช (แหม่ม คัทลียา) ครูของอินาที่กำลังประสบปัญหาเรื่องหนี้สิน และ พี่โจน (ดีเจเผือก) พี่ชายคนสนิทของทาวเวอร์ เข้าร่วมขบวนการในครั้งนี้ด้วย
รีวิว อ้ายคนหล่อลวง ความรู้สึกหลังดู
แม้จะรู้สึกเฉยๆ มากกับตัวอย่างหนังที่เห็น แต่เนื้อหนังจริงกลับดูสนุกในระดับมาตรฐานของ GDH โดยเฉพาะส่วนของแผนการหลอกลวงต่างๆ ที่มีทั้งลูกล่อ ลูกชน มี twist หักมุม ตลบหลัง อันนี้ต้องยกเครดิตให้ทีมเขียนบทที่ยังคงทำหนังโจรกรรมแบบไทยๆ ที่ค่อนข้างแข็งแรง ดูสนุกอยู่ แม้จะมีกลิ่นไอและอดคิดถึงหนังตระกูล Ocean อยู่บ้างไม่น้อย แต่ “อ้ายคนหล่อลวง” ก็ได้พิสูจน์แล้วว่า ถ้าได้ใส่ใจกับบท คิดให้เยอะๆ เราก็จะได้หนังโจรกรรมชั้นดีได้ไม่ยาก บวกกับการได้ทีมนักแสดงที่แข็งแรง เล่นได้เข้าขากัน เลยทำให้หนังเรื่องนี้เอาตัวรอดได้อย่างสบายๆ ตามมาตรฐานของค่าย ดูหนัง
ในแง่ของความเป็นหนังโจรกรรม ต้มตุ๋น ผมยอมรับนะว่า “อ้ายคนหล่อลวง” ตอบโจทย์ได้ดีในจุดนี้ แต่ในแง่ของความเป็นหนังโรแมนติก คอมเมดี้ ที่ดูเหมือนจะเป็นหน้าหนังหลักของหนัง ผมกลับรู้สึกว่าหนังพาผมไปไม่ถึงในจุดนั้น ซึ่งเป็นปัญหาที่ผมพบในหนังของผู้กำกับเมษ ธราธรแทบทุกเรื่อง ทั้ง ATM เออรัก เออเร่อ ที่พาร์ทตลก
พาร์ทตามสืบคนขโมยเงินจากตู้เอทีเอ็มกลับทำงานได้ดีกว่าพาร์ทโรแมนติกของพระเอก นางเอก หรือ ไอฟาย แต๊งกิ้ว เลิฟยู แม้ว่าพาร์ทโรแมนติกจะดูดีขึ้น แต่ความเป็นหนังตลกยังกลบอยู่ดี หรือในงานอย่าง “อ้ายคนหล่อลวง” ยอมรับว่าผู้กำกับเมษ ได้พัฒนางานได้กลมกล่อมกว่างานเรื่องก่อนที่กำกับเดี่ยว (ยกเว้น บ้านฉันตลกไว้ก่อนพ่อสอนไว้ งานกำกับเรื่องแรกของผู้กำกับ ที่ทำคู่กับบอล วิทยา)
โดยเฉพาะจังหวะการของลูกล่อ ลูกชนตามแบบหนังจารกรรมชั้นดี ผสานมุกตลกที่ยิงเข้าเป้าบ้าง ไม่เข้าเป้าบ้าง แต่โดยรวมๆ กลับดูเพลิดเพลิน และหัวเราะดังๆ ไปกับตัวหนังได้ในหลายๆ มุก (แต่มุกที่ไม่ชอบที่สุดยังคงเป็นทุกมุกที่เล่นกับสรีระ สังขาร ที่มีเต๋อ ฉันทวิชช์ รับเชิญ ไม่ใช่ว่าเต๋อเล่นไม่ดีนะ แต่ผมกลับไม่ตลกเลยสักมุกที่เล่นกับน้ำลายในหนัง)
หนังเดินเรื่องมาอย่างสนุก (สำหรับผม) แต่กลับพาไปไม่ถึงในมุมโรแมนติกในช่วงท้าย ที่เหมือนกับว่าจำเป็นต้องใส่มาเพื่อให้เห็นว่าพระเอก นางเอก ต้องรักกันนะ ทั้งๆ ที่ทั้งหมดทั้งมวลของหนัง มันไม่มีตรงไหนเลยที่ปูเรื่องราวความสัมพันธ์ในเชิงโรแมนซ์ของคู่พระ นาง ว่าทั้งคู่ตกหลุมรักกันเลย อารมณ์ตรงนี้เลยพาไปไม่ถึง (สำหรับผม) ซึ่งดูเหมือนพาร์ทโรแมนติกกลับเป็นจุดอ่อนของหนังเรื่องนี้ (รวมถึงเรื่องก่อนๆ ของผู้กำกับไปด้วย)
ไม่ใช่ว่าพระ นาง ทั้งณเดชน์ และ ใบเฟิร์น เล่นไม่ดี ตรงกันข้าม ทั้งคู่เล่นดีมาก ไม่ใช่ว่าทั้งคู่ไม่มีเคมีที่ดีต่อกัน ตรงกันข้าม เคมีทั้งคู่ดีมาก แต่จะด้วยบท หรือการกำกับ ที่ดันดึงเคมีความโรแมนติกของพระ นางออกมาได้ไม่ถึง มันเลยฉุดความรู้สึกทั้งหมดที่มีในหนัง แทนที่หนังจะดูดี กลมกล่อมกว่านี้ กลับมาสะดุดในจุดที่ควรจะเป็นจุดขายสำคัญของหนัง….นี่เสียดายมากๆ นะ หนังควรได้คะแนนเยอะกว่านี้ด้วยซ้ำ
“อ้ายคนหล่อลวง” ยังคงเป็นงานมาตรฐานที่ดีของ GDH อย่างน้อยมันก็ตอบโจทย์ความดูสนุก แม้ในพาร์ทโรแมนติกจะแห้งแล้ง จืดชืด และไปไม่ถึงฝั่งฝัน (ถ้าพาร์ทนี้ดีนะจะลงตัวกว่านี้เยอะเลย) …แต่วัดจากเสียงหัวเราะของผู้ชมในโรง เชื่อเลยว่าหนังคงได้ใจคนดูหลายๆ คนไปแล้ว ทันทีที่ดูหนังจบ ผมพูดกับตัวเอง “หนังได้เงินแน่ๆ” เชื่อสิ รีวิวหนัง
#อ้ายคนหล่อลวง
#เอ้อระเหยลอยลม