รีวิวหนัง Captain America: Civil Warและแล้วก็มาถึงภาคสุดท้ายของภาพยนตร์ที่เป็นตัวเอกอีกหนึ่งคนในฮีโร่ของมาร์เวลอย่างกัปตันอเมริกากันแล้วนะครับถือว่าภาคจบของเรื่องนี้ค่อนข้างที่จะต่างจากภาคเก่าเยอะเลย หนังดำเนินเรื่องต่อจาก ซึ่งหลังจาก Avengers: Age of Ultron กวาดรายได้จากทั่วโลกไปอย่างถล่มทลายกว่า 1,300 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2016 นี้ Marvel Studio ก็กำลังจะนำภาคที่ 3 ของกัปตันอเมริกา ในชื่อ “Captain America: Civil War” มาให้แฟนๆ อเวนเจอร์สหายคิดถึงกันเพราะหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น เหล่าบรรดาฮีโร่อเวนเจอร์ที่เข้าไปปฏิบัติการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดที่บุกโลกจนทำให้ประชาชนบาดเจ็บและล้มตายกันเป็นจำนวนมหาศาล
ซึ่งในฝ่ายของกัปตันอเมริกานั้น ไม่พอใจกับข้อตกลงนี้ เพราะครั้งหนึ่งชีลด์ที่เคยกำกับดูแลซูเปอร์ฮีโร่ก็กลายเป็นฉากบังหน้าของพวกไฮดราเช่นกัน ความร้าวฉานภายในจึงเกิดขึ้นกับทีมอเวนเจอร์ส ในขณะที่ศึกภายนอกจากเหล่าวายร้ายก็กำลังถาโถมเข้ามา
เรื่องราวบานปลายใหญ่โตจนระดับผู้นำของประเทศต่าง ๆ ต้องออกมาหาทางแก้ปัญหาและร่างกฎหมายเพื่อควบคุมกลุ่มคนที่มีพลังเหนือมนุษย์หรือทีมอเวนเจอร์นั่นเอง เพราะเหตุนี้ทำให้สตีฟ โรเจอร์หรือกัปตันอเมริกา ที่ต้องการปกป้องเพื่อนสนิทของเขาอย่างบัคกี้ บาร์นส์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากกฎหมายที่พวกผู้นำร่างขึ้น ส่วนโทนี่ สตาร์ค หรือไอรอนแมน ก็ไม่พอใจในการกระทำของสตีฟ ทำให้ขัดแย้งกันและเหล่าอเวนเจอร์ก็แยกทีมกันเป็น 2 ฝ่ายและมาทำสงครามกัน
ว่ากันที่เรื่องของเนื้อหากันก่อน ภาคนี้มีเนื้อหาที่เข้มข้น เหมือนเป็นภาคย่อยของอเวนเจอร์เลยก็ว่าได้เพราะว่ามีตัวละครจากมาร์เวลมาเยอะพอสมควร รวมไปถึงฉากแอ็คชั่นสุดระห่ำ และสอดแทรกมุกตลกสไตล์มาร์เวล การเดินเรื่องของภาคนี้ค่อนข้างไวพอสมควร ผมว่าถ้าพลาดไปซํกฉากอาจจะมี หรือขาดตอนไปกลับมาอาจจะมีงงกันได้ แน่นอนว่าภาคนี้เป็นการมาประชันบทบาทกันระหว่างไอรอนแมน และ กัปตันอเมริกา ถือว่ามีความลงลึกในรายละเอียดมากกว่าภาคแยกของทั้งคู่ในส่วนของนิสัยใจคอ
รวมถึงความคิดและทัศนคติของทั้งคู่ ถ้าลองสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าในAvengers ทั้งคู่ชอบขัดแย้งกันตลอดเพราะทั้งคู่มั่นใจในความคิดและประสบการณ์ของตัวเอง แต่ใน Civic War จะเป็นการเดินเรื่องโดยที่กัปตันอเมริกาเป็นพระเอกและฝั่งไอรอนแมนเป็นผู้ร้ายส่วนฉากบู๊แอ็คชั่นนั้น หนังค่อย ๆ ย่อยให้คนดูเป็นระยะ เอาใจคอหนังแอ็คชั่นโดยการทยอยปล่อยมาตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีมากั๊กไว้ท้าย ๆ เหมือนภาคก่อน ๆ ฉากที่ถือเป็นไฮไลท์ของภาคนี้ แต่ฉากที่ถือว่าคุ้มเงินคนดูที่สุดก็คงเป็นฉากต่อสู้ที่สนามบินนั่นแหละครับ เพราะเป็นการรวมเอาฮีโร่ในเรื่องนี้ไว้ทุกคนเลย
และแนะนำอย่างยิ่ง ถ้าหากใครจะชม Infinity War ก็ควรชมภาพยนตร์ชุดนี้ก่อนเพราะว่าเรื่องราวต่อจากCivil War ข้อเสียของหนังจักรวาลมาร์เวลนั้นมีเพียงอย่างเดียวคือถ้าไม่ไล่ดูตามTime Line ก็จะเกิดอาการค้างเติ่งไม่รู้ว่าเป็นไปเป็นมาอย่างไร หรือว่าพวกเขาไปทะเลาะกันตอนไหนนั่นเอง คะแนนของเนื้อเรื่อง 9/10 เนื้อเรื่องน่าสนใจเพราะมีการนำฮีโร่อเวนเจอร์มาทำศึกและขัดแย้งกันเอง แต่การขัดแย้งกันไม่ได้มุ่งหมายจะทำร้ายหรือเอาชีวิตกัน เหมือนเป็นการขัดขวางการกระทำของอีกฝ่ายมากกว่า หนังยังคงมีความตลกปนดราม่าแอ็คชั่นไปเรื่อยตามสไตล์มาร์เวล
Captain America: Civil War ดำเนินเรื่องต่อจาก Avengers: Age of Ultron ซึ่งปูเรื่องมาให้ก่อนแล้ว โดยเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจาก Captain America: Winter Soldier ที่ทิ้งเอาไว้ ในขณะที่ Captain America: Civil War ก็จะเป็นการปูเรื่องเข้าสู่ Thor: Ragnarok ซึ่งจะเป็นภาค 3 ของธอร์เช่นกัน สำหรับ Thor: Ragnarok นั้น จะเป็นเรื่องราวที่ดำเนินหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน Avengers: Age of Ultron ซึ่งได้รับการเปิดเผยจาก เควิน ไฟกี แห่งมาร์เวลด้วยการบอกใบ้ด้วยว่า
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคนี้จะส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อจักรวาลภาพยนตร์รวมถึงซีรีย์ทั้งหมดของมาร์เวลด้วย ซึ่งถ้าอ่านจากตำนานเทพเจ้ายุโรปเหนือแล้ว Ragnarok เป็นคำทำนายว่าด้วยการล่มสลายของเหล่าเทพเจ้าทั้งมวล ไม่ว่าจะเป็น ธอร์, โอดิน และโลกิ รวมถึงอาณาจักรแอสการ์ดก็จะจมหายไปในน้ำ Thor: Ragnarok จึงน่าเป็นภาคที่บ่งบอกถึงการสิ้นสุดของอะไรสักอย่างที่สำคัญ อย่างไรก็ตามเราคงต้องติดตามกันต่อไป…ฝากหนัง
รีวิวหนัง Captain America: Civil War สาระสำคัญเกี่ยวกับหนัง
การปะทะกันใน มี สไปเดอร์แมน มาสู้กับกัปตันอเมริกาด้วย โดยสำหรับผู้ที่มารับบทไอ้แมงมุมสไปเดอร์แมนหรือปีเตอร์ปาร์คเกอร์ก็คือทอมฮอลแลนด์ ซึ่งไม่ได้เป็นแค่บทแขกรับเชิญที่ผ่านไปผ่านมาธรรมดาๆ เพียงไม่กี่วินาที แต่เขามีฉากได้ต่อสู้กับกัปตันอเมริกาอย่างเป็นจริงเป็นจังในภาคนี้ ซึ่งพ่วงมากับรูปแบบฉากต่อสู้สุดยียวนและเฟอะฟะไม่เหมือนใคร ให้ผู้ชมได้หัวเราะกันอร่อยแน่นอน
แอนท์แมน ก็มาร่วมวงการปะทะกันใน Captain America: Civil War ด้วยเช่นกัน เป็นที่ยืนยันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า สก็อตต์ แลงค์ หรือ แอนท์แมน ก็จะมีเอี่ยวในการปะทะกันของไอร์ออนแมนและกัปตันอเมริกาครั้งนี้ด้วย หลังจากทิ้งเบาะแสเอาไว้ท้ายเครดิต แอ ถึง 2 ฉากด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ฉากที่ ฟัลคอน กำลังสนทนากับ กัปตันอเมริกา เพื่อหาใครสักคนสำหรับหาเบาะแสของวินเธอร์โซลเยอร์ หรือบัคกี้โดยไม่ใช้ทีมอเวนเจอร์ ซึ่งต่อมาฟัลคอนก็แนะนำใครคนหนึ่งขึ้นมาและนั่นก็อาจเป็น สก็อตต์ แลงค์ หรือ “แอนท์แมน” นั่นเอง
ฉากที่แขนของ บัคกี้ ติดอยู่ในเครื่องยึดจับสักอย่างในโกดัง และกัปตันถามบัคกี้ว่าจำเขาได้หรือไม่ ก่อนที่บัคกี้จะตอบว่า แม่ของนายชื่อซาร่าห์… นายเคยใส่กระดาษหนังสือพิมพ์ในรองเท้า หรือกระทั่งฉากที่ ดร.แฮงค์ พิม พาลูกสาวอย่างโฮปแวนไดน์รับบทโดย อีวาเจลลีน ลิลลี่ ไปพบชุดสูทแวสป์ ซึ่งต่อมา อีวาเจลลีน ลิลลี่ คนนี้ก็ได้เซ็นสัญญาร่วมแสดงหนัง Marvel อีกหลายเรื่องด้วยกัน จนอาจมีความเป็นไปได้ที่จะปรากฏตัวในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง รวมถึงกัปตันอเมริกา Civil War นี้ด้วย
มีข่าวลือหนาหู จากความขัดแย้งระหว่าง ไอร์ออนแมน และ กัปตันอเมริกา ทำให้อเวนเจอร์สแบ่งออกเป็น 2 ทีม คือ ผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งมีรายชื่อดังนี้ ทีมไอร์ออนแมน เห็นด้วย : ไอร์ออนแมน , วิชั่น , สไปเดอร์แมน, แบล็ค วิโดว์และ วอร์ แมชชีน
ทีมกัปตันอเมริกา (ไม่เห็นด้วย) : กัปตันอเมริกา , ฮอว์คอาย, ฟัลคอน , สการ์เลต วิทช์ , แอนท์แมน และ วินเทอร์ โซลเยอร์ ซึ่งแม้จะมีการแบ่งทีมกันเป็นที่เรียบร้อย และ แบล็คแพนเธอร์ เลือกที่จะอยู่ทีมไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด แต่ทว่าสำหรับรายชื่อแต่ละทีมที่ว่านี้ก็ยังวางใจไม่ได้ทั้งหมด เพราะยังมี สายลับสองหน้า ที่แอบแฝงและคอยรายงานความเคลื่อนไหวของฝ่ายหนึ่งสู่อีกฝ่ายหนึ่งด้วย แต่จะเป็นใครบ้างนั้น? งานนี้ขอ อุ๊บ! ไว้ก่อน เดี๋ยวไม่สนุก กิๆๆๆๆ
ฮัลค์ไม่ได้มาร่วมวงโรมรันพันตูใน กัปตันอเมริกาซีวิลวอร์ ครั้งนี้ ซึ่งได้รับการยืนยันจากปากของ มาร์ค รัฟฟาโล ผู้รับบท ฮัลค์ ว่าในหนังกัปตันอเมริกาซีวิลวอร์ เขาหรือ “ฮัลค์” จะไม่ปรากฏตัวในภาคนี้ เพราะยังอยู่ในช่วงหายตัวไปต่อเนื่องจาก Avengers: Age of Ultron และก็ยังไม่มีการเฉลยว่าเขาไปอยู่ที่ไหนในช่วงนั้น แต่ก็เชื่อกันว่าน่าจะเป็นเรื่องราวอะไรบางอย่างที่สำคัญจนทำให้ทางมาร์เวลต้องการเก็บไว้เป็นความลับและยังไม่อยากเปิดเผย…
แดเนียล บรูห์ล ยืนยันรับบทเป็น บารอนซีโม หนึ่งในตัวร้ายของกัปตันอเมริกาซีวิลวอร์ก่อนที่จะไปเป็นตัวร้ายหลักใน Doctor Strange โดยในเนื้อเรื่องฉบับคอมมิคนั้น ซีโมเป็นนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะและผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างอาวุธของนาซี และมีความโกรธแค้นกัปตันเป็นการส่วนตัวนั่นเอง
มีฉากการปรากฏตัวของแบล็คแพนเธอร์ อยู่ในกัปตันอเมริกาซีวิลวอร์ ซึ่งเขากำลังจะเป็นฮีโร่ตัวเอกที่มีหนังเป็นของตัวเองในปี 2017 นี้โดยสำหรับฉากที่ “แบล็คแพนเธอร์ ซึ่งรับบทโดยแชดวิคโบสแมน ได้ปรากฏในกัปตันอเมริกาซีวิลวอร์นั้นเป็นฉากการปีนป่ายหลังคาเคียงข้าง บัคกี้ บาร์เนส ซึ่งรับบทโดย เซบาสเตียน สแตน นี่จะถือเป็นการแนะนำตัวครั้งแรก เพื่อให้ผู้ชมได้ทกความรู้จักกันก่อนที่ตัวละครตัวนี้จะมีหนังเดี่ยวเป็นของตัวเองในปี 2017 ที่จะถึง
ฟัลคอน และครอสโบนส์ ใส่ชุดใหม่ในกัปตันอเมริกาซีวิลวอร์ โดยผู้ที่รับบทเป็นตัวร้ายหลักของกัปตันอเมริกาซีวิลวอร์ นี้ ก็คือ ครอสโบนส์หรือบร็อกรัมโลว์ ตัวละครที่จะกลับมามีบทบาทต่อจาก Captain America: The Winter Soldier ในภาคที่แล้ว ซึ่งแม้ในภาคก่อน รัมโลว์จะเป็นเพียงหนึ่งในไส้ศึกขององค์กรไฮดราที่ถูกจับได้ หลังจากที่แฝงตัวเข้ามาในชีลด์ แต่ด้วยคำบอกใบ้ในตอนท้ายจะเป็นการทำให้รัมโลว์ต้องถึงจุดพลิกผันและทำให้เขากลายมาเป็น ครอสโบนส์ ในท้ายที่สุดของภาคนี้.
มาร์ติน ฟรีแมน จากบท บิลโบ้ ใน The Hobbit ก็มาร่วมแสดงใน Captain America: Civil War ภาคนี้ โดย มาร์ติน ก็เผยความลับบางอย่างเกี่ยวกับตัวละครของเขาในจักรวาลมาร์เวลว่า ตัวละครของเขานั้น เป็นตัวละครที่ทำงานให้กับรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งทำหน้าที่ในการประสานงานระหว่างเหล่าซูเปอร์ฮีโร่และองค์กรบางอย่างที่ช่วยควบคุมพลังของซูเปอร์ฮีโร่ นั่นจึงทำให้ตัวละครตัวนี้ มีความน่าสนใจตรงที่ทำให้ผู้ชมไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่า เขาอยู่ฝ่ายไหนหรือมาดีมาร้ายกันแน่นั่นเอง.
นิค ฟิวรี่ ไม่ปรากฏตัวใน Captain America: Civil War เป็นที่ยืนยันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า สำหรับบทของตัวละคร “นิค ฟิวรี่” อดีตผู้บัญชาการกองกำลังหน่วยชิลด์ จะไม่ปรากฏกายใน Civil War ภาคนี้อย่างแน่นอน โดย แซมมวล แอล แจ๊คสัน ผู้รับบท “นิค ฟิวรี่” กล่าวว่าแม้เขาจะไม่รู้สาเหตุของการไม่ได้ปรากฏตัวในภาคนี้ แต่ก็คาดว่า ฟิวรี่น่าจะยังคงอยู่ระหว่างการออกตามหาสาเหตุที่ทำให้หน่วยชิลด์ล่มสลาย และค้นหาเหล่าซูเปอร์ฮีโร่หน้าใหม่ต่อไป จากการที่ตอนท้ายของเรื่อง Avengers : Age of Ultron ฟิวรี่ได้กำลังง่วนอยู่กับการฝึกปรือเหล่าอเวนเจอร์รุ่นใหม่ให้แข็งแกร่งและเป็นทีมมากขึ้น แม้จะเป็นที่น่าแปลกใจที่ฟิวรี่จะไม่กลับมาปรากฏระหว่างเหตุการณ์ฟาดฟันกันใน Civil War ครั้งนี้ก็ตาม.
บทสรุปหนัง
หนังเล่าเรื่องได้ดีมากกระชับและสนุกทุกฉาก(ย้ำทุกฉากจริง) เปิดมาซัดกันเลยมีฉากบู้ให้ดูตลอดเรื่อง เข้าใจง่ายโดยไม่ต้องปูเรื่องให้ยืดยาว มีเหตุผลที่ลงตัวในการยกพวกตีกัน ตัวละครฮีโร่เยอะจุใจกระจายบทได้เด่นทุกตัว
ตัวละครใหม่ แมว มด แมงมุม ได้เกิดมากๆ มีฉากให้ขำเยอะมาก แบบว่าขำจริงๆ ไม่ใช่ตลกฝืดนะ กัปตันเล่นดีมากในแววตาสื่ออารมณ์ได้มากมาย
สไปดี้คนนี้แม่งใช่เลย คาแรคเตอร์โคตโดน ภาคนี้ไม่มีธอร์กับฮัคนะเพราะอะไรไปดูใน avenger 2 ตอนเฉลยปมของเรื่องแม่งสุดยอดบีบหัวใจจริงๆ
ฉากจบไม่เหมือนในคอมมิคนะ แต่ลงตัวสุดๆปูไปภาคต่อไป หนังจบแล้วอย่าพึ่งลุกมีอีก 2 ฉากเด็ด
ข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้
- ความรักเพื่อนและรักความยุติธรรมของกัปตัน เมื่อกฎหมายหรือสนธิสัญญาที่ร่างขึ้นมาเพื่อควบคุมผู้มีพลังเหนือมนุษย์ มีผลกระทบกับเพื่อนของกัปตันอย่างบัคกี้อย่างไม่เป็นธรรม กัปตันก็ยินดีที่จะแลกกับการต่อสู้กับไอรอนแมนเพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่เป็นธรรม
- ความขัดแย้งอาจจะสร้างมิตรภาพที่แน่นแฟ้น อย่างเช่นกัปตันอเมริกาและไอรอนแมนที่ตีกันแทบตายในภาคนี้ แต่เมื่อถึงเวลาที่มีศัตรูและเข้าตาจน ทั้งสองก็หลังชนกันต่อสู้ได้อย่างเข้มแข็งถือว่าจบได้อยากสวยงามและเป็นการชักพาให้คนดูเตรียมพบการ ภาค Infinity War ไปในตัวครับ เพราะภาคหน้าหนังจะเริ่มที่ความขัดแย้งของกัปตันและไอรอนแมนแบบเล็ก ๆ
