jurassic world 2 รีวิว ยืนหนึ่งมาแรงที่สุดในตอนนี้ คงจะหนีไม่พ้นหนังแฟรนไชส์ภาคต่อ Jurassic World: Fallen Kingdom หรือ จูราสิค เวิลด์: อาณาจักรล่มสลาย ที่หลายคนพร้อมชวนเพื่อน ชวนคนรักตีตั๋วกันเข้าโรงเพื่อไปผจญภัยในดินแดนที่ไดโนเสาร์ยังไม่สูญพันธุ์ 

Jurassic World: Fallen Kingdom เล่าเหตุการณ์หลังจากภาคแรก จูราสสิค เวิลด์ สวนสนุกและรีสอร์ทหรูถูกทำลายโดยไดโนเสาร์ที่หลุดออกมา อิสลา นูบลาร์  ก็ถูกมนุษย์ทิ้งร้าง เหลือเพียงไดโนเสาร์ที่ยังมีชีวิตอยู่อาศัยอยู่ในป่าและภูเขาไฟบนเกาะนั้นที่กำลังจะปะทุ โอเว่นและแคลร์  จึงมีภารกิจช่วยชีวิตไดโนเสาร์ที่อยู่บนเกาะนั้นให้ย้ายไปที่แห่งใหม่

เริ่มต้นด้วยคำถามที่ว่า”จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปหลังจากทั้งอาณาจักรได้ล่มสลายไปแล้ว” เส้นทางการผจญภัยท่ามกลางหายนะจากธรรมชาติและกิเลสของมนุษย์ได้เริ่มต้นใน Jurassic World: Fallen Kingdom ที่เหล่าไดโนเสาร์และมวลมนุษย์ต้องหาวิธีเอาตัวเองให้รอดจากภัยครั้งนี้ ดูหนังออนไลน์

Jurassic World: Fallen Kingdom เล่าเรื่องราวต่อเนื่องจากภาคก่อนในปี 2015 ภายหลังจากเหตุโศกนาฏกรรมที่จูราสิค พาร์ค เกาะท่องเที่ยวสัตว์ดึกดำบรรพ์นอกชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ที่กลายเป็นเกาะร้างที่ทิ้งไดโนเสาร์หลากหลายพันธุ์ให้คงดำรงอยู่ตามธรรมชาติ ท่ามกลางข้อถกเถียงจากสังคมที่ว่า ไดโนเสาร์ควรอยู่ต่อไปหรือปล่อยให้สูญพันธุ์ อีกครั้ง

แคลร์ ได้รับภารกิจให้กลับไปยังเกาะ เพื่อช่วยเหลือเหล่าไดโนเสาร์ ทำให้เธอต้องพาคู่หูคู่ซี้คนสนิท โอเวน ร่วมเดินทางในครั้งนี้ด้วย แต่ทุกอย่างกลับพลิกผันเมื่อพบว่าเป็นเพียงแผนลวงของนายทุนหน้าเงิน ที่หวังจะทำให้ไดโนเสาร์เหล่านี้เป็นสินค้าและขายทอดสู่ตลาดของเศรษฐี ท่ามกลางหายนะจากภูเขาไฟปะทุขึ้นบนเกาะ ทำให้พวกเขาต้องหาวิธีช่วยเหลือสัตว์โบราณและหาทางรอดชีวิตไปจากเกาะแห่งนี้

jurassic world 2 รีวิว-1

หลังจากที่ Jurassic World (2015) เคยสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับคนดู แต่กลับมาในภาคนี้ต้องยอมรับว่า ขนาดและไฮไลท์ของหนังกลับลดระดับลงไป ถึงแม้ว่าในแง่ของการให้ความบันเทิงกับคนดูยังคงสานต่อได้อย่างเหนียวแน่น แต่ก็พบว่าจุดเด่นในด้านเสน่ห์ของตัวละครและรายละเอียดเล็กน้อยต่างๆ ยังทำได้ไม่เท่ากับภาคที่แล้ว

เจ.เอ. บาโยนา มารับหน้าที่กำกับแทนผู้กำกับคนเดิม นี่อาจจะเป็นจุดหนึ่งที่เห็นชัดเจนว่า วิสัยทัศน์และมุมมองในการนำเสนอแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง บาโยนาที่เคยผ่านการกำกับแนวแฟนตาซีและหายนะ จาก The Impossible หรือ A Monster Calls ถ่ายทอดออกมาได้ตามสูตร ไม่มีอะไรสดใหม่ หรือบางจุดก็เป็นอะไรที่เคยเห็นมาก่อน เพียงแต่ลีลาในส่วนของฉากสยองขวัญก็ยังทำได้เป็นลายเซ็นเฉพาะตัวในแบบของเขา

ขณะที่บทภาพยนตร์ของ โคลิน เทรวอร์โรว์ ผู้กำกับจากภาคที่แล้ว กลับไม่กลมกล่อมมากนัก ยังดูขาดและกลวงในบางจุด ภาพตื่นตาและความเร้าใจถูกปรับลดลง พร้อมกับยัดความดราม่าสะกิดต่อมน้ำตาเพิ่มมากขึ้นในภาคนี้ ทำให้บางครั้งก็ดูจงใจยัดเหยียดขายดราม่าเกินเหตุ และภาพรวมค่อนข้างเดาทิศทางได้ง่าย

การแสดงของ คริส แพรตต์ และ ไบรซ์ ดัลลัส ฮาวเวิร์ด ยังคงทำได้ดีในมาตรฐานของพวกเขา เพียงแต่บทบาทและเสน่ห์ของตัวละครต่างๆ ในภาคนี้ ทำให้รู้สึกว่าถูกปรับลดลงมาเล็กน้อย และหันไปให้ความสำคัญกับตัวละครของไดโนเสาร์มากยิ่งขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่โดดเด่นที่สุด บลู วิลอซิแรปเตอร์ ไดโนเสาร์สาวกลายเป็นดาวเด่นและเป็นตัวขโมยซีนที่จะทำให้คนดูหลงใหลได้ง่ายๆ

ส่วนด้านงานสร้างต่างๆ ก็ยังต้องยกนิ้วให้กับทีมผู้สร้าง โดยเฉพาะการออกแบบไดโนเสาร์พันธุ์ต่างๆ ที่มีการคัดเลือกนำเสนอได้อย่างมีเหตุผล จุดเด่นอีกส่วนหนึ่งคือการใส่อารมณ์และชีวิตให้กับสัตว์เหล่านี้ ทำให้ไดโนเสาร์มีซีนที่โดดเด่นไม่แพ้กับนักแสดงคนอื่นๆ เลย

Jurassic World: Fallen Kingdom ในภาคนี้กลายเป็นหนังที่ดูได้ง่าย สไตล์หนังบ็อกซ์บัสเตอร์ซัมเมอร์ทั่วไป จึงไม่ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ของประสบการณ์ดูหนังเท่ากับเมื่อภาคก่อน แต่ก็น่าจะถูกใจแฟนๆ และคอหนังแนวนี้อย่างแน่นอน ดูหนัง

อีกทั้งหนังยังทิ้งท้ายในการดำเนินเรื่องเพื่อปูทางไปสู่ภาคถัดไปได้อย่างงดงาม ทำให้ผู้ชมได้คิดและวิเคราะห์ตามในประเด็นที่เกิดขึ้นในหนัง โลกของจูราสิคในภาคนี้อาจจะล่มสลายลง แต่แท้ที่จริงเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของอาณาจักรใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น และเชื่อว่าทุกคนที่ได้ดูแล้ว คงจะอดใจดูภาค 3 ไม่ไหวกันแน่ๆ

jurassic world 2 รีวิว-2

jurassic world 2 รีวิว ความคิดเห็นหลังดูส่วนตัวของผู้เขียน

หากดูเพื่อความบันเทิงล้วนๆ เก็บสมองไว้ในลิ้นชักไม่ต้องคิดอะไรก็ยิ่งสนุก ไดโนเสาร์เยอะมากแน่นจอเชื่อมโยงภาคก่อนๆได้ดี เพิ่มความระทึกขวัญคล้ายดูหนังผี บวกหนังแอคชั่นไล่ล่าสุดมันส์ระหว่างคนกับไดโนเสาร์ ฆ่าได้ฆ่าไม่สนหมู่หรือจ่า แถมสถานที่ให้ซ่อนตัวยังคับแคบชวนลุ้น ทั้งนี้ยังให้เราได้ดูความสัมพันธ์ระหว่าง โอเวน-บลู ตัวเอกของเรื่องที่จะจูนกันติดหรือไม่หลังแยกจากกันมาสักพัก ภาคนี้เหมือนปูเรื่องเพื่อเดินทางไปยุคใหม่มากกว่า เพราะตอนจบทำออกมาได้น่าสนใจอยากติดตามภาคต่อจะเล่ายังไง หายนะของจริงเพิ่งจะเริ่มต้น 8/10

นี่คือหนังตามสูตรสำเร็จแบบไม่อายใคร ที่จะบอกเลยว่าจะเล่าแบบนี้ ๆ ๆ แบบที่คุณ ๆ คุ้นเคยนั่นล่ะ บางฉากคุณน่าจะเดาได้ล่ะ แต่ผมไม่สนใจไง ตราบใดที่มันทำให้คุณบันเทิง คุณสนุก คุณลุ้นจิกเบาะ คุณตื่นเต้นหัวใจพองโต นี่คือหนังบันเทิงแบบนั้นล่ะ แบบที่เด็กรุ่นใหม่ไปดูต้องกรี๊ดต้องบอกต่อให้คนอื่นไปดู หนังประสบความสำเร็จดีมากครับ หนังสนุกของจริงเลยทั้งแอ็กชัน ทั้งขำแบบพอดีไม่ทำลายบรรยากาศ การแสดงที่ไม่เว่อจนผู้ชมไม่อิน เอฟเฟกต์สุดเร้าใจ ความสยองขวัญกดดัน ความซาบซึ้งตรึงใจ ดราม่า คือมีครบรสจริง

ติดตามรีวิวหนังที่

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *