รีวิว justice league
สวัสดีครับทุกคนสำหรับ การรีวิวในครั้งนี้ ผมจะมารีวิว หนัง ภาพยนตร์ แอคชั่น ที่ยิ่งใหญ่ อย่าง Zack Snyder’s Justice League ซุ้งสำหรับ หนัง ภาพยนตร์เรื่องนี้ นั้น สำหรับ ท่านผู้ชมหลายๆคนก็น่าจะรู้กันดีอยู่แล้วนะครับ ว่า ตัวหนังภาพยนตร์ เรื่องนี้นั้น เป็นผลงาน
จาก ค่ายหนังฮีโร่ แอคชั่นอย่าง DC และสำหรับ หนังภาพยนตร์เรื่องนี้นั้น ถือว่า เป็นหนังฟอร์มยักษ์ ที่ได้เคย นำออกมาแล้ว โดยในผลงานก่อนหน้านี้ จะมาจากผลงาน การกำกับการแสดง โดย ตัวของ ผู้กำกับ จอสส์ วีดอน ของทางค่ายมาร์เวล
ที่ตัวของเขานั้นได้มาคอยตัดต่อเก็บงานจาก แซ็ก สไนเดอร์ ผู้กำกับกับเหล่าผู้คนที่คอยคุมโปรเจ็กต์นี้ทั้งหมด โดยทำไปกับตัวของภรรยาของเขาที่มีชื่อว่า เดเบอร์รา สไนเดอร์ แต่ว่าในช่วงเวลานั้นได้เกิดเรื่องขึ้นคือลูกสาวของเขาที่มีอายุ 20 ปี
ตัวของเธอนั้นได้ฆ่าตัวตาย เหตุเกิดมาจากโรคซึมเศร้า และด้วยสภาพจิตใจ ของเธอที่รับไม่ไหว ทั้งสองคนภรรยาสามีนั้นจึงได้ถอนตัวออกไปจากงานสร้างเรื่องนี้ถึงแม้ว่าตัวเรื่องนี้นั้น หากสนใจดูหนังออนไลน์คลิ้กเลย ดูหนังฟรี
ได้เริ่มถ่ายทำไปเสร็จเกือบหมด แล้วเหลือแค่ตัดต่อ และงานที่ได้ออกมาให้เหล่าผู้ชมได้ดูนั้นก็ได้กลายเป็นโทนหนังที่มีความสดใสตามสไตล์ของ จอสส์ วีดอน และเขายังคงมีผลงานการกำกับที่มีจากค่ายฮีโร่ดังอย่าง Avengers มาก่อนสองภาค และในส่วนของกระแสตอบรับ ก็ถือว่าทำได้ไม่ดีนัก ตัวของรายได้ไม่ค่อยคล่องตัวสักเท่าไหร่ รายได้ของหนังเรื่องนี้เลยทั่วโลก 657.9 ล้านเหรีญ
และเพราะเหตุนี้เอง ตัวของ คนดูหลายๆท่านที่เป็นแฟนของค่ายนี้ได้เรียกร้อง และทางตัวของแซ็คเอง เขาก็มีความรู้สึกที่อยากจะกลับมาทำงานนี้ โดยทำในแบบของเขาให้เสร็จ และในช่วงเวลาสุดท้ายนั้น ก็ตัดสินใจ เพื่อจะทำการอนุมัติ เกี่ยวกับด้านของงานสร้างเวอร์ชั่น นี้ขึ้นและได้นำมาลงในระบบสตรีมมิ่ง หากสนใจดูหนังออนไลน์คลิ้กเลย เว็บดูหนังออนไลน์
รีวิว justice league เนื้อเรื่องของหนัง
และสำหรับหนังเรื่องนี้นั้นน่าจะเป็นหนัง ที่มาจากจักรวาล DC ที่ถือว่ามีความจัดหนัก และมีความจัดเต็มที่สุด เท่าที่หนังของค่ายนี้ได้เคยมีมาแล้วครับ เพราความยาวของหนังเรื่องนี้ มีความยาว ของตัวภาพยนตร์ เรื่องนี้คือ 4 ชั่วโมงแล้ว
เนื้อหาและรายละเอียดที่อ้างอิงจากคอมมิคบอกได้เลยครับว่า ผลงาน ของหนังเรืองนี้ นั้นออกมาเป็นหนัง ที่เป็นคนละเรื่องกันเลยก็ว่าได้ ตัวหนังให้น้ำหนักกับตัวละคร Cyborg และ The Flash มากกว่าเดิม
ทำให้ตัวละครดูสมดุลกว่าเดิม เวลาที่มากขึ้นนำไปเล่าเรื่องได้อย่างมีคุณค่า แน่นอนว่าตัวหนังไม่ได้สมบูรณ์แบบทุกอย่างก็เรียกได้ว่าเรียงแถวกันมาเซอร์ไพรส์แฟน ๆ แบบไม่มีกั๊กอีกด้วย ยอมรับว่าก่อนดูผมก็มีความกังวลเหมือนกันว่าหนัง 4 ชั่วโมงมันจะไม่เยอะไปเหรอ ซึ่งหลังจากที่ดูมาแล้ว ผมก็ตอบได้ทันทีเลยว่า “4 ชั่วโมงแบบจุก ๆ มันคืออะไรที่สมเหตุสมผลที่สุดแล้วครับ
ก็ยังเป็นแบบไปแบบเดิมคือ ทีมจัสติกลีกก่อตั้งครั้งแรกจากแบทแมน แล้วก็ชุบซูเปอร์แมนที่ตายในภาค Batman v Superman: Dawn of Justice ขึ้นมาและสำหรับหนังภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ยังคงตัวเรื่อง เพื่อให้ตัวของ ซูเปอร์แมน มีความแข็งแกร่งแบบมากๆ ขนาดจัดการกับตัวของ Steppenwolf ที่เก่งมาตั้งนาน ทั้งเรื่อง จัดการได้อย่างง่ายดายเช่นเดิม และสำรหับหนังเรื่องนี้ สำหรับการเดินเรื่องถือว่าหนังภาพยนตร์เรื่องนี้ นั้นยังมีความแอบเฉื่อยๆ เปื่อยๆ อยู่บ้าง หากสนใจดูหนังออนไลน์คลิ้กเลย ดูหนังฟรี
แต่ถ้าเรายิ่งดูเนื้อเรื่อง ของหนังเรื่องนี้ ก็จะสามารถ รู้ได้ทันทีว่า ตัวของเนื้อเรื่องนั้น มีความเข้มข้น และยังคงมีความน่าติดตาม มากขึ้นเรื่อยๆ และสิ่งที่ Zack Snyder เนื้อเรื่องของเวอร์ชันฉายโรงกับ Snyder Cut จะตรงกันที่ประมาณ 70 % ครับ
โครงเรื่องของหนังจะเหมือนกันเพียงแต่ว่า หนังภาพยนตร์ ทั้งสองเวอร์ชั่น เหล่านี้นั้นจะมีการเรียบเรียง ที่มีความแตกต่าง จากกัน ส่วนตัวของถ้าบอกว่าชอบอันไหนตัวของ ผม นั้นขอยกให้ Snyder Cut เพราะตัวหนังเรื่องนี้ นั้นเป็นเวอร์ชันที่เล่าเรื่องได้เข้าใจ อย่างดีและ ตัวของลายละเอียด เนื้อเรื่อง ก็ถือว่าครบถ้วน มีความสมบูรณ์กว่าครับ
เพราะว่า ความเดิมหนังเรื่องนี้ ได้ถูกสร้างโดย Zack Snyder ครับ การที่เราได้มาดูงานจากสายตาของเจ้าของที่แท้จริง สิ่งนั้นก็น่าจะตอบได้อย่างดีกว่า เป็นปกติอยู่แล้ว เพราะ เจ้าตัวเอง สามารถทำออกมาได้ ดีมากๆ ของเรื่องนี้คือฉากแอคชั่น ที่ทำแอคชั่นได้ชัดเจน
และการแสดง ถือว่ามีความเท่ อยู่ในทุกท่วงท่าการเคลื่อนไหวต่อกรกับ Steppenwolf ที่ลงมานำร่องยึดโลกให้เจ้านายดาร์คไซด์แบบเดิมต้องบอกว่าเป็น 4 ชม. ที่คุ้มค่ามากครับ การตัดต่อตามวิสัยทัศน์ของ Zack Snyder
ความรู้สึก และเกล็ดหลังดู
และถึงแม้ว้าในใจความสำคัญ และพล็อตเรื่องของ Zack Snyder’s Justice League หนังเรื่องนี้นั้น จะมีบทสรุป ของเนื้อเรื่องในหนัง ที่มีความใกล้เคียง กับตัวขอฉบับฉายโรง แต่ว่าตัวของเนื้อหาระหว่างทาง ก็แทบจะเป็นหนังคนละม้วน เพราะเนื้อเรื่องบางช่วง ที่ได้ถูกเพิ่มเข้ามานั้น ทำให้เนื้อเรื่องของ ตัวละครหลาย ๆ ตัวมีมิติมากยิ่งขึ้น มีความเป็นมนุษยมากยิ่งขึ้น และไม่มีเส้นเรื่องรองที่ถูกเพิ่มเข้ามาให้งงอีกต่อไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในองก์สุดท้ายกับฉากแอ็กชันในช่วง Final Battle ที่แตกต่างกับฉบับฉายโรงอย่างสิ้นเชิง พร้อมอัดแน่นฉากแอ็กชันแบบเท่ ๆ มุมกล้องสวย ๆ อย่างที่ควรจะเป็นใช้ฉากสโลว์ได้ถูกจังหวะและได้ผล หลังจากที่ในปี 2017 แซคถอนตัวจากโปรเจคเพราะปัญหาส่วนตัว ทำให้ Justice League 2017 ได้รับเสียงวิจารณ์เชิงลบและไม่ได้รับผลตอบรับดีเท่าที่ควร ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ หนังเรื่องนี้จะดำเนินเรื่องไปทีละก้าว
เดินไปอย่างช้า ๆ แต่มั่นคง ตลอดทุกก้าวของเรื่องราวในหนังจะแฝงไปด้วยพลังที่มีศักยภาพพอให้ใครสักคนประทับใจ เป็นการดำเนินเรื่องแบบช้าแต่ชัวร์ครับ การดูหนังเรื่องนี้จะให้อารมณ์ที่คล้ายกับการเสพงานศิลป์ มันจะให้ความรู้สึกที่เป็นแรงบันดาลใจแปลก ๆ หากสนใจดูหนังออนไลน์คลิ้กเลย ดูหนังฟรี4K
อาจเป็นเพราะตา Zack เขาบิ๊วอารมณ์คนดูเก่งครับ มันจะเป็นความสนุกที่ดูฟุ้ง ๆ หน่อยตามลายเซ็นแก ในเวอร์ชั่นปี 2021 หลังจากรอมานานถึง 4 ปี แฟน ๆ เหล่าฮีโร่จักรวาล DC ต่างสมหวังกับการรอคอย ส่งผลให้กระแสตอบรับของ Zack Snyder’s Justice League เป็นไปในทิศทางบวก ในเว็บไซต์ Rotten Tomotoes เว็บวิจารณ์หนังชื่อดัง ผ
เรื่องพาร์ทแอ็คชั่นผมว่าทั้งสองเวอร์ชันทำออกมาได้ใกล้เคียงกันครับ แต่ Snyder Cut จะจริงจังกว่าและด้วยความที่เนื้อเรื่องบิ๊วมาดี ฉากต่อสู้ในแต่ละซีนมันเลยดูทรงพลังกว่าที่เวอร์ชันฉายโรงเป็น และอย่างที่ผมบอกไปตอนต้น Snyder Cut ไม่มีกั๊กครับ
เพราะฉะนั้นอะไรที่เราไม่คิดว่าจะได้เห็น เราก็จะได้เห็น และบอกเลยว่าบทบาทของสมาชิกทีม Justice League ใน Snyder Cut นั้นสำคัญทุกตัว ไม่ได้ดึงใครมาเป็นตัวแก๊กเหมือนอีกเวอร์ชันครับ Zack Snyder เยียวยาจากความเศร้า เขาก็เริ่มแย้มอยากสานต่อโปรเจกต์ Justice League ของตัวเองให้สำเร็จ จนสุดท้ายผู้บริหาร Warner ก็ยอมให้เข้าทำ พร้อมเติมงบมาให้ถ่ายทำฉากเพิ่มเติม หากสนใจอ่านรีวิวหนังเพิ่มคลิ้กเลย รีวิวหนังออนไลน์